"นาตาลี" เผยถึงเป็นฝรั่งแต่รักความเป็นไทย เลือกจัดงานแต่งงานกับนักการทูตตามประเพณีไทยเต็มรูปแบบ เข้าพิธีรดน้ำสังข์วันที่ 11 ก.ย. นี้ หลังแต่งงานเปิดอู่เลยทันที
เพิ่งจะจัดงานพิธีสงฆ์ เจริญน้ำพระพุทธมนต์สำหรับแต่งงานไปเมื่ออาทิตย์ก่อนสำหรับคู่รักสาว "นาตาลี เดวิส" และ "ณะ อิทธิกร" นักการทูตหนุ่ม ล่าสุดเจอสาวนาตาลีมาเข้าคอร์สเจ้าสาวที่ อินฟินิตี้ คลินิก บาย ดร.ปาล์ม เจ้าตัวเผยว่าเริ่มจะตื่นเต้นกับการเป็นเจ้าสาวแล้วเพราะเหลือเวลาเตรียมตัวอีก 2 อาทิตย์
"วันนี้มาเข้าคอร์สก่อนเป็นเจ้าสาว ใกล้เข้ามาแล้วเหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ นาตาลีเน้นเรื่องผิว ช่วงนี้เตรียมงาน มีอะไรทำเยอะนอนดึกนอนน้อย ความผ่องหายไป เพราะเตรียมงานไม่ได้ใช้ออแกไนเซอร์เต็มตัวติดต่อเองดีลเองคุยเอง ก็สนุกดีแต่เหนื่อยไปอีกแบบแต่เราก็ได้มีส่วนร่วมในการเตรียมงานแบบเต็มที่ด้วยตัวของเราเอง มันก็จะเบลอๆ นิดนึง"
"นี่ก็เริ่มมีตื่นเต้นนิดๆ แต่ช่วงนี้อาจจะยังไม่พีคมาก เพราะอย่างที่บอกว่ามีหลายอย่างให้ต้องคิดให้สรุป ทำไฟล์เตรียมเพลง เพลงในงานทุกเพลงก็เลือกกันเองหมด รูปที่เอามาร้านก็เลือกกันตาแฉะ เรียงเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นถึงปัจจุบัน ไม่ใช่ไม่อยากใช้ออแกไนซ์ แต่อ่านในเว็บเห็นเขาก็มีให้ทำเองและเขาก็เอ็นจอยกับสิ่งได้ที่ทำ อีกหน่อยเผื่อมีใครมาปรึกษาเราจะได้อธิบายได้ว่าขั้นตอนอย่างนี้ๆ เผื่อช่วยเหลือคนอื่นได้ ก็สนุกดีแต่เหนื่อย"
เผยฤกษ์ดีแต่งงานวันที่ 11 ก.ย. เป็นงานครึ่งวันเช้า ส่วนพิธีสงฆ์จัดไปเรียบร้อยแล้วเพราะอยากจัดพิธีสงฆ์ให้เต็มรูปแบบ หากจัดรวมกันกลัวจะกินเวลาทำให้ไม่ลื่นไหล
"11 ก.ย. แต่งานกลางวัน หมั้นช่วงเช้า เลี้ยงกลางวัน จัดที่โรงแรมพูลแมน คิงพาวเวอร์ ซอยรางน้ำ ก่อนหน้านี้เรามีพิธีสงฆ์ไปแล้วเป็นความตั้งใจของนาตาลีกับแฟน เป็นคนชอบเข้าวัดทำบุญด้วยกันอยู่แล้วทั้งคู่ ฤกษ์วันจริงก็ค่อนข้างบีบเพราะหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง กลัวว่ามีพิธีสงฆ์วันจริงจะทำพิธีได้ไม่เต็มที่เวลาไม่พอ เลยคิดว่าหรือเราไปทำบุญที่วัดกันดี โชคดีมีรุ่นพี่ของแฟนดูคิวที่วัดอยู่เขาก็ให้วันมา 2-3 วันให้เราเลือกว่าวันไหนจะลงตัว เลยได้วันอาทิตย์ที่ผ่านมา"
"เป็นพิธีที่เราตั้งใจมาก ก็รู้สึกว่าบางคนอาจจะหลงลืม ไปเน้นช่วงปาร์ตี้ ช่วงงานแต่ง แต่เรารู้สึกว่าคนไทยสมัยก่อนงานแต่งเขาก็มีแค่พิธีสงฆ์ ก็ถือว่าทุกอย่างครบถ้วนแล้ว อย่างสมัยเรียน เรียนอยู่เบญจมฯ ก็อยู่ตรงข้ามกับวัดสุทัศน์ แต่พิธีจัดที่วัดบวรฯ นะคะ เราก็จะคุ้นเคยกับการไปวัด ไปเรียนพระพุทธศาสนา กับพระอาจารย์ แล้วด้วยความที่โรงเรียนเล็กก็จะไปเข้าแถวที่วัดบ้าง"
"ถ้าเราแต่งงานทั้งทีก็เลยอยากทำพิธีสงฆ์ให้เต็มที่ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าฟีลลิ่งจะขนาดนี้ แต่พอพระท่านสวดขนลุกเลย ไม่เหมือนกับที่เราไปนั่งฟังพระสวดธรรมดา มันอีกฟีลลิ่งหนึ่ง ตั้งใจมาก เดี๋ยววันจริงจะมีพิธีแบบไทยรดน้ำสังข์ เป็นพิธีหมั้น สวมแหวน รับไหว้ผู้ใหญ่ แล้วก็งานเลี้ยงกลางวัน เป็นงานไทยแท้เลย หน้าฝรั่ง แต่เป็นคนชอบอะไรไทยๆ ตื่นเต้นมาก"
แจงไม่มีธีมงานเพราะอยากอำนวยความสะดวกกับแขกให้มากที่สุด
"ไม่มีธีมงานไม่มีแม้แต่สี เพราะอยากจะอำนวยความสะดวกให้แขก อันนี้ด้วยความสัตย์จริง คือรู้สึกว่าบางคนไปงานแต่งก็ต้องปวดหัวกับเรื่องเสื้อผ้า รู้สึกว่าเขาอุตส่าห์มางานแต่งเรา ก็ไม่ต้องไปบังคับอะไร ระบุในการ์ดเลยว่า เดรสโค้ช just be you พอถึงตอนนี้รู้สึกว่าแค่เขามางานก็ดีใจแล้ว จะใส่อะไรมาก็ได้"
เล่าคบกันมาเกือบ 6 ปี ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ 3 ปีแรกเจอกันปีละ2 ครั้ง เพราะต้องทำงานอยู่ต่างประเทศ และตอนนี้กลับมาทำงานที่ประเทศไทยแล้ว ภูมิใจที่ว่าที่สามีเป็นข้าราชการ
"5 ปีครึ่ง เกือบ 6 ปี เขารับราชการ งานหนัก แต่เราก็ภูมิใจในงานที่เขาทำ เราเห็นเขามาตั้งแต่เริ่มคบกัน 5-6 ปีที่ผ่านมา เขาผ่านชีวิตการทำงานอะไรมาเยอะ ก็ภูมิใจ เขาเป็นข้าราชการที่ตั้งใจทำงาน"
"3 ปีแรก จะได้เจอกันปีละครั้ง 2 ครั้ง ก็โอเค มันก็ทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เหมือนเขาทำให้เรารู้จักอยู่กับตัวเองได้ ไปเดินห้าง ออกกำลังกาย ดูหนัง คนเดียว คือเราต้องรู้จักการที่จะอยู่คนเดียว หรือไปอยู่กับเพื่อน ไม่ต้องตัวติดกับใครตลอดเวลา ตอนนี้เขาย้ายมาอยู่ไทยแล้ว ประมาณ 2 ปีครึ่ง เขามาอยู่กระทรวงการต่างประเทศค่ะ"
"ก็ถือว่าลงตัวทุกอย่าง ด้วยระยะเวลาด้วย อายุด้วย 32 แล้ว พี่เขาก็โตกว่าปีหนึ่ง ก็คุยกันมาเรื่อยๆ ตอนที่เซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ไม่ได้เซอร์ไพรส์เลย เพราะมีคุยกันมาตลอด เขาเป็นคนขี้เขิน เซอร์ไพรส์อะไรไม่เป็น จะโป๊ะแตกตลอด มันก็เลยจะออกมาเป็นอีกฟีลหนึ่ง คนก็บอกว่าดูเป็นธรรมชาติดี ตลกดี"
แย้มหลังแต่งงานเปิดอู่เลยทันที
"จริงๆ ก็ตั้งใจนะคะ เพราะเป็นคนชอบเด็กทั้งคู่ ถ้าเราได้มีของเราสักคน สองคนก็คงจะดี คิดว่าแต่งปุ๊บมีเลย อยากธรรมชาติ เดี๋ยวดูอะไรที่มันลงตัวตรงไหน ดูสิอุตส่าห์ออกกำลังกาย ยังไม่ทันผอมมากเลย"
