เปิดใจ “แน็ก ชาลี” หนุ่มติสต์จิตใจดี ไม่เอาเปรียบหมา ไม่ฆ่ามด หมดตูดเมื่อไหร่ค่อยกลับไปเล่นละคร ก่อนอวดประสบการณ์ Hum ใหญ่ช่วยชีวิตไม่ให้ตกบันได โวหลังจากนั้นก็มั่นใจในความแข็งแรงของลับตัวเองมาโดยตลอด บอกที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์ดูแล Hum ติดต่อให้รีวิวเยอะมากแต่ตนปฏิเสธ โสด ชอบหญิงแก่ เผยเลิกแฟนเก่าดีเกินไป ทุกวันนี้ยังคิดถึงทุกวัน
กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์สำหรับหนุ่มติสต์ “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” จากภาพการไปนั่งชมมวยในรายการศึก 10 fight 10 ทำให้คนมาติดตามอินสตาแกรมเป็นจำนวนมาก และพบว่าหนุ่มแม็กมีมุมน่ารัก ตลก ติสต์มากมายจนโลกโซเชียลฯ พากันพูดถึง เมื่อมีโอกาสเจอหนุ่มแน็กจึงถามเจ้าตัวถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าตัวเผยรู้สึกดีใจมากที่มีคนนึกถึงตน
"คิดอยู่ว่าผมไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า พี่ๆ มากันเต็มเลย (หัวเราะ) ยอดฟอลโลว์ก็ไม่ได้ขึ้นมาเยอะมากมาย แค่ขึ้นมาเร็วหน่อยแล้วก็หยุดแค่นั้น จริงๆ ไม่ได้ตกใจที่มีกระแสมาขนาดนี้เพราะรู้ว่ากระแสนี้อีก 3-4 วันเดี๋ยวก็หายไปแล้ว เอาตรงๆ ก็ดีใจเหมือนกันนะที่ยังมีคนนึกถึงเรา แล้วก็ยังติดตามเราอยู่ คิดว่าทุกอย่างน่าจะได้เพราะว่าเราไปล่าตัวเหี้ย (ตัวเงินตัวทอง) จับกิ้งก่านี่แหละ ผมลงอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันไปเกิดอะไรขึ้น สงสัยตั้งแต่โทรศัพท์ตกน้ำแล้วเราพิมพ์หาของรึเปล่า
“ภาพนั่งอยู่รายการ 10 fight 10 แล้วเหมือนเหม่อลอย วันนั้นผมง่วงมาก แต่นั่นก็คือสนุกจริงๆ แค่ว่าเราดูมวยบ่อยก็เลยไม่ได้ว่าจะต้องลุกไปอะไรอย่างนี้ ถามว่าทำไมต้องเขียนแคปชันอะไรยาวขนาด กลัวคนไม่เข้าใจครับ ที่ลงไปล่าสุดก็มีคนบอกว่า ผมเก่งมากเรื่องที่ว่าผมพยายามพิมพ์เยอะให้คนอ่านจนจบหลายรอบ แต่ไม่เข้าใจอยู่ดี ผมเก่งตรงนี้ เวลาพิมพ์แคปชันไม่ค่อยนานแต่ส่วนใหญ่จะนานตรงที่ผมต้องเปิดปิดเครื่องดูว่ามีคำผิดไหนบ้าง เพราะจริงๆ ผมเป็นคนที่เขียนอ่านไม่ค่อยเก่งเลย เรียกว่าโง่เลยก็ได้นั่นแหละ (หัวเราะ) แต่ว่าเราก็อยากพิมพ์ให้มันถูกบ้าง ก็จะคอยเช็กคำผิดตลอด”
บอกช่วงนี้เหนื่อยกับการเลี้ยงสัตว์เพราะก่อนหน้านี้เลี้ยงไว้เยอะมากจนไม่มีเวลาไปทำงาน
“เอาเป็นว่าตอนนี้พูดตรงๆ บางทีเราก็เหนื่อยมากกว่า แต่ก่อนเราเลี้ยงเยอะ เลี้ยงหลายอย่างมาก แต่ว่าตอนนี้เราเริ่มแบบทำงานบ้าง อยากจะบอกเรื่องอยู่ที่ว่าเราทำงานไม่ได้เพราะเราต้องเลี้ยงสัตว์ สมมติเราเลี้ยงสัตว์เด็ก 3 ชม. 6 ชม. ต้องคอยให้อาหาร ฉะนั้นเราไม่สามารถออกไปทำงานได้เลย เราก็ต้องดูแลเขาจะให้คนอื่นมาดูแลไม่ได้
หนูบ้านนี่เรียกว่าเป็นการรักษาดีกว่า เหมือนบ้านเรามีหมาเยอะ บ้านที่ผมอยู่จะไม่ฆ่ามด ไม่ไล่จิ้งจก ไม่ฆ่าหนู และไม่อะไรซักอย่าง แล้วเราเป็นมิตรกับเขาไง เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ารังเกียจสักตัว ผมเป็นคนที่ว่าถ้าเห็นลูกหนูบ้านกำลังใกล้ตาย เราทนไม่ได้ที่จะปล่อยมันไปก็จะกลับมารักษาทุกตัว พอโตเราก็ปล่อยมาในบ้านนั่นแหละ เซตล่าสุดเลี้ยงจนโตเลยนะ ปล่อยปุ๊บสายไฟขาดทั้งบ้านอะ (หัวเราะ) แม่ผมเข็นมอเตอร์ไซค์ไปซ่อมวันละเส้น แต่ว่าเราก็ไม่โกรธเขานะ แต่ตอนนี้ขอเลี้ยงตัวเองยังไม่รอดเลย”
เล่าที่ผ่านมามีงานติดต่อเข้ามาเยอะมาก แต่ปฏิเสธไม่รับเอง แม้จะได้เงินเยอะก็ตาม โอดต้องเอาบ้าน รถไปขาย เพราะไม่มีกิน
“ผมก็ขายของโน่นนี่ที่เรามี บ้าน รถก็ขายไปหมด ขายจริงๆ อย่างมอเตอร์ไซค์ก็ขาย บ้านผมก็ขายมาแล้ว ขายมาซื้อข้าวกินนี่แหละครับ ถามว่าแม่รู้ไหมว่าเราเอาของในบ้านไปขาย รู้ครับเพราะว่าแม่ก็จะคอยเตือนเราตลอด ผมเคยมีมอเตอร์ไซค์เป็นสิบคัน มันก็จะค่อยหายไปทีละคัน เวลาหายแม่ก็รู้แล้วว่ามันไม่มีกินแล้วแหละ ผมต้องบอกเลยว่าไม่ได้พูดเว่อร์นะ บางทีผมก็มีงานที่เงินเยอะ บางคนคิดว่าผมไม่มีงาน มันมีจริงๆ นะยังมีผู้ใหญ่ใจดีที่แบบนึกถึงเราอยู่ตลอด อันนี้ต้องขอบคุณจริงๆ จากใจเลย”
ไม่ออกรายการทีวีให้สัมภาษณ์ ไม่ได้หลงตัวเองแต่เกรงใจ ลั่นขำๆ ถูก “มดดำ คชาภา” ขู่
“ผมไม่ได้พูดหลงตัวเองนะครับ สมมติถ้าเราต้องไปนั่งพูดทีละที่ เช้าไปสัมภาษณ์ที่นี่ เสร็จต้องไปตอนเที่ยง บ่ายโมงบ่ายสองแล้วผมต้องพูดเหมือนกันทุกครั้งเลย ผมก็ตัดว่าไม่เอาดีกว่า ไม่ว่ารายการไหนให้เงินผมเยอะมากที่อยากให้ไป หรือพี่บางคนโทร.มาหาผมเลยว่า ไอ้แน็กอย่าให้เห็นนะว่าไปรับของคนอื่น ขู่ผมอย่างนี้ (หัวเราะ) พี่มดดำก็คนหนึ่งแล้ว ผมก็ตอบว่าขอโทษครับ ผมก็ขอโทษทุกคนแหละ แต่พี่มดดำตลก แต่เขาพูดอย่างนี้จริงๆ ต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ที่ไม่ได้ไป โอกาสไม่เสียดาย เสียดายตังค์ (หัวเราะ) แต่ไม่เป็นไร เรียกว่าไม่ได้รับเลยดีกว่า เกรงใจคนอื่น”
เพิ่งปฏิเสธเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางเกาหลี ถ้ารับก็เสียหมา เผยเคยบอกไปแล้วว่าแพ้เครื่องสำอาง แต่ถ้าเป็นของสกปรกหน้าจะไม่เป็นไร
“มีๆ เมื่อวานนี้พรีเซ็นเตอร์อะไรติดต่อเข้ามารู้ไหม ทั้งที่ผมก็พูดชัดเจนมาก เครื่องสำอาง ผมก็บอกอยู่ว่าผมแพ้จริงจังเลยนะ เขาบอกทำเถอะ ผมก็แบบเขากวนเราหรือเปล่า แต่เขาจริงจังมากเลยเป็นเครื่องสำอางจากเกาหลี อยากให้ลอง ผมก็บอกไปว่าพี่ผมทำไม่ได้จริงๆ ถ้าผมรับผมเสียหมาเลยนะ (หัวเราะ) ผมก็มาปรึกษาพี่น้องแต่ยังไงก็ไม่รับร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มานั่งคุยกันว่ามันก็น่าเสียดายตังค์ เขาให้เยอะมากแต่ผมจริงจังครับว่าผมไม่รับ
ผมโดนพวกเครื่องสำอางแล้วสิวขึ้น ผมโดนของที่สกปรกจริงๆ ไม่เป็นไร ดิน น้ำคลอง ขี้สัตว์ พวกนี้ไม่เป็นไร แต่ว่าเครื่องสำอาง ครีมกันแดด อะไรที่เป็นแบบนี้ผมทาไม่ได้ทั้งตัวจริงๆ ผมเริ่มเป็นตั้งแต่อายุ 21 น่าจะเป็นตอนที่ร่างกายเริ่มอ่อนแอ ซึ่งก็ไปหามาทุกหมอแล้ว หมอก็บอกว่าต้องเลี่ยงสิ่งพวกนั้น ผมก็เลี่ยงครับ เลยไม่ทำงานไงล่ะ”
ลั่นไม่ใช่คนติสต์ จน “ซันนี่ สุุวรรณเมธานนท์” ยังต้องยอม ออกจะเป็นแนวตลก และเครียดบ้างบางเวลาด้วยซ้ำ
“ที่ว่ามีคนบอกว่าอยากให้ไปเจอกันเยอะมาก ผมบอกเลยว่าถ้าเจอไม่ได้งานหรอก อย่าเจอดีกว่าให้อยู่ห่างๆ กันไว้ (หัวเราะ) ผมยังเคืองใจเขาอีกอย่างหนึ่งเลยนะพี่ซันนี่ ตอนผมอายุ 15 ผมก็อยากฝากไปถามเขาแล้วกัน เขาจริงจังมาก เอาต้นไม้ต้นเล็กมาให้ผม แล้วพูดสั้นๆ ว่าเอาไปเลี้ยงให้มันโตนะ ผมก็งงอะไรว้า...แต่ผมก็เอาไปเลี้ยงจนมันโตจริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนติสต์อะไร ออกแนวตลกมากกว่าด้วยซ้ำ และเครียดบ้าง แล้วแต่อารมณ์”
รองานงานพรีเซ็นเตอร์อาหารสัตว์ บอกที่ผ่านมามีติดต่อมาเยอะมาก แต่ตนไม่รับเพราะไม่อยากเอาเปรียบหมา งานละครไม่รับเพราะใช้เวลาถ่ายนาน ส่วนงานภาพยนตร์มีรับไว้เตรียมจะถ่ายทำ ตอนนี้กำลังเครียดกับการทำเพลงอยู่
“มีเยอะมากครับ แต่ผมไม่รับ ล่าสุดผมคุยกับเจ้าหนึ่งอยู่เหมือนกัน เป็นเจ้าที่เขาทำด้วยใจจริงๆ อันนี้ผมพูดจริงๆ เลยนะ แล้วผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าหากเขายกเลิก ผมก็คงใจหายแน่ๆ เพราะมันมีเยอะมากจริงๆ ที่ติดต่อผมเข้ามา และที่สำคัญเขาต้องการให้ผมไปถ่ายกับไอสกู๊ปปี้ดูด้วย แต่ผมไม่ไปไง เพราะผมไม่เอาเปรียบหมา มันไม่ใช่หมาผม ผมแค่ให้อาหารมัน และก็คุยกับมันเฉยๆ ผมไม่อยากเอามันมาถ่ายเพื่อที่จะเอาเงิน
งานละครกับงานแสดงช่วงนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ ครับ ถึงผมจะอยากเล่น แต่ผมไม่ไหวจริงๆ เพราะมันใช้เวลานาน ก็คือถ้าเมื่อไหร่เห็นผมลงเล่นละคร นั่นก็คือช่วงที่ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เหลือแม้แต่มอเตอร์ไซค์คันจิ๋ว ไม่เหลืออะไรแล้วครับ (หัวเราะ) ส่วนภาพยนตร์ก็มีเยอะเหมือนกัน ซึ่งผมชอบภาพยนตร์มากกว่า จะภาพยนตร์ดีหรือไม่ดีผมเล่นหมดครับ และตอนนี้ก็มีจะถ่ายอยู่บ้างเหมือนกัน ก็มีจะถ่ายอยู่บ้าง แต่เอาจริงๆ ชีวิตผมตอนนี้ผมเครียดเรื่องการทำเพลงมากกว่า เพราะผมอยากปล่อยเพลง รายได้หลักตอนนี้มาจากขายของครับ สลับกันไปสลับกันมากับงาน”
ไม่ต้องห่วงเรื่องเรียน เพราะไม่มีวี่แววจะจบ แม่บ่นจนเลิกบ่นไปแล้ว
“เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงผมแล้วแหละครับ เพราะมันไม่มีวี่แววหรอก (หัวเราะ) คุณพ่อคุณแม่เขาก็ว่า จนเขาเลิกว่าไปแล้ว เขาทำใจได้แล้ว ช่างมันเถอะครับเรื่องนี้ (หัวเราะ) ไม่เป็นไร ผมไม่เครียดเรื่องนี้ เพราะผมรู้สึกว่าผมได้พยายามไปแล้ว จริงๆ เมื่อก่อนผมก็ได้อธิบายไปแล้วนะครับว่า วันแรกที่ผมเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัย ผมยังคิดอยู่เลยว่าช่วงเวลา 4 ปี มันก็แค่แป๊บเดียว ยังไงก็ต้องจบ”
“แต่ผมเรียนไปได้สักประมาณเกือบ 1 ปี วันที่ผมไปสอบครั้งแรก ผมก็เดินออกจากห้องสอบเฉยเลย ผมเดินไปตกปลา อันนี้จริงๆ นะ ผมสาบานได้เลย เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ว่าเรื่องจริง วันนั้นผมไปหาปลามาเลี้ยงที่บ้าน แต่หลังจากนั้นผมก็คิดได้ว่าผมต้องกลับไปเรียนหนังสือ ไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผมก็กลับไปเรียนที่รามฯ ไปถามดูได้เลย ผมไปเรียนจริงๆ น่าจะมีคนเห็นอยู่ แต่พอเรียนไปเรียนมาผมก็รู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ เพราะกว่าผมจะฝ่าฟัน ชั้นอนุบาล 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ ไม่ไหวจริงๆ ครับ”
เผยโสดสนิท จบแฟนเก่าดีจนเป็นข้อเสีย คิดถึงทุกวัน
“ตอนนี้ไม่มีครับผม เขาไปดีแล้วครับ เราจบกันด้วยดีมาก แต่เอาจริงๆ ผมก็สงสารเขาเหมือนกันนะ คือผมเข้าใจเลยว่าคนเราที่รักกันมาก มีพร้อมทุกอย่าง แต่ว่าสุดท้ายเราต้องแยกกัน แต่ก็อย่างที่บอกครับเราจบกันด้วยดีจริงๆ ซึ้งเลยได้ไหมครับตอนนี้ การจบกันด้วยดี มันมีข้อเสียเพราะมันจะทำให้เราต้องคิดถึงเขาทุกวัน ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดถึงเขาตลอด
(ทำไมเราถึงเลือกที่จะโพสต์เกี่ยวกับวันครบรอบการเลิก?) จริงๆ มันเป็นเรื่องที่เลวมากเลยนะครับการโพสต์อะไรแบบนั้น ซึ่งผมเองก็รู้นะ แต่ด้วยความที่ผมไม่คิดว่าจะมีคนมาเห็นไงในตอนนั้น และอย่างที่บอกพอเราจบกันด้วยดี แถมเราต่างคนต่างก็ยังไม่ได้มีใคร เรายังคุยกันบ้างอะไรบ้าง วันไหนที่เราคิดถึงเราก็ลงรูป มันก็คือความสุขที่เราได้ลง แต่ผมยืนยันว่าเราจบกันด้วยดีมากจริงๆ ดีที่สุดในโลกเลยครับ
ตอนนี้โสดครับ ผมสามารถพูดเรื่องจริงได้เลยเรื่องหนึ่ง ก็คือเรื่องที่มีคนทักผมเข้ามาเยอะสุดๆ ตอนแรกผมก็ดีใจมากนะที่ได้อ่านข้อความ ทั้งจากคอมเมนต์ และมีคนส่งเข้ามาส่วนตัว แต่บอกตรงๆ ตอนนี้ผมตอบไม่ไหวจริงๆ ครับ เพราะมันเยอะมาก มีเข้ามาเป็นพันเป็นหมื่นข้อความ มีส่งเข้ามากันทุกเช้า บางคนก็ไปเจอจิ้งจกถูกประตูหนีบ บางคนก็เจอนกตกลงมาจากที่นั่นที่นี่ คือมีคนมาปรึกษาผมเกี่ยวกับสัตว์ทุกชนิดบนโลกใบนี้เลย ก็คงจะมีแฟนแหละ แต่ตอนนี้ผมอยากอยู่กับแม่ผมก่อน ผมติดแม่ ติดหลานมาก ผมรักหลานรักครอบครัวผมสุดๆ แถมผมก็ยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่สามารถไปไหนได้หรอกครับ”
ย้ำสเปกชอบสาวแก่ รักสัตว์ได้ยิ่งดี แต่ที่ผ่านมามีแต่แฟนเด็ก
“ผมชอบผู้หญิงแก่ครับ ชอบผู้หญิงอายุเยอะๆ ชอบผู้หญิงที่อายุเยอะแล้วยังดูสวย เพราะเวลามองแล้วผมรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์ ส่วนเรื่องการพูดคุย ถามว่าต้องคุยรู้เรื่องไหม จริงๆ จะเป็นทางผมมากกว่าที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่พอถึงเวลาที่ผมเข้าไปจีบจริงๆ บางครั้งเราก็คบกันไม่ได้ มันน่าอายเพราะอายุเราห่างกันเยอะเกิน แต่ที่ผ่านมาพอผมมีแฟนจริงๆ ก็จะเป็นแฟนเด็กทุกคน ยิ่งใครที่เป็นคนรักสัตว์นี้ผมจะชอบมากเป็นพิเศษ
คนที่ผมพึ่งจะเลิกไปเก็คือคนที่รักสัตว์มากเช่นกัน เราเลี้ยงสัตว์ด้วยกันอย่างมีความสุขมาก เขาไม่เคยรังเกียจอะไรเลย น่ารักมาก ส่วนใหญ่ผมจะเข้าหาคนนั้นคนนี้ ผมไปจีบเขามากกว่าครับ แต่พอผมเข้าไปจีบจริงๆ เขาก็ไม่ค่อยคุยกับผมหรอก ผมก็ทำได้แค่ชวนคุยโน่นชวนคุยนี่ไปเรื่อย”
แพลนอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้าอยากรวย โอดหวังรวยทางลัดซื้อหวยทั้งปีแต่ไม่ถูกเลย
“ผมก็อยากรวย อยากมีเงินเหมือนกันนะครับ เพราะอายุผมก็จะ 30 แล้ว แต่มันทำไม่ได้สักที ดังนั้นถ้าถามผม ณ ตอนนี้ ผมก็อยากจะใช้ชีวิตให้มีความสุข อยู่กับครอบครัวให้พ่อแม่มีความสุขแค่นั้นก็โอเคแล้ว คงไม่คิดจะมีสังกัดผมคงอยู่กับใครไม่ได้หรอกครับ อันนี้ผมพูดจริงๆ หรือถ้าใครมีงานก็ติดต่อผมได้ครับ ถ้าผมเอา ถ้าผมรับก็โอเค (หัวเราะ) ก็อย่างที่บอก ถ้าเป็นงานละครหรืองานซีรีส์ ตอนนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ ครับ มันยาวไป
ไม่รู้เหมือนกันนะเรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่แบบเราอาจจะไม่อยากทำงานจนแบบมากมาย เราอยากมีตังค์นี่แหละ ผมก็ไปซื้อลอตเตอรี่เยอะอยู่เหมือนกัน แต่มันไม่ถูก ผมเพิ่งมาซื้อ 2-3 ปีหลัง ที่ผ่านมาผมไม่เคยซื้อเลยนะเพราะผมไม่ชอบ ลองไปซื้อดูครั้งแรกปรากฏว่ามันเฉียด รางวัลที่หนึ่งหวยชุด 6 ตัวเฉียดไปตัวนึง หวยชุด เฉียดตัวเดียวแบบนั้นติดกันประมาณ 3-4 ครั้ง ผมเลยซื้อมันทั้งปี แต่ไม่ถูกเลย จนแม่ก็มาบอกว่าไปซื้อออมสินไหมลูก”
อวดที่ผ่านมาปฏิเสธรีวิวยาบำรุง Hum ไปเยอะมาก แม้ Hum ของตนจะใหญ่และแข็งแรงจริงๆ ก็ตาม
“ผมปฏิเสธงานเยอะมากครับ ถ้านับรวมกันก็ถึง 50 นะ มันเยอะมากจริงๆ ยิ่งงานรีวิวด้วยแล้วยิ่งมีเยอะมาก แต่ก็มีงานรีวิวงานหนึ่งนะที่ผมอยากทำมากเหมือนกัน ก็คืองานรีวิว Hum ใหญ่ อันนี้ผมไม่ได้ตลก มันมียาพวกนี้ส่งมาให้ผมเยอะมาก เขายังไม่ส่ง แค่จะส่งมาให้ผมเฉยๆ ซึ่งผมก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนๆ นะว่ามันเป็นเรื่องตลกหรือเปล่า แต่ด้วยความที่ผมไม่รับงานอะไรทำนองนี้อยู่แล้วไง ผมก็เลยตัดสินใจว่าไม่เอาดีกว่า ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงเรื่อง hum ผมใหญ่มากแต่เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ายามันดีจริงหรือยามันไม่ดี ผมไม่กลัวเลยครับเรื่องโป๊ ผมกลัวเรื่องคุณภาพมากกว่าโชว์ Hum ไปเลยครับ
หลายคนถามผมเอาความมั่นใจเรื่องนี้มาจากไหน อยากจะเล่าว่า Hum มันช่วยพยุงตัวผมจริงๆ มีอยู่วันนึงผมล้มตกบันไดแล้วมือผมยังไม่ถึงพื้นเลย แต่ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรถึงก่อน เป็นคนอื่นตายไปแล้วครับ แต่ของผมมันพยุงเอาไว้จริงๆ ไม่ได้คิดไปเอง เลยมั่นใจ Hum เราแข็งแรง ผมตกบันไดแล้วผมดูทันทีเลยว่าใช่แน่นอน วันนั้นผมลุกเดินต่อได้ทันที อันนี้ไม่ได้ตลกนะ ผมจริงจัง มันคือเรื่องจริง ส่วนเรื่องยา Hum ใหญ่มีติดต่อมาเยอะมาก แต่ผมรับไม่ได้ครับ พวกยากินผมไม่รับครับ พวกยากินผมไม่รับเลย”