xs
xsm
sm
md
lg

"โดม" เผยอีก 2 ปี ผ่าตัดขากรรไกร สุดปวดใจ ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ลดนน. แต่ไม่วายถูกบูลลี่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"โดม เดอะสตาร์" รับถูกบูลลี่เรื่องหน้าตาจนชินแล้ว เคยนอยด์ถึงขนาดปรึกษาแพทย์เรื่องศัลยกรรม ยันทำแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ หวั่นกระทบเรื่องร้องเพลงทำแล้วหล่อแต่ร้องเพลงไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ เผยขอเวลาเก็บเงินแสนอีก 2 ปี ผ่อนบ้านให้หมด ครอบครัวไม่มีภาระ

โดนวิจารณ์เรื่องหน้าตามาตลอด สำหรับ "โดม เดอะสตาร์" จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ล่าสุดเจ้าตัวแคปคอมเมนต์ชาวเน็ตรายหนึ่งที่แนะนำให้ผ่าตัดขากรรไกรจะได้บุคลิกดีขึ้น ซึ่งหนุ่มโดมเผยว่าเรื่องแบบนี้อยู่กับตนมานานแล้ว เคยนอยด์ถึงขั้นไปปรึกษาแพทย์ แต่ก็ต้องใช้เวลาศึกษา ไม่ใช่ไม่อยากให้บุคลิกดีขึ้น แต่หวั่นกระทบเรื่องการร้องเพลง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ตนสร้างรายได้ให้ครอบครัว

"คือพยายามจะไม่ให้มันเป็นดรามา เพราะความรู้สึกของเราคือเรื่องนี้มันอยู่กับเรามานานมากแล้ว เมื่อก่อนยอมรับว่านอยด์ แต่ทุกวันนี่เห็นแล้วรู้สึกพยายามทำความเข้าใจมากขึ้น ใจเย็นลง หัวเราะได้ ยิ้มได้ เพราะมันเป็นประเด็นที่เรารู้สึกว่าเราเจอมาเยอะ"

"และรู้สึกว่ามันคงดีถ้าเกิดทำให้เขาได้เข้าใจเหมือนที่เราเข้าใจ ก็เลยพยายามตอบไปเป็นแบบนั้นครับ เราก็ตอบไปด้วยเหตุและผลครับ คือคนเราถ้าต้องเข้ารับการผ่า​ตัดใหญ่สักครั้งมันเป็นเรื่องใหญ่มาก และผลที่มันเกิดขึ้นอย่างที่ผมพิมพ์ไปเลยว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอื่นเลย สุดท้ายผลทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี การผ่าตัดมันรับรองไม่ได้ 100% อยู่แล้วแหละ แต่ผลทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันตกที่ผมคนเดียว"

"เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ต้องคิดนิดนึงถ้าจะเป็นเหตุผลแค่ว่าอยากจะให้บุคลิกภาพดีขึ้น เราอาจจะต้องปรับด้านอื่นๆ ดูก่อน อย่างทุกวันนี้ผมก็ดูแลตัวเองมากขึ้น ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ก็ลองปรับหลายๆ อย่างดู แต่ถ้ายังไม่ได้หรือมีปัญหาทางด้านสุขภาพขึ้นไปอีก"

"อย่างเช่นถ้าฟันไม่สบกันแล้วมีปัญหาเรื่องสุขภาพในอนาคต เจ็บปวดทำให้ปวดหัวหรือเคี้ยวข้าวไม่ได้ อนาคตก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่สุดท้ายไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่มันต้องชั่งใจดีๆ ครับ ต้องเลือกด้วยเหตุและผลมากๆ"

ลั่นปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญตลอด ต้องวางแผน หวั่นกระทบการร้องเพลง
"ปรึกษาไว้ตลอดครับ ถามคนที่เขาเชี่ยวชาญ รวมไปถึงคนที่เขารู้จักกับหมอที่เกาหลี จะบินไปเกาหลีเลยนะ คือทำด้วยเหตุผลครับ ไม่ได้ทำเพื่อให้บุคลิกภาพดีอย่างเดียว แต่ทำเพราะเหตุผลทางสุขภาพด้วย ทางการแพทย์ด้วย ก็น่าสนใจ เพียงแต่ตอนนี้เรายังทำงานอยู่ ถ้าบินไปทำต้องพักฟื้นเท่าไหร่กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม กว่าจะฝึกพูดฝึกร้องได้ใหม่กี่เดือน แล้วเรายังมีภาระอยู่ รายได้มันจะพอไหม เราจะรับได้ไหม มันต้องวางแผนทุกอย่างทั้งหมด เกิดไปทำแล้วร้องเพลงไม่ได้ 5 เดือน รับงานไม่ได้ 5 เดือน ผมนอนไหนล่ะ ก็ต้องวางแผนนิดนึง"

ถามราคาแล้ว หลายแสน
"เราก็ถามราคาแล้วครับ ก็หลายแสนอยู่ครับ ที่เกาหลี คือเราเป็นศิลปินด้วยเราสามารถช่วยโปรโมตให้เขาได้ แต่ราคาจริงๆ อาจจะแพงกว่านั้นแต่นี่คือราคาคร่าวๆ มากๆ เพราะว่าอยากรู้เอาไว้ จะได้เตรียมเงินไว้ แล้วก็จะดูช่วงเวลา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทำภายใน 1-2 ปีนี้ ก็มาดูความเป็นไปได้ก่อนว่าถ้าทำแล้วมันเกิดผลอะไรหรือเปล่า ซึ่งเท่าที่ผมถามมากี่สิบหมอฟันก็ยังตอบไม่ได้อยู่ดี บางคนก็บอกมีผล บางคนก็บอกไม่มีผล มันเป็นเคสบายเคสมากๆ ครับ"

"ก็ห่วงเรื่องร้องเพลงนี่แหละครับ มันคือเรื่องการทำงานของเรานั่นแหละ เพราะถ้าไม่ให้ผมไปร้องเพลง ผมก็ไม่รู้จะไปทำอะไรแล้วในชีวิตนี้ มันเป็นสิ่งที่เรารักและผูกพัน และเป็นสิ่งที่เราหาเลี้ยงชีพกับมันได้ มันเป็นอาชีพของเรา"

หล่อแต่เสียงไม่ดีก็ไม่มีประโยชน์
"ประเด็นก็คือว่าเราคงไม่ได้หล่อขึ้นไปมากกว่านี้เยอะ มันอาจจะเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น แต่ก็ไม่ถึงว่าที่ทำมาแล้วเลื่อนขั้นเป็นพระเอกเลยมันก็ไม่ใช่ แล้วถ้าเกิดกลับมายังจะร้องเพลงไม่ได้อีก ก็ไม่รู้จะไปทำอะไรกินแล้วนะ ก็ต้องคิดไปถึงภาระที่เรามีล่ะ บ้านก็ยังผ่อนไม่หมด พ่อแม่เราอีก"

"เท่าที่ปรึกษามา อย่างที่บอกว่าคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเองยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะไม่มีผล 100% ผมก็ปรึกษาคนที่เขาเคยผ่าตัดกันมาหลายๆ คน บางคนก็บอกปกติไม่เป็นอะไร แต่บางคนก็บอกมีผลกระทบ ทุกวันนี้ยังพูดไม่ชัด ต้องใช้เวลานานมาก คือสมมติจากเดิมลิ้นเราขนาดเท่านี้ แล้วเราต้องผ่าตัดโครงปากหรือฟันเราให้เล็กลง อย่างของผมต้องเลื่อนเข้าไป เพราะมันยื่นออกมา พอเลื่อนแล้วขนาดในปากโครงปากมันเล็กลง แต่ลิ้นเท่าเดิม ก็จะกลายเป็นคนลิ้นคับปาก ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่หมอเขาคาดการณ์ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะเป็นไหม บางคนอาจจะไม่เป็นก็ได้ ก็เป็นโชคดีของเขาไป"

เผย "หม่อมเอ็ม" โชคดีศัลยกรรมแล้วไม่มีผล แต่สำหรับตนยังตอบไม่ได้ เหตุสรีระไม่เหมือนกัน
"อันนั้นโชคดีครับ เขาอาจจะสบกันอีกแบบหนึ่ง คือแต่ละเคสมันไม่เหมือนกัน ผู้เชี่ยวชาญก็เลยยังตอบไม่ได้ 100% คือไม่ได้บอกว่าทำแล้วมันจะแย่ไปตลอดกาล เพียงแต่จะต้องฝึกพูด ฝึกร้องใหม่ แล้วก็ต้องเผื่อเวลาด้วยว่ากี่เดือนกว่าจะกลับมารับงานได้"

"ศัลยกรรมมันก็เปลี่ยนชีวิตจริงๆ ครับ บางคนก็อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่ก็การันตีไม่ได้ว่าทุกคนจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีหมด เพราะที่ผ่านมาเราก็เห็นข่าวกันอยู่ว่าบางคนทำมาแล้วมันก็ไม่ดี แต่ไม่ใช่ฝีมือแพทย์เขาไม่ดีนะ แต่มันอยู่ที่สรีระเราเองที่ไม่ตอบรับกับการผ่าตัด""

เคยนอยด์จนต้องปรึกษาแพทย์
"เมื่อก่อนนอยด์นะ คือเขามาพิมพ์พ่นเอาไว้แล้วเขาก็ไป แต่เราเป็นคนอ่าน เมื่อก่อนนอยด์ แต่เดี๋ยวนี้หัวเราะออกเสียงเลย ก็นอยด์ถึงขั้นที่ไปปรึกษาแพทย์นี่แหละว่าจะต้องทำยังไง แต่สุดท้ายเราก็มานั่งคิดว่ามันก็ตัวเรานะ คนอาจจะชอบเรารักเราที่เป็นแบบนี้ก็ได้"

เบื่อถูกบูลลี่
"แรกๆ รู้สึกเบื่อเพราะเป็นสิ่งที่เราอธิบายยังไงคนก็ไม่เข้าใจ เขาก็ยังคงพิมพ์อยู่ ยังอยากพ่นคำไม่ดีใส่เราอยู่ เราไม่รู้จริงๆ ว่าคนเหล่านี้ต้องการอะไร แต่ว่าสุดท้ายแล้วเขาแค่อยากมีตัวตน อยากจะพูดให้คนอื่นเสียใจ เราอธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจหรอก ผมเป็นคนที่ไม่เคยพิมพ์ว่าใคร ถ้าจะว่าจะบอกกันตรงๆ คุยกันตรงๆ แต่คนอื่นอาจจะมองว่าเขาหวังดีนะ เขาถึงบอก อันนี้มันก็แล้วแต่บุคคล บางทีก็เลือกที่จะไม่อ่าน หรือถ้าอ่านก็จะเลือกมองมุมที่เขาหวังดีกับเรามากกว่า"

"(แต่คนก็ชมนะว่าเวลาเราตอบเรามีสติ?) ใช่ครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะไม่เป็นแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้คือเราไม่สนใจ เราดีใจด้วยซ้ำที่เดี๋ยวนี้คนเห็นคำว่าบูลี่มากขึ้น และเริ่มไม่ทำมัน"

อยากทำ 70 เปอร์เซ็นต์ ขอเก็บเงินอีก 2 ปี ผ่อนบ้านให้หมด ไม่มีภาระ
"ในใจอยากทำ 60-70% เลยแหละ แต่มันก็ต้องศึกษามากๆ และเป็นความกลัวเราเองด้วยเรื่องเสียง เพราะเราก็ไม่เคยผ่านการผ่าตัดมาก่อน แล้วผ่าตัดมันเรื่องใหญ่ คุณพ่อคุณแม่เขาก็ห่วงเหมือนกัน จมูกอะไรพวกนี้ก็ทำได้เลย ไหนๆ ก็เจ็บไปแล้วก็เจ็บทีเดียวไปเลย คือก็กลัวนะ แต่ก็น่าสนใจ เพราะเป็นออปชั่นที่คุณหมอเสนอมา เขาก็อยากทำให้"

"ก็คงขอเก็บเงินอีกสัก 1-2 ปี ผ่อนบ้านให้หมดซะ มันจะได้ไม่ต้องมีภาระเกิดขึ้นเผื่อมีอะไรที่เอ็กซิเดนท์ขึ้นมา เราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก"




กำลังโหลดความคิดเห็น