ในหลวง ร.๑๐ โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์” ลูกเผยพ่อมีบุญ จากไปอย่างสบาย ไม่เจ็บปวด เตรียมสานต่อตำนานเชลล์ชวนชิม
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 29 ส.ค. ที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) พุทธศักราช 2551 ซึ่งถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 ด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย สิริรวมอายุ 93 ปี โดยมี พล.ร.อ.ม.จ.ปุสาณ สวัสดิวัตน์ เป็นประธานในพิธี
โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ รองราชเลขาธิการอัญเชิญพวงมาลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี, สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ วางที่หน้าหีบศพ และพระราชทานหีบกุดั่น และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์เป็นเครื่องเกียรติยศประกอบศพ
ต่อมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โปรดให้ ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์มาร่วมรดน้ำศพ และอัญเชิญพวงมาลามาวางหน้าหีบศพด้วย
จากนั้น หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ บุตรชาย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า
"วันนี้เป็นพิธีสวดอภิธรรมศพวันแรก แล้วก็เป็นการรดน้ำศพนะครับ แล้วก็มีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ แล้วก็จะเป็นการสวดอภิธรรมต่อ ก็จะสวดเป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 11 กันยายนครับ ซึ่งวันที่ 2 กันยายน จะย้ายไปที่ศาลากลางน้ำครับ วันนี้คนอาจจะเยอะหน่อย อาจจะคับแคบหน่อยนะครับ เพราะว่าที่วัดเต็ม กำหนดการยังเหมือนเดิมครับ ช่วงนี้ยังเป็นกำหนดการเดิมอยู่ ต้องรอว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวจะแจ้งอีกที”
ของดรับพวงหรีด ไม่อยากให้สิ้นเปลือง น่าเสีย
"ใช่ครับ เพราะว่าคุยกับพี่หมึกแดง ว่าพวงหรีดจะเป็นดอกไม้สด ซึ่งถ้าเกิดเอามาก็จะเป็นการสิ้นเปลือง แล้วก็จะมีการเน่าเสียได้ ก็เลยอยากจะขอให้งดพวงหรีดด้วยนะครับ แต่สำหรับท่านที่สั่งไปแล้ว ก็ส่งมาได้นะครับ ยกเว้นอาจจะเป็นหรีดของผู้ใหญ่ ก็ไม่เป็นไร"
รับร่ำไห้ต่อการจากไป ก่อนเล่านาทีสุดท้ายชีวิตของคุณพ่อ
"ตัวผมเอง วันที่เราร้องกันเยอะ คือช่วงที่ทราบว่าพ่อเพิ่งเข้าไป แล้วตอนแรกวันนั้นวันที่ 29 กรกฎาคม ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น ไปทำงานอยู่ พอทราบผมก็เลยบินกลับมาก่อนกำหนด พอวันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งวันนั้นคุณหมอเชิญเข้าไปพอดี ก็ได้มีวินิจฉัยบอกว่าพ่อป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งตอนแรกตรวจไม่พบเลย เพราะว่าเป็นอยู่ที่ท่อน้ำดี แต่มันมีค่า CA นะครับ แต่ดูไม่ออก ก็พยายามตรวจมาตลอดเลย ไม่เจอ"
"แต่สิ่งที่เราสบายใจอย่างหนึ่ง คือเราก็ร้องไห้นะตอนนั้น เพราะเราใจเสีย แต่พ่อไม่มีอาการให้เห็นเลย เข้าไปด้วยอาการเป็นปอดบวมเฉยๆ น้ำท่วมปอด หายใจผิดปกติ ก็เลยเข้าไป เลยไปตรวจเจออาการนี้ขึ้น ก่อนหน้านี้จริงๆแม้กระทั่งตอนอยู่ในโรงพยาบาล พ่อรับประทานอาหารได้ ตอนแรกยังเคี้ยวได้อยู่เลย ตอนหลังเริ่มเคี้ยวไม่ได้ พี่หมึกแดงก็ปั่นทุเรียนให้เลย ก็ดูดจนหมด"
"ส่วนวันสุดท้ายช่วงเป็นวันอาทิตย์เริ่มมีอาการขึ้นมา เริ่มเจ็บ คุณหมอก็มาคุยว่าต้องเริ่มให้ยาเพิ่มแล้วนะ จะเป็นระยะสุดท้ายนะ ซึ่งตอนนั้นเป็นสิ่งที่เราห่วงแล้ว เราไม่อยากให้พ่อทรมานแล้ว เราคุยกันมาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไม่อยากทำอะไรที่ให้พ่อมีการทรมาน เพราะว่าผมเคยรู้ว่าพวกนี้มันแค่ประวิงเวลาเท่านั้น ในสิ่งที่ทำกลับทำให้ผู้ใหญ่เขาเจ็บมากกว่า"
"ยกตัวอย่างเช่นการเจาะปอด อีก 3-4 วันเดี๋ยวน้ำก็จะท่วมปอดอีก ซึ่งเรารักษาตามอาการ เพื่อให้พ่อไปแล้วก็สบายที่สุด ซึ่งถือว่าสัมฤทธิ์ผล เพราะว่าทุกคนก็ได้อยู่กับพ่อจนวาระสุดท้าย แล้วพ่อเจ็บจริงๆ แค่ประมาณวันครึ่งเท่านั้นเอง ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ ตอนนั้นผมกลับมา คุณหมอตามพี่หมึกแดงกลับเข้าไปใหม่ แล้วก็มาเสียตอนสาย ประมาณ 10.35 นาที ของวันอังคารครับ"
สานต่อรายการ "เชลล์ชวนชิม"
"คือจริงๆ พี่หมึกแดงก็ได้ทำรายการครอบจักรวาลอยู่แล้วนะครับ ช่วงนั้นที่มาทำ แล้วก็ได้ทำต่อจากพ่อมา ส่วนผมเนี่ยเดี๋ยวรอฟังวันที่ 16 กันยายน ถ้ายังไม่เปลี่ยนกำหนดการนะครับ ก็คือเราจะกลับมาทำเชลล์ชวนชิมใหม่ เป็นเชลล์ชวนชิมยุคใหม่ แต่ร้านค้าของเก่า ก็ได้เหมือนเดิม แล้วก็มีร้านใหม่ด้วย วิธีนำเสนอแบบใหม่ ให้เข้ากับโซเชียลเน็ตเวิร์กสมัยนี้ ก็ขออุบไว้ก่อน เดี๋ยวรอฟัง คิดว่าน่าจะยังเป็น 16 กันยายนอยู่ ต้องรอดูกำหนดการของวานนี้ก่อน ว่าเขาจะเลื่อนไหมนะครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่ ปีนี้เกิดแน่ครับ เพราะว่าทำไว้เยอะแล้ว"
เผยพ่อมีบุญ หน้าตาอิ่มเอิบ ลูกหลานทุกคนมีโอกาสดูใจครั้งสุดท้าย
"จริงๆ อยู่ด้วยกันมาตลอดกับพ่อ ตั้งแต่วันที่ 29 เลย พี่หมึกแดงมาก่อน เพราะว่าช่วงนั้นเราไม่อยู่ เพิ่งมาวันที่ 2 สิงหาคม แล้วก็อยู่ด้วยกันตลอด ใครมาเยี่ยมพ่อก็จำได้หมดเลย แต่เป็นอัลไซเมอร์นะครับ แต่วันนั้นจำได้ พูดเรื่องเก่าๆ ได้หมด จำชื่อผมได้ว่าชื่ออะไร"
"ท่านอารมณ์ดี ตลกเหมือนเดิมครับ มีช่วงอาทิตย์สุดท้ายเท่านั้นเองที่เริ่มไม่ค่อยพูดแล้ว ถือว่าคนมาเยี่ยมบอกเลยว่านี่พ่อป่วยเหรอ หน้าอิ่มเอิบมาก ถือว่าคุณชายถนัดศรี มีบุญมากครับ มีบุญจริงๆ ลูกหลานได้ใจชื่นหน่อย เพราะทุกคนได้มาเยี่ยมหมด เพื่อนสนิทพ่อกลับมากันหมด วันนี้เพื่อนพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่ได้มาด้วย จะเห็นว่ามีผู้ใหญ่มาเยอะเลย มีทั้งผู้ให้กำเนิดเชลล์ชวนชิม มีเพื่อนพ่อที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ มา แล้วก็ยังมีเจ้าของร้านเชลล์ชวนชิมที่ได้เชลล์ชวนชิมร้านแรกเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2504 ก็มาด้วย อยู่ในงานด้วยครับตอนนี้ มากันเยอะมากเลยซึ่งเดี๋ยวจะมากันอีก ก็ถือว่าเราโชคดีมาก ที่พ่อไม่ได้จากไปกะทันหัน ท่านอยู่ระยะหนึ่ง แต่เราก็ไม่อยากว่าถ้าพ่อทรมาน เราก็อยากให้พ่อจากไปอย่างสงบ ผมเสียดายอย่างเดียวมผมกำลังลงเสียงอยู่ที่บ้าน พี่โทร.มาให้มาด่วน แต่ผมไปไม่ทัน ช้าไป 15 นาที เพราะรถติด”
อธิษฐานขอให้พ่อหมดห่วง จากไปอย่างสบาย
"ก็นึกในใจนะครับ คือมีหลวงพ่อท่านสอนไว้ ในนึกในใจอธิษฐานว่าสิ่งที่พ่อทำมา ทำสิ่งดีๆ ให้กับคนมากมายเลย มีบุญกุศลเยอะแยะ ขอให้พ่อจากไปอย่างสบาย หมดห่วง ลูกหลานแต่ละครมีการมีงานหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงเลย ไม่มีปัญหา แล้วก็ในวันนั้นตอนที่พ่อจากไปแล้ว ผมยกโทรศัพท์กดถ่าย กลายเป็นจอดับ เราก็เลยบอกว่าพ่อจ๋า ขอถ่ายรูปหน่อย ก็เปิดได้ แล้วถ่ายได้เลยครับ ผมก็ไม่ถามหลวงพ่อท่าน ท่านก็บอกว่าคงมาทักเฉยๆ ว่าไปสบายแล้ว แล้วพ่อก็มาบอกเบอร์ในฝันด้วย (หัวเราะ) คือสิ่งหนึ่งที่พ่อให้พวกเราไว้ทั้ง 3 คน คือความสนุกสนาน สังเกตดูว่าเวลาใครได้เจอกับพ่อจะรู้ ว่าเป็นคนที่อารมณ์ดีตลอดเวลา ลูกๆทุกคนได้ยีนนี้มาหมด แล้วก็ดีใจครับ”