ผู้เสียหายกว่า 10 คนรวมตัวแจ้งความกับกองปราบ เอาผิด “นายธนวัฒน์ วันสม” ผิดสัญญาการจัดประกวดนางสาวไทย 2562 ผู้จัดระดับจังหวัดเผยจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับนายธนวัฒน์แต่เพียงผู้เดียว แต่สุดท้ายมีการเปลี่ยนมือโดยที่ไม่แจ้ง แถมชิ่งหายเงียบไม่รับผิดชอบ ไม่ติดต่อกลับ เผยมูลค่าความเสียหายหลักล้าน พร้อมขอให้รับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายคืนให้เหล่าสปอนเซอร์ให้หมด ด้าน “นก ชลิดา” แจ้งความด้วย ถูกเบี้ยวค่าจ้าง
เวทีนางงามเกิดเรื่องงามไส้ กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน รวมตัวกันเดินทางเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เพื่อเอาผิด “นายธนวัฒน์ วันสม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิว แคปปิตอล จำกัด ในข้อหาผิดสัญญาในการซื้อลิขสิทธิ์การจัดประกวด “นางสาวไทย 2562” ในระดับจังหวัดและภูมิภาค ทั้งยังไม่จ่ายค่าจ้างในการดำเนินงานจัดการประกวดฯให้กับซัพพลายเออร์ ซึ่งมูลค่าเสียหายสูงหลักล้าน
โดยได้มีตัวแทนซัพพลายเออร์ “ณัฐกาญจน์ เสนเนียม” ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายทางฝั่งผู้ซื้อลิขสิทธิ์จัดประกวดนางสาวไทย ในระดับจังหวัดและภูมิภาค นำโดย เมย์ กุณฑีรา สัตตบงกช รองนางสาวไทยอันดับ 2 ปี 2543, โบ ภัคภัสจ์ พัชรวิชยานนท์, หยินมี่ เทียนพรรษา สนณ์ณกิตตน์กุล และ ตีฟ ธนกฤต อังคณากุลชัย ยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุดเพื่อเรียกร้องให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบที่ทำให้เสียหาย พร้อมเผย “นก ชลิดา ตันติพิภพ” นางสาวไทยปี 2541 ที่มารับหน้าที่ Timeless Beauty Coach ให้กับสาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเช่นเดียวกัน เนื่องจากไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งทาง “ณัฐกาญจน์” ได้เผยถึงการมาแจ้งความในวันนี้ว่า
“วันนี้ณัฐในนามของผู้รับจ้างส่วนหนึ่งจากบริษัท ทีดับบลิว แคปปิตอล ก็เดินทางมาแจ้งความที่กองปราบ ร่วมกับผู้เสียหายที่เป็นผู้ถือสิทธิจังหวัด และภาค เหล่านี้เป็นตัวแทนนะคะ ถามว่าวันนี้มาดำเนินคดีกับใคร เราขอแบ่งเป็นสองส่วนนะคะ ส่วนแรกของตัวณัฐเองจะเป็นส่วนของตัวแทนซัพพลายเออร์ และมีซัพพลายเออร์เจ้าอื่นมาด้วย ซึ่งเราถูกรับการว่าจ้างจากคุณธนวัฒน์ วันสม ภายใต้บริษัท ทีดับบลิว แคปปิตอล และ ทีดับบลิว แพเจ้นท์ ค่ะ และภายใต้คุณวันรัก ณ นคร (เจ้าของบริษัทนาการา) ที่เป็นผู้บริหารของกองนางสาวไทย ในฐานะผู้อำนวยการกองประกวดนางสาวไทย และผู้จัดการกองประกวดนางสาวไทย ซึ่งภายหลังได้ทราบว่าคุณวันรัก ณ นคร ถือสิทธิในนามบริษัท นาการา ไม่ใช่ทางบริษัท ทีดับบลิว แคปปิตอล หรือ ทีดับบลิว แพเจ้นท์ ที่เป็นผู้ถือสิทธิ”
“ปัญหาที่เกิดขึ้นจะขอพูดในส่วนของตัวณัฐเองและทีมซัพพลายเออร์อื่นๆ นะคะ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเรามีการดำเนินการจัดงาน หรือบริหารจัดการโครงการ หรืองานอีเวนต์ หรือประชาสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยได้รับค่าจ้างงานใดๆ เกิดขึ้นเลย และถูกถอดออกจากการทำงาน ภายหลังจากที่เรามีการทวงถามค่าจ้างเป็นระยะเวลาหลายๆ ครั้งค่ะ ซึ่งถามว่าทำไมเขาถึงไม่จ่าย ทั้งๆ ที่สปอนเซอร์ก็ยังเข้าอยู่เรื่อยๆ อันนี้ต้องไปถามทาง ทีดับบลิว แคปปิตอล นะคะ ว่าทำไมเขาถึงไม่จ่าย เพราะทางเราก็มีการทวงถามไปหลายครั้งมากๆ ทั้งที่มีการประชุมร่วมกัน หรือแม้แต่จะมีการทวงถามไปทางไลน์แชต หรือการโทร.ถาม หรืออะไรต่างๆ จนตอนหลังเราก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย”
“เขาไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ ว่าทำไมถึงยังไม่จ่ายค่ะ ช่วงหลังๆ ไม่รับสายด้วยค่ะ และไม่ได้ตอบใดๆ กลับมา ซึ่งถามว่าค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ ของระดับจังหวัดมันไปเข้าทางทีดับบลิว แคปปิตอล เลยใช่ไหม คือรายได้ต่างๆ จะเข้าตรงไปที่ทีดับบลิว แคปปิตอล ทั้งหมดค่ะ จะเห็นตามใบรับเงิน ใบเสนอราคา และสัญญาต่างๆ จะถูกระบุให้โอนเข้าที่บัญชี ทีดับบลิว แคปปิตอล ทั้งหมด ก็จากสปอนเซอร์ ผู้ซื้อลิขสิทธิ์จังหวัด ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ภาค และอื่นๆ ค่ะ ในเรื่องของจำนวนเงินก็เยอะเหมือนกันค่ะ แต่ขออนุญาตละตรงนี้ไว้นะคะ แต่แจ้งว่าเยอะค่ะ เพราะว่าเฉพาะผู้ถือสิทธิที่เป็นตัวแทนที่มาอยู่ตรงนี้ก็เสียหายไปเยอะมาก ก็หลักล้านขึ้นค่ะ”
ทางฝั่งตัวแทนภาคอีสานอย่าง “หยินมี่ เทียนพรรษา สนณ์ณกิตตน์กุล” เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทำมาทั้งหมดตั้งแต่ต้น ยังไม่ได้เห็นตัวสัญญาส่งมาเลย แม้จะมีการทวงถามไปแล้วหลายรอบก็ตาม
“เป็นตัวแทนของภาคอีสาน ซึ่งวันนี้มาสองคนนะคะ คือตัวหยินเองกับตัวคุณโบ คือทางเราได้ไปพูดคุยต่อกับทางสปอนเซอร์ระดับจังหวัด หรือแม้กระทั่งการทำสัญญากันไว้ว่ามันจะมีการถ่ายทอดสดแบบนี้ในระดับภาคนะ เด็กของเราจะได้สิทธิแบบนี้ และมีบิวตี้ไทม์เลส บิวตี้โค้ชที่จะเป็นรายการเรียลลิตี้โชว์ด้วย ซึ่งก็ไม่มีและถูกตัดทิ้งไป เราก็ถูกทวงถามกลับมาว่าทำไมมันไม่เหมือนกับข้อตกลงที่เราคุยกันเอาไว้ในระดับจังหวัด และเมื่อเราทวงถามกลับเข้าไป สิ่งที่เราได้รับตอบกลับมาคือ ในช่วงแรกๆ เลยที่เรายังไม่รู้เรื่องอะไรกัน เราติดต่อใครไม่ได้เลย มันกลายเป็นว่าเราก็ไม่มีคำตอบให้กับลูกค้าของเราเช่นกัน รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่เราควรจะได้ มันกลับไม่ได้ และเมื่อเรามารู้อีกทีก็คือมันมีการแถลงข่าวล่าสุดของกองประกวด เราก็เพิ่งมารู้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปหมดเลย แล้วเราทวงถามได้ที่ใคร มันกลายเป็นว่าเราไม่สามารถทวงถามได้ที่ใครใดๆ เลย”
“ถามว่ามีทำสัญญากันไหมตอนเริ่มต้น คือเราได้แค่ตัวเอกสารสัญญาของจังหวัดอื่นที่เป็นตัวอย่างมาให้ดูนะคะ แล้วเขาขอคืนมัดจำ เราก็ทวงถามไปว่าเราโอนเงินมัดจำเสร็จหรือโอนเงินค่าลิขสิทธิไปแล้วก็ต้องมีการนัดทำสัญญา ซึ่งเราพยายามทวงถามเข้าไปเรื่อยๆ แล้วเราไม่ได้รับ เคยมีการถามด้วยว่าทำไมให้โอนไปที่ ทีดับบลิว แคปปิตอล เพราะว่าในสื่อออกไปว่า ทีดับบลิว แพเจ้นท์ ใช่ไหมคะ เขาบอกว่ามันเป็นเครือเดียวกัน ส่วนนึงเป็นของการทำงาน ส่วนนึงเป็นส่วนของเซ็นลิขสิทธิ แต่ในเครือเดียวกัน คุณธนวัฒน์ วันสม เป็นผู้ถือหุ้น”
“ต้องบอกว่าไม่ได้เอะใจตรงนั้น เพราะว่าในข่าวที่เสนอไปตั้งแต่แรกเลย ต้องบอกว่าเราเชื่อใจคำว่าสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธ จริงๆ ทุกๆ คนจากที่เราได้พูดคุยกันเรียกได้ว่าเราแทบจะตัดคุณธนวัฒน์ วันสม หรือ ทีดับบลิว แคปปิตอล ออกไปเลย เราเชื่อใจในการทำงานกับทางสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธมากกว่า และด้วยความที่เป็นเวทีนางสาวไทย เราอยากจะมาทำตรงนี้มากกว่าค่ะ และถึงแม้เราจะจ่ายเงินไปแล้ว แต่สัญญาก็ยังไม่ได้ มันก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อค่ะ เพราะเราเองก็ถูกบีบมาเหมือนกันว่าเราจะต้องได้ตัวเด็กในจังหวัดของเราไม่เกินวันนี้ๆ”
“ซึ่งแต่ละจังหวัดค่าลิขสิทธิ์ก็ไม่เท่ากันค่ะ ของหยินเป็นจังหวัดเล็กนะคะ ค่าลิขสิทธิ์คือ 1 แสน มันจะมีจังหวัดเล็ก จังหวัดกลาง และจังหวัดขนาดใหญ่ ลิขสิทธิ์จะไม่เท่ากัน จังหวัดเล็กก็อย่างศรีสะเกษ จันทบุรีหรืออะไรแบบนี้ค่ะ ถ้า 2 แสนก็จะเป็นคล้ายๆ กับอุดรธานี อย่างคุณโบก็จะ 2 แสน ระยองก็ 2 แสนเป็นต้น ถ้า 3 แสนก็อย่างเชียงใหม่ กรุงเทพฯ อะไรพวกนี้ค่ะ ถามว่าทุกจังหวัดจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับคุณธนวัฒน์คนเดียวเลยไหม อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ แต่ส่วนตัวของทางพวกเราเองส่วนใหญ่จ่ายกับทาง ทีดับบลิว แคปปิตอล ค่ะ”
ทางด้าน “ตีฟ ธนกฤต อังคณากุลชัย” ตัวแทนภาคกลางและภาคใต้ ก็เผยว่าแม้ตนจะได้สัญญามา แต่พอมารู้ทีหลังว่าผู้ที่ได้สิทธิในการจัดงานจริงๆ กลับไม่ใช่ บริษัท ทีดับบลิว แคปปิตอล ซะอย่างนั้น
“ส่วนที่มาในวันนี้ เพราะผมงงในการทำสัญญา เพราะผมเป็นคนที่ได้สัญญา แต่ทางคุณหยินที่เป็นตัวแทนศรีสะเกษยังไม่ได้ แต่ทางผมได้มาแล้ว ซึ่งการทำสัญญาของ ทีดับบลิว แคปปิตอล สรุปผมมารู้ทีหลังว่า ผู้ที่ได้ลิขสิทธิ์ในการจัดงานไม่ใช่บริษัท ทีดับบลิว แคปปิตอล แต่คือบริษัท นาการา แล้วเราทำสัญญากับใคร ทีดับบลิว แพเจ้นท์ หรือ ทีดับบลิว แคปปิตอล คือใคร ซึ่งทำให้เราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราทำสัญญาไป เราทำสัญญาคู่กับใครไป แล้วเราจะเรียกร้องสิทธิได้ตรงไหน นี่คือที่เรามาในวันนี้ เพื่อมาสร้างความชัดเจนว่าสรุปแล้ววชิราวุธก็ได้บอกแล้วว่าเขาทำสัญญากับนาการา ไม่ได้ทำสัญญากับทีดับบลิว แคปปิตอล หรือ ทีดับบลิว แพเจ้นท์ จึงเป็นที่มาในการมาวันนี้ เพื่อมารักษาสิทธิในส่วนผู้ถือสิทธิของจังหวัดครับ”
“ถามว่าในการผิดสัญญาเขาต้องชดใช้แบบไหนยังไง เขาก็มีระบุในสัญญานะครับ แต่ถ้าเกิดพูดถึงความถูกต้องเราเองก็ไม่รู้ ภาพสื่อที่ออกมาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวันแถลงข่าวหรือวันอะไรก็ตามเป็น ทีดับบลิว แพเจ้นท์ มาตลอด เราก็คิดว่านี่คือเขา เราไม่ได้รับรู้ว่านาการาคือผู้ที่ได้ลิขสิทธิ์จากวชิราวุธโดยตรง”
ทางด้าน “ณัฐกาญจน์” เผยต่อว่า มารู้ตัวว่าถูกลอยแพก็ตอนที่รู้ว่าจะไม่มีการถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวีเหมือนที่ตกลงในสัญญาตอนแรก
“น่าจะเป็นส่วนที่มีคอมมิทเมนต์ไว้ว่าจะต้องออนแอร์ในส่วนของช่องไทยรัฐทีวีเป็นเทปรายการเรียลลิตี้นะคะ ซึ่งตัวนี้กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิจังหวัด ผู้ถือสิทธิภาค และสปอนเซอร์ต่างๆ เริ่มจะได้รับความเสียหาย จนหลายๆ ท่านเพิ่งจะมารู้ตัวด้วยกันตอนที่ว่าไม่มีช่องออกอากาศของทางไทยรัฐทีวี ก็ถูกเปลี่ยนไป ถามว่าเรามีท้วงไปทางวชิราวุธไหมว่าไม่มีการออกอากาศ จริงๆ แล้วโดยส่วนตัวของณัฐเองในฐานะซัพพลายเออร์ผู้รับงาน เราทวงถามไปที่ทางคุณธนวัฒน์และคุณวันรัก คือนาการา ในส่วนของทั้งทีดับบลิว แคปปิตอล และ นาการา หลายรอบมากๆ มีการประชุมหารือร่วมกัน ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนในการที่จะต้องทำสัญญาเพื่อออกอากาศรายการกับช่องไทยรัฐทีวี หลังจากนั้นเราก็ได้มีการพูดคุยกับทั้งตัวแทนของสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ และได้มีการอินฟอร์มไปว่าตอนนี้เหตุเริ่มเกิดแล้ว แต่เราก็ทำได้แค่การอินฟอร์มให้รับทราบเท่านั้น เนื่องจากว่าทางทีดับบลิว แคปปิตอล ไม่ได้เป็นผู้เซ็นสัญญาโดยตรงกับทางสมาคม”
“ถามว่าได้ถามทางวชิราวุธไหมว่าคุณธนวัฒน์มีปัญหาอะไร อยู่ดีๆ ก็หายไป ตรงนี้เป็นเรื่องของทางคุณธนวัฒน์ หรือทาง ทีดับบลิว แคปปิตอล หรือทางนาการา กับทางสมาคมเองนะคะ เราจะไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงตรงนั้น เราก็ทำหน้าที่ได้แค่ว่าเราทวงถามสิ่งที่ทำงานตามที่เราคอมมิทกับผู้ซื้อสิทธิต่างๆ ที่ซื้อจากเราไปให้เกิดการทำงานที่สมบูรณ์ ซึ่งก็มีผู้เสียหายทั้งหมดเกิน 10 ท่านค่ะ”
เผยทางด้าน “นก ชลิดา ตันติพิภพ” นางสาวไทยปี 2541 ก็ได้เข้ามาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากยังไม่ได้รับค่าจ้างที่ตกลงกันไว้เช่นกัน
ณัฐกาญจน์ : “ทางพี่นกมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
หยินมี่ เทียนพรรษา : “ถามว่าพี่นกแจ้งความในส่วนไหน เอาผิดกับใคร คิดว่าน่าจะเป็นค่าตัวที่ไม่ได้รับ”
ณัฐกาญจน์ : “ตรงนี้ขออนุญาต พอดีว่าเป็นเรื่องของพี่นกเองนะคะ ตัวณัฐเองสามารถพูดได้ในส่วนที่ว่าเรารับทราบว่าพี่นกได้ดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เป็นหนึ่งในผู้เสียหายเหมือนกัน คือพี่นกเป็นหนึ่งในไทม์เลส บิวตี้โค้ชของภาคอีสาน คือการจัดงานรอบนี้เราจะแบ่งอดีตนางงามเป็น 4 ท่าน 4 ภาคดูแลให้ทุกๆ ท่าน เพื่อเทรนด์นางงามแต่ละท่าน ออกมาให้ได้ความเป็นนางงามที่ครบเครื่อง พร้อมที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดที่เวทีต่างประเทศ พี่นกก็จะดูแลในส่วนของภาคอีสานเองโดยตรง”
“ซึ่งโค้ชทั้ง 4 ท่าน ทางภาคเหนือก็จะมี คุณโบว์ลิ่ง (ปริศนา กัมพูสิริ) อดีตนางสาวไทยปี 2555 ส่วนภาคอีสานเป็น พี่นก ชาลิดา นะคะ ภาคกลางเป็น พี่บุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) ภาคใต้เป็น คุณเมญ่า (นนธวรรณ บรามาซ) จากเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ แต่ถามว่าไม่ได้รับการจ่ายค่าตัวทั้ง 4 ท่านเลยมไหม อันนี้ณัฐขออนุญาตไม่พูดถึงตรงนี้นะคะ เพราะว่าเป็นเรื่องของพี่ๆ ทั้ง 4 ท่าน ตรงนี้ขอละไว้ ณัฐจะพูดในส่วนของผู้เสียหายที่อยู่ตรงนี้แล้วกันค่ะ”
บอกต้องการเรียกร้องให้ใช้เงินคืนตามที่ผู้เสียหายบางส่วนต้องการ และถ้าจะให้ทำต่อในปีหน้าหรือต่อๆ ไปก็อยากให้มีการคุยกันให้ชัดเจน
ณัฐกาญจน์ : “ถามว่ามีผู้เสียหายเพิ่มเติมอีกไหม เท่าที่รับทราบมีอีกค่ะ จะทยอยกันเข้าแจ้งความ และที่แจ้งความแล้วก็มี”
หยินมี่ เทียนพรรษา : “และจะมีบางส่วนของระดับภาค ในส่วนของตำบล เขาก็อาจจะค่อยๆ เข้าตามมาสมทบ ค่าเสียหายของพวกเรามันไม่ใช่แค่ค่าลิขสิทธิ มันจะเป็นการติดตามทวงถามในเรื่องการจัดงานของเราเองด้วย เพราะเราเองพยายามอัดรายการ อัดทุกอย่างเอาไว้ เพื่อที่จะส่งให้กับกองแม่ เพื่อที่จะเอามาตัดต่อเป็นรายการทีวีหรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนตัวหยินไม่เคยเจอคุณธนวัฒน์ เพราะหยินซื้อต่อผ่านทางคุณโจ้ ทางคุณณัฐ เราก็เลยต้องมาบีบ มาถามกับทางเขา ซึ่งเขาก็ถูกซัพมาอีกทีนึง มันก็เลยกลายเป็นว่าเราเลยจะต้องมาด้วยกัน จริงๆ มีตัวแทนมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ ทยอยมากันค่ะ”
“ถามว่าการที่เราไม่ได้เซ็นสัญญา มันจะทำให้เราเสียเปรียบไหม แต่เราติดตามทวงถามไป ซึ่งเราก็ถามทางทนายไปเรื่อยๆ และมีพยานในการโทร.ตลอดว่าเราถามถึงสัญญาตลอดเวลา เพราะว่าการทำธุรกิจมันต้องมีสัญญา แต่เราก็ต้องจ่ายเงินไปก่อนมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนะคะ แต่เมื่อเราทำสัญญาแล้ว เราได้ทวงถามไปแล้ว ถามเรื่อยๆ แม้กระทั่งวันที่เราประกวดเสร็จแล้ว เราก็ยังทวงถาม ก่อนที่จะรู้ว่ามีปัญหาใดๆ แม้กระทั่งวันที่เราทำงานที่ระดับภาค หยินก็ยังไม่ได้คุยกับคุณณัฐเลยว่า หยินยังไม่ได้สัญญาเลยนะ ณ ปัจจุบันนี้”
“ซึ่งเขาก็บอกว่าจริงเหรอ ก็ต้องรอทางบริษัทใหญ่เป็นคนออกให้ ใบเสร็จหยินก็ยังไม่ได้เลย สิ่งที่หยินมีมาวันนี้ก็คือแค่ใบโอนเงินกับใบที่เขาให้อำนาจสิทธิในการจัดประกวดเวทีเท่านั้นเอง แต่มันก็มีหลักฐานอื่นๆ เพราะเราได้จ่ายเงินไป ก็ถือว่ามันก็เกือบจะสมบูรณ์นะคะ และที่เราทราบมาก็คือในหัวต่างๆ ที่เขาเขียนไว้คือ ทีดับบลิว แพเจ้นท์ มันยังไม่ได้ถูกจดบริษัท ยังไม่มีเลขบริษัทใดๆ เลย มันก็เลยเข้าข่ายการปิดบังซ่อนเร้นฉ้อโกงได้ เราก็เลยมาทำเรื่องในวันนี้ค่ะ”
“บางส่วนก็ต้องการที่จะให้คืนเงิน เพราะเขาก็คงหมดศรัทธากับการทำตรงนี้ไปแล้ว เพราะจริงๆ แล้วทุกคนไม่เคยทำเวทีประกวดมาก่อน จากที่เราคุยกันนะคะ แต่ว่าด้วยความเป็นเวทีนางสาวไทย และทุกคนพร้อมที่จะทุ่ม อย่างคุณโบนี่น่าจะหมดเกือบหลัก 2-3 ล้านได้ อย่างหยินเองจังหวัดเล็กก็ล้านนิดๆ แต่ด้วยความที่เราอยากจะทำให้มันเต็มที่ กลายเป็นว่าบางคนเมื่อเต็มที่แล้วและเจอแบบนี้ เขาก็มีความรู้สึกว่าไม่อยากจะทำ เขาอยากได้ค่าลิขสิทธิเขาคืน หรือเงินบางส่วนที่เขาเสียหาย ที่จะต้องเอาไปคืนสปอนเซอร์”
“อย่างส่วนตัวของหยินเองยังไงก็ได้ ขอให้หยินรู้สึกว่าหยินยังได้รับสิทธิที่หยินควรจะได้ รักษาสิทธิของตัวเองอยู่ อย่างถ้าปีหน้าให้หยินจัดใหม่อีกครั้งหนึ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ เรามาตกลงกันอีกทีนึง แต่เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นคนเซ็นสัญญา เขาก็อาจจะไม่ได้มีสิทธิในปีหน้าให้พวกเราได้ทำใหม่ มันก็อาจจะต้องเรียกร้องเป็นทางเงินกลับคืนมา เพื่อที่เราจะได้ไปซื้อลิขสิทธิ์อื่นต่อค่ะ”
ฟาก “โบ ภัคภัสจ์ พัชรวิชยานนท์” เผยว่า ตนศรัทธาในเวทีนางสาวไทย และเชื่อมั่นกับชื่อเสียงของสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธ จึงได้ยอมลงทุนและร่วมด้วยในครั้งนี้
“ของโบก็มาในสิทธิผู้ซื้อจากจังหวัดอุดรฯ และบุรีรัมย์ นะคะ แล้วเราก็มีการชำระเงินไปกับทาง ทีดับบลิว แคปปิตอล แต่เราก็มารู้ทีหลังว่า ทีดับบลิว แคปปิตอล ไม่ได้เซ็นสัญญาโดยตรงกับสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธ แต่ว่าในเอกสารที่เขาส่งให้เรา เขาแจ้งว่าได้รับสิทธิโดยตรงกับทางสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธในการเป็นผู้จัดการประกวดเวทีนางสาวไทย 2562 ซึ่งด้วยความที่เรามีความศรัทธากับเวทีนางสาวไทย ซึ่งเป็นเวทีที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ เราโตมาด้วยเวทีนี้ และด้วยความที่มีการันตีด้วยชื่อเสียงสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธ เราก็มีความเชื่อมั่น โดยที่เราไม่รู้จัก ทีดับบลิว แคปปิตอล เลยแม้แต่นิดเดียว แล้วเราก็มีการโอนเงินไป”
“แต่ตอนหลังเราได้รับการเฉลยว่า ทางสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธได้เซ็นสัญญากับทางนาการา ซึ่งนาการาเราก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามีบริษัทชื่อนี้ด้วย กลายเป็นว่าเราไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องความเสียหายนี้จากใคร เนื่องจากว่าเราจ่ายเงินให้กับทาง ทีดับบลิว แคปปิตอล แต่ ทีดับบลิว แคปปิตอล ไม่ได้เซ็นสัญญากับทางวชิราวุธ กลายเป็นสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธเซ็นสัญญากับนาการา ทางผู้จัดก็เห็นว่าเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หนึ่งคือไม่ได้เซ็นสัญญา แล้วเราจะไปเรียกร้องความเสียหายได้จากใคร หรือแม้แต่สัญญาที่เขาให้เราดูเป็นตัวอย่าง มันจะสามารถใช้การได้ไหม เพราะว่าเขาก็ไม่ได้เป็นผู้รับสิทธิโดยตรง”
ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะความหละหลวมของเหล่าสปอนเซอร์แน่ๆ เพราะมีการแถลงข่าวให้เห็นกันชัดเจน
ณัฐกาญจน์ : “จริงๆ แล้วจะถือว่าหละหลวมได้ไหม คงไม่ได้ เนื่องจากว่ามีการแถลงข่าวก่อนที่จะมีการขายสิทธิไป 2 รอบ รอบแรกออกข่าวไปแล้วตั้งแต่ต้นๆ ปี น่าจะช่วงกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นก็มีการแถลงข่าวอีกรอบหนึ่งช่วงกลางปี ซึ่งการแถลงข่าวทุกครั้งก็เป็นคุณธนวัฒน์ วันสม และคุณวันรัก ณ นคร ครั้งที่สองจะเป็นคุณธนวัฒน์ และตัวดิฉันเอง ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะรองผู้อำนวยการ เป็นผู้แถลง เพราะฉะนั้นเราก็ไม่คิดว่าเราหละหลวมแล้ว ส่วนในเรื่องของสัญญาผู้ที่ไม่ได้รับ เท่าที่สอบถามกันดูน่าจะเป็นทางศรีสะเกษจังหวัดเดียวที่ไม่ได้รับสัญญา นอกนั้นได้รับสัญญากันทุกจังหวัด”
หยินมี่ เทียนพรรษา : “ไม่ๆ ค่ะ มีเยอะค่ะที่ไม่ได้รับสัญญาค่ะ”
ณัฐกาญจน์ : “ถามว่าตอนนี้เราดำเนินการกับคุณธนวัฒน์ฝ่ายเดียว ไม่เกี่ยวกับทางวชิราวุธใช่ไหม คือเราไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับวชิราวุธเลยค่ะ เพราะว่าตรงนั้นเป็นสถาบันที่เป็นผู้ถือสิทธิโดยตรง เป็นเจ้าของสิทธินะคะ ตรงนี้จะไม่เกี่ยวข้องกัน จริงๆ เราก็ไม่อยากไปแตะในส่วนของชื่อเวทีนางสาวไทยหรือสมาคมใดๆ นะคะ เพราะเราทราบว่าตรงนี้เป็นการกระทำของบุคคลและบริษัทเท่านั้นที่ทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ เกิดขึ้น แต่ความเสียหายนี้มันกระทบกับบุคคลจำนวนมากและในวงกว้าง แล้วก็ทำให้ไปกระทบกับชื่อเสียงของเวทีที่เก่าแก่อันยาวนาน เพราะฉะนั้นในส่วนของณัฐเป็นหนึ่งของผู้เสียหาย เราก็เลยต้องออกมาพูดว่าเราขอแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายกับตัวบุคคลและบริษัทนั้นๆ เท่านั้น”