“อองตวน” เคลียร์ "นิโคลีน" แค่คนรู้จัก ปัดแท้จริงซุ่มคบ "น้ำตาล ชลิตา" ยันควงกินข้าวดูหนังสองต่อสองตามประสาเพื่อน ลั่นเอาตัวเองไม่รอด โสดดีกว่า หวนรับหน้าที่พิธีกรรายการเดอะเฟส เมน ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 โอดโชคดีไม่ใช่รายการสด หวั่นไม่มีที่ยืนเพราะพูดไม่คิด บทเรียน 10 fight 10
ตอนเป็นพิธีกรรายการเดอะ เฟส ไทยแลนด์ ครั้งแรกก็โดนวิจารณ์อยู่ไม่น้อย สำหรับอดีตนักมวยสุดหล่อ “อองตวน ปิ่นโต” ล่าสุดเจ้าตัวได้โอกาสมารับหน้าที่เป็นพิธีกรอีกครั้งในรายการ เดอะ เฟส เมน ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะ ทั้งเรื่องของภาษาและการใช้เสียง แต่บอกตอนนี้ก็พูดได้เป็นธรรมชาติมากขึ้นแล้ว และโชคดีที่ไม่ใช่รายการสด ไม่งั้นตนคงไม่มีที่ยืนในสังคม
“ได้ทำพิธีกรเป็นซีซั่นที่ 2 แล้ว จริงๆ สำหรับซีซั่นนี้ไม่ได้เตรียมตัว เพราะเหมือนนาทีสุดท้ายแล้วที่ติดต่อมา แต่ก็ดีใจที่เรายังไม่หลุดจากรายการนี้ครับ ยังผ่านเข้ารอบอยู่ (หัวเราะ) แต่ที่มาบอกนาทีสุดท้ายผมเชื่อเขาอาจจะเก็บเป็นความลับ อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ตัวผมเองมารู้กะทันหันมาก ถามว่ายังมีความหนักใจอะไรไหม แน่นอนอยู่แล้วครับ รู้อยู่แล้วว่าต้องมาเป็นพิธีกร รู้ว่าตัวเองยังขาดอะไรอีกเยอะ เรายังไม่เก่งเลย ยังต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ทุกครั้งก็หนักใจทุกครั้ง แต่ก็จะพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
“ทุกครั้งก็เหมือนเดิมเป็นในเรื่องของเสียงและภาษา ผมก็พยายามให้มันดีขึ้น ชัดขึ้นในเรื่องของคำพูดต่างๆ แต่ผมเชื่อว่าจากครั้งแรกมาถึงตอนนี้มันก็เริ่มธรรมชาติขึ้น ก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังอีกยาวไกลกว่าจะใช้คำว่าโอเคหรือเก่ง ถามว่ารับมือกับดราม่าไหวไหม ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราได้ฟีดแบ็กมาว่าเราควรจะปรับตรงไหน แก้ตรงไหน”
เผยตอนนี้ยังโสดสนิท ปัดตอบข่าวคนที่กำลังซุ่มคบเป็น “น.” ไหนกันแน่ ระหว่าง “นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์” กับ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์”
“ตอนนี้โสดครับ (ยิ้ม) กับนิโคลีน ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ครับ เป็นคนรู้จักครับ ก็ไม่ได้เจอ ไม่ได้อะไร ก่อนหน้านี้เป็นคนรู้ใจไหม ก็ไม่ใช่ครับ ไม่มี แต่ทำไมคนถึงเข้าใจว่ากำลังคุยๆ กัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ถามว่าที่ผ่านมาได้ไปไหนกันบ่อยไหม ไม่ได้ไปครับ ทำแต่งาน แต่ช่วงที่มีข่าวก็อาจจะมีทักกันนิดนึงว่ามีข่าวนะ แต่ก็แค่นั้น ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยกันแล้ว”
“ถามว่าตกลง น. นิโคลีนหรือน้ำตาล (หัวเราะ) จะให้ผมพูดอะไรครับ (หัวเราะ) ถามว่าจีบน้องเขาไหม ไม่ๆ ครับ ไม่ได้จีบ แต่ถามว่ารู้จักไหม ก็รู้จักครับ เคยเจอครับ เคยเจอใน 10 fight 10 ด้วย ก็มีเคยไหนด้วยกันสองคนบ้าง เป็นเพื่อนกัน จริงๆ ไม่อยากให้คนไปโยงว่าอย่างนี้อย่างนั้น คือมันไม่มีอะไรครับ เราไม่ได้มีอะไรเลยจริงๆ ตอนนั้นผมก็เห็นแล้วล่ะว่ามันมีข่าว ก็รู้อยู่แล้วว่าพี่ๆ สื่อต้องถาม (หัวเราะ) แต่ไม่มีอะไรครับ ผมก็ได้เจอครั้งนั้น แล้วก็นานเป็นเดือนๆ แล้วไม่ได้เจอเลย แค่เพื่อนกัน ไม่ได้มีอะไร”
“ก็มีไปแฮงค์เอาท์ ทานข้าว ดูหนังกันบ้าง ตามประสาคนที่เป็นเพื่อนกัน แต่ถามว่าไปกับคนไหน ผมจะไม่เอ่ยชื่ออะไรทั้งสิ้น ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติครับ คือผมเข้าใจว่าการที่เรามายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่จับตามอง แต่ว่าในส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าเราก็เป็นมนุษย์ปกติทั่วไป มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องไปแฮงค์เอาท์ เจอเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ไปไหนกันสองคนบ่อยไม่บ่อยครับ ช่วงนี้ทำแต่งาน ก็ถ้าผมได้คุยกับใครหรืออะไรยังไง ผมว่าพี่ๆ ก็คงรู้อยู่แล้วแหละ เราอยู่ตรงนี้มาก็รู้อยู่แล้วว่าเราคุยกับใคร เจอใคร แต่ ณ ตอนนี้ยืนยันว่ายังโสดอยู่”
“ส่วนที่มองว่ากลายเป็นหนุ่มเสน่ห์แรง ผมว่าไม่นะ ส่วนตัวผมว่าภาพของผมออกมามันก็ไม่ได้เป็นภาพบวกขนาดนั้นด้วย ผมว่าอย่าใช้คำว่าเสน่ห์แรงเลย ขออยู่เงียบๆ ของเรา ทำงานดีกว่า ถามว่าสาวๆ แอบกลัวเราอยู่บ้างไหม เอาตรงๆ ผมไม่รู้ครับ ผมก็ไม่ได้คุยกับใครครับ ผมก็อยู่ของผมทำงานอย่างเดียว ก็อาจจะมีเจอเพื่อนๆ บ้างเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากตอบเรื่องส่วนตัวหรอก สัมภาษณ์ได้มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วว่าคนจะต้องถาม แต่ ณ ตอนนี้เราทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน ทั้งละครด้วย ถ่ายรายการด้วย เรียกว่าแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ตอนนี้ก็อย่าคาดหวังอะไรทั้งสิ้นเลยครับ (ยังไม่พร้อมที่จะดูแลใคร?) เรายังดูแลตัวเองไม่ได้เลยครับ"
ขอโทษดรามาในรายการ 10 fight 10 โชคดีเดอะเฟสไม่ใช่รายการ ไม่อย่างนั้นอาจไม่มีที่ยืนในสังคมเพราะพูดไม่คิด
“ผมก็ออกมาพูดแล้วว่าจริงๆ มันเป็นยังไง แค่อาจจะไม่ได้มีโอกาสมาเจอพี่ๆ สื่อ แต่เป็นไทม์มิ่งที่ผมได้ไปออกรายการ ก็ได้ไปพูดในรายการครับ เคลียร์หมดแล้วครับ ถ้าจะให้พูดอีกครั้งก็คงจะขอโทษทุกฝ่ายอีกครั้งนะครับที่ต้องได้รับผลกระทบเพราะผม ที่ไม่ได้ตั้งสติให้ดี แต่ผมไม่ได้มีเจตนาให้เป็นครับ ต้องระมัดระวังคำพูดมากขึ้นครับ จริงๆ จะบอกว่าผมโชคดีมากที่อยู่ในรายการเดอะเฟสที่ไม่ใช่รายการสด ไม่อย่างนั้นคงไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว (หัวเราะ) เพราะผมเป็นคนที่พูดอะไรไม่คิด และมีมุกที่ตัวเองคิดว่าตลก แต่ว่าตลกอยู่คนเดียวครับ คนอื่นจะไม่ค่อยเก็ต (หัวเราะ) ก็ต้องระมัดระวังเรื่องรายการสด ก็เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียวครับ”
“ถามว่าเข็ดกับรายการสดไหม ไม่เข็ดครับ ผมว่าเป็นงานที่ดี ถ้าเราอยากอยู่ในวงการนี้เราต้องยอมรับสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำ และพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ กับทุกๆ อย่างที่เราเป็น ส่วนที่คนมองในแง่ลบไปแล้ว จริงๆ ผมเข้าใจนะ เพราะกับสิ่งที่พูดมันก็อาจจะทำให้คนติดภาพอย่างนี้ แต่ว่าผมไม่อยากพูดอะไรดีกว่า เพราะว่าผมรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเป็นยังไง คนรอบตัวรู้ว่าเราเป็นยังไง เราใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า เรายังโชคดีที่เรามีงานเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเอง ดีกว่าเราออกมาพูดว่ามันไม่ใช่ เพราะว่าเราทำด้วยตัวเองมา”
