“แพท ณปภา” ห่วงลูกทำร้ายเพื่อนที่โรงเรียน ยอมรับใช้วิธีการตีลูกให้เจ็บเพื่อสั่งสอน ตอนนี้ไม่ตีแล้ว เผย นานๆ ที “เบนซ์” จะอาสาไปรับลูกให้ สถานะตอนนี้ชัดเจนแล้ว เหลือแค่พ่อกับแม่ที่ช่วยกันเลี้ยงลูก แม้ไม่คุย ไม่เคลียร์กัน ไม่รู้อีกฝ่ายมีคนใหม่หรือยัง แต่ไร้ปัญหา ขอแค่บอกกล่าวกันก็พอ โอดมีพันธะ ยากที่ผู้ชายจะเลือก
ต้องยกตำแหน่งคุณแม่สายสตรองให้กับสาว “แพท ณปภา ตันตระกูล” จริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้ว ยังขยันตัวเป็นเกลียว รับงานทั่วราชอาณาจักร ทั้งงานพิธีกรหลักอยู่หลายช่อง งานอีเวนต์ ถ่ายทำคลิปลงยูทูปช่องตัวเองอีก ซึ่งล่าสุด ก็ควงลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “น้องเรซซิ่ง” มาร่วมงาน Crocs (คร็อกส์) เปิดตัวรองเท้าคอลเลกชันใหม่ LiteRide Kids ณ CentralWorld โดยสาวแพทเผยว่าตอนนี้ลูกชายเข้าโรงเรียนแล้ว และไม่มีอาการร้องไห้ตามแม่เลยสักครั้ง แต่ที่ห่วงคือเรื่องไปไฟท์ติ้งกับเพื่อนคนอื่นเท่านั้น
“ตอนแรกก็ตื่นเต้น เราก็รู้สึกว่าเขาไม่น่าจะร้องไห้ เขาก็ไม่ร้องจริงๆ เราก็รู้สึกว่าร้องหน่อยไหม เขาก็ไม่ร้องเลย จนวันประชุมผู้ปกครอง แพทไม่ได้ไป แต่เพื่อนแพทไป คุณครูก็บอกว่าน้องเรซซิ่งเขาพร้อมกับการมาเรียนมาก นั่นหมายความว่าทุกเช้าที่แพทไปส่งจะไม่มีน้ำตา ไม่มีอะไร ต่อให้ง่วงแค่ไหน แต่พอถึงหน้าห้องเรียน เขาจะรู้ว่าเขาต้องสวัสดีแม่ เพราะคุณครูต้องไล่เรากลับ แล้วเขาก็จะต้องถอดกระเป๋า ถอดรองเท้า แล้วเข้าห้องเรียน ไม่มีวันไหนที่งอแงตามแม่เลย พอออกมาก็ร่าเริงปกติ”
“ตอนแรกเป็นห่วงค่ะ ห่วงเรื่องไฟท์ติ้ง (ยิ้ม) ก็ต้องพูดตามตรงว่าปกติเขาอยู่กับพี่ๆ ทุกคน ทุกคนก็อยากจะเล่นกับเขา แต่เขายังไม่เคยเจอโมเมนต์ที่อยากเล่นกับใครแล้วเพื่อนเดินหนี เขาไม่เข้าใจ เพราะเขาเจอแต่วิ่งเข้าหาใครแล้วทุกคนก็เล่นกับเขา พอเขาไปอยู่ในกลุ่มวัยเดียวกัน แล้วก็มีไม่เล่นกัน มีผลักกัน นี่เขาก็ผลักกลับ เราก็ไปถามครู ครูก็บอกว่าเรซเขาพยายามเข้าไปกอด อยากเล่นแต่เขาไม่เล่นด้วยก็เอาล่ะ เลือดแม่เนอะ งงมาก แต่ครูบอกเดี๋ยวก็เป็นปกติเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เขาจะดีขึ้น เขาก็เป็นอยู่ประมาณ 4 วัน หลังจากนั้น ครูไม่เคยบอกอีกเลยว่าเขามีไฟท์ติ้ง อาทิตย์นั้นเป็นอาทิตย์ที่แพทไปรับเขา แพทก็ถามครูทุกวันเลยว่าวันนี้น้องไฟท์ติ้งมั้ยคะ คือเราน่ะห่วงเพื่อนเขา เข้าใจใช่มั้ยคะสังคมผู้ปกครอง ทุกคนรักลูกเขาหมด เราก็กลัวว่าเรซจะไปทำร้ายเพื่อน แล้วเพื่อนไปฟ้องแม่ แล้วมันจะกลายเป็นปัญหาต่างๆ”
ยอมรับใช้วิธีการตีลูก บอกพอตีแล้วจำ ลูกก็จะไม่ทำอีก และตอนนี้ก็ได้ผล เพราะไม่ต้องใช้วิธีตีแล้ว
“ก็ไม่ต้องรอให้ถึงบ้านเลยจ๊ะ ถ้าวันไหนครูบอกมีไฟท์ติ้ง ขึ้นรถปุ๊บ เรซ แม่พูดหลายครั้งแล้วใช่ไหมคะเรื่องไฟท์ติ้ง เขาจำนะคะ แล้วพอเขาได้อยู่ในสังคมกับเพื่อนเขาก็จะรู้ว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ เขาก็จะซอฟต์ลง แรกๆ ก็ตีค่ะ คือแพทต้องบอกว่าวิธีการเลี้ยงลูกของแต่ละบ้านสะดวกแบบไหนก็เลี้ยงแบบนั้น ตัวแพทก็ถูกตีมาตลอด เพราะแพทก็ดื้อแบบเขานี่แหละ แม่ก็ตีตลอด แล้วก็ทำให้แพทจำว่าถ้าแพทดื้อแบบนี้อีก มันต้องเจ็บ แพทก็จะไม่ทำ แพทตีเรซจนตอนนี้แทบจะไม่ต้องตีเขาเลย เหมือนแพทแค่พูดว่าเดี๋ยวแม่ตีนะ เขาจะรีมายด์เลยว่ามันเจ็บ เขาก็จะหยุด”
“แล้วแพทจะไม่ตีเล่นๆ นะ แพทตีให้เขาร้องเลย เพราะอะไรรู้ไหมคะ คุณหมอบอกว่าจริงๆ คุณหมอก็ไม่แนะนำหรอก แต่ถ้าคุณแพทเลือกที่จะตี ก็ตีให้เขาจำไปเลย อย่าตีเล่นๆ เพราะเขาจะคิดว่าเราเล่นด้วยแล้วเขาตีกลับ จนถึงวันนี้แพทคุยกับเขาแบบเป็นผู้ใหญ่เลย ไม่ตีเขาอีกเลย ตอนนี้ก็จะบอกว่าถ้าเรซซิ่งจะทำอย่างนี้ มีอยู่สองอย่างคือแม่จะไม่คุยด้วยหรือจะให้แม่ตี เขาจะหยุดคิดว่าทั้งสองทางมันไม่โอเค เขาก็จะหยุด”
เผยอดีตสามี “เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” มีไปรับที่โรงเรียนบ้าง แต่ไม่บ่อย
“ป๊ะป๋าเขาขอที่จะไปรับแทน ด้วยความที่เราอยู่คนละบ้าน และลูกอยู๋กับเรา เขาก็มองว่ากว่าเขาจะออกมาจากตรงนั้นมาโรงเรียน แล้วลูกก็แค่บ๊ายบาย ซึ่งเขาก็คิดว่าอยากจะไปรับมากกว่า ก็อาจจะไปรับแค่วันพุธหรือวันที่เขาว่าง เพราะเขามองว่าเขายังพอมีเวลาพาลูกไปกินข้าว กินขนมก่อนพามาส่งเรา เราก็โอเค ยังไงก็ได้ หลายๆ คนที่เห็นภาพแล้วบอกน่ารักใช่ไหม จริงๆ โมเมนต์นั้นเราพยายามเป็นเพื่อน เป็นพ่อ เป็นแม่ เราช่วยกันเลี้ยงเขา แพทไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้วว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เอาที่เขาทำแล้วเขามีความสุขและเขาอยากทำดีกว่า เราจะไม่ไปกะเกณฑ์ว่าเขาจะต้องไปรับลูกวันนั้นวันนี้ ถ้าอยากมาให้ทักมา อยากทำอะไรให้บอก ถ้าเราสะดวกยังไงก็มาจอยกันได้เลย”
“เขาจะไปรับนานๆ ทีค่ะ อาจจะด้วยความที่มีงานด้วยกันแม่ลูก และเขาอาจจะไม่สะดวกมาจอยกับเรา แพทไม่ได้ปิดกั้นนะ คือสมมติอย่างวันนี้แพทมีอีเวนต์ แล้วเขาทักมาว่าอยากจะมา แพทก็ให้เขามา ให้มางานด้วยกันด้วยซ้ำ แต่ตัวเขาเองที่จะเคอะๆ เขินๆ ส่วนใหญ่ก็เลยไม่ได้มา ช่วงนี้เราเองก็ไม่ค่อยได้ไปส่งที่โรงเรียน ด้วยความที่รายการเช้ามากค่ะ แล้วเราก็คำนวณแล้ว เข้าใจเส้นเอกมัยเนอะ คือไปผิดเวลา 5 นาทีคือจอดรถนอนเลยจ๊ะ เราก็เลยต้องไปหวังพึ่งพี่ๆ ที่ช่องว่าไปส่งให้หน่อย บางวันหนักหน่วงที่สุดคือไปรับให้น้องหน่อย แล้วมาส่งที่งานให้ด้วย”
บอกแอบหลอนกลัวลูกจะไปกับคนอื่นง่ายๆ แต่ก็พยายามให้คนที่สนิทเท่านั้นช่วยไปรับไปส่งลูก
“เขาก็ไม่งอแงหาแม่ค่ะ ไม่มีเลย เด็กคนนี้ไม่เคยทำให้เรากังวล แต่คนที่ไปรับไปส่งแพทก็ต้องมองว่าเขาสนิท อย่างพี่จุ๊บที่ช่อง 3 เขาก็เห็นเรซมาตั้งแต่ตอน 3 เดือน เขาก็เลี้ยงกันมา เขาก็สนิทกัน หรืออย่างเจนเพื่อนสนิทแพทหรือไม่ก็น้องนาฟ (หลาน) ที่ให้ไปรับไปส่ง แต่ถ้าเป็นไปได้ที่สุดแล้วแพทก็จะพยายามทำด้วยตัวเอง ถามว่าแอบกลัวไหมว่าเขาจะไปไหนมาไหนกับคนอื่นได้ง่าย กลัวค่ะ พอเห็นข่าวเราก็หลอนเนอะ เวลาไปไหนมาไหนเราก็จะตื่นตัวตลอดเวลา ถ้าเราไม่ได้ไปก็ต้องเรียกหานาฟ เจน เวลาเราเจอข่าวที่ว่าเด็กหายภายในเสี้ยววินาที แล้วเด็กคนนี้เป็นคนที่เวลาเขาสนใจอะไรเขาจะถลาเลยนะ บางทีเราก็ต้องคอยสอดส่อง คือหายแล้วทำใหม่ไม่ได้แล้วเด้อ”
“ก็ต้องคอยบอกลูกตลอดว่าห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ บอกจนไม่รู้จะบอกยังไงแล้วค่ะ เผอิญว่าเราก็พาเขาไปทำงานตั้งแต่เล็กเนอะ เขาก็เลยชิน วันนึงไม่รู้เขาเจอคนตั้งกี่ร้อยคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนแปลกหน้าแล้วเขาจะโผไปได้หมดนะ นางก็จะมีการฉุกคิด ถ้านางไม่มั่นใจก็จะมาถามแม่”
เผยความสัมพันธ์กับ “เบนซ์” ตอนนี้อยู่ในสถานะแค่พ่อกับแม่ “น้องเรซซิ่ง” เท่านั้น
“น่าจะชัดเจนนะ ในความรู้สึกแพทตอนนี้มันน่าจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คือถึงเราจะไม่พูดกัน นี่คือสิ่งที่เราเลือกจะไม่พูดกัน ไม่มานั่งเคลียร์กัน แพทก็ไม่รู้เพราะอะไร แต่เราสองคนเลือกที่จะไม่พูดกันเลยว่าฉันกับเธอเป็นอะไร แต่เหมือนให้เวลามันทำให้เห็นว่านี่คือบทสรุปของเราสองคนว่าเราจะทำหน้าที่เป็นพ่อกับแม่แค่นี้แหละ และเราสองคนก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน วันไหนที่เขามีปัญหา ทุกครั้งเขาโทร.หาแพทตลอด หรือถ้าแพทมีปัญหาอะไรแพทก็โทร.หาเขา แต่เราจะไม่ได้คุยกัยเรื่องจุกจิกแบบคู่รักนะ ไม่มี แต่จะเป็นการปรึกษากันเรื่องลูก เพราะฉะนั้นการคุยกันมันก็จะไม่ได้บ่อย ถ้าไม่มีสถานการณ์อะไรที่ต้องคุย เราสองคนก็จะไม่ได้คุยกัน ไม่ได้เจอกัน ไม่มีนัดทานข้าว”
ปัดไม่รู้อีกฝ่ายมีคนใหม่หรือยัง แต่ก็เปิดกว้างเสมอแค่บอกกัน ส่วนตัวเองยังไม่มีแน่ๆ
“ข่าวว่าเขามีคนใหม่แล้วเหรอ อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ก็มีคนถามแพทเหมือนกัน แต่เราเองก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยถามเขาเรื่องนี้เลยว่าเขามีใหม่หรือยังหรืออะไรยังไง แต่ไม่มีปัญหาเลย แพทบอกแล้วว่าถ้ามีหรืออะไรก็บอกกล่าว เผื่อวันไหนที่เขารับน้องไปเล่น เขาจะได้รู้ หรือถ้าเรามีก็ต้องบอกเขา แต่เราอยู่ตรงนี้เขาน่าจะรู้ง่ายอยู่แล้ว”
“แต่สำหรับแพทตอนนี้ยังค่ะ คือเราทำงานหนัก เรามีความสุขที่ได้ทำงาน มีความสุขที่ได้เลี้ยงลูก คือจะหาเวลาให้ตัวเองตอนนี้คือช่วงก่อนไปรับลูก คือ 11.00 - 13.00 น. แค่นั้น แพทก็เอาเวลาตรงนี้ไปซื้อของให้ลูก เตรียมของ หรือไม่ก็ไปทำบุญ หรือไม่ก็รับจ๊อบในช่วงนี้ พอรับลูกเสร็จก็พาไปเรียนเสริมอีก แล้วแพทเจอแต่คนเดิมๆ เพราะแพททำงานเหมือนงานประจำ พิธีกร 5 วัน ก็จะเจอแต่คนเดิมๆ ไม่ได้เจออะไรใหม่ๆ คนใหม่ๆ และแพทคิดว่าคนมีลูกแล้วมันไม่ง่ายเลยนะกับการที่จะเจอใครอีกคนที่จะรักเรา รักลูกเราเหรอ คือถ้าเขามีช้อยส์ เขาก็เลือกช้อยส์ที่ไม่มีพันธะก่อนไหม ก็เลยคิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาของเรา และคงยังไม่มีใครเล็งเห็นความสวยของเราแน่เลย”