สำนักข่าว Deadline อ้างว่า "เควิน ไฟกี" ประธาน Marvel Studios ได้ยุติการดำเนินการสร้างหนัง Spider-Man ภาคต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลัง Disney และ Sony ตกลงเรื่องส่วนแบ่งรายได้หนัง Spider-Man ภาคต่อไปไม่ได้
ซึ่งหมายความว่าหากทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการหนังไม่สามารถตกลงกันได้ Spider-Man ก็จะไม่ได้มาปรากฏตัวในหนังของ Marvel แล้ว ส่วนดารา และตัวละครจาก Marvel Cinematic Universe อย่าง แซมมวล แอล. แจ็กสัน ก็จะไม่ได้มีส่วนร่วมในหนัง Marvel Spider-Man ภาคต่อ ๆ ไป ด้วยเช่นเดียวกัน
แหล่งข่าวของ Deadline บอกว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมีเรื่องเงินเป็นประเด็นสำคัญ โดยแหล่งข่าวอ้างว่า Disney ได้ยื่นข้อเสนอว่าหลังจากนี้พวกเขาต้องการส่วนแบ่งจากหนัง Spider-Man 50% แทนที่จะเป็น 5% จากรายได้ของหนังอย่างที่เป็นในปัจจุบัน
Sony เชื่อไปต่อเองได้ไม่ต้องพึ่ง Marvel
โดย Spider-Man: Far From Home ทำเงินได้สูงกิน 1 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งหมายความว่า Disney จะได้ส่วนแบ่งแค่ 50 ล้านเหรียญฯเ เท่านั้น ซึ่งพวกเขามองว่าไม่เป็นธรรม เพราะ Marvel มองว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Spider-Man: Far From Home ทำเงินได้สูงขนาดนี้ก็คือการที่หนังผูกเรื่องราวต่อเนื่องกับ Marvel Cinematic Universe นั่นเอง โดยเฉพาะเนื้อเรื่องใน Far From Home ที่แทบจะเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่องจาก Avengers: Endgame โดยตรง
Disney เชื่อว่าถ้าไม่มี Marvel Cinematic Universe หนัง Spider-Man: Far From Home ก็ไม่น่าจะได้เงินมากขนาดนั้น ซึ่งแน่นอนว่า Sony ไม่เห็นด้วย
Deadline บอกว่า Sony ก็เริ่มจะมั่นใจใน Spider-Man มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าพวกเขาน่าจะผลักดันตัวละครตัวนี้ได้โดยไม่ต้องมี Marvel และ เควิน ไฟกี แต่ลำพังแค่ ผกก. จอน วัตต์ส กับผู้อำนวยการสร้าง เอมี พาสคัล ก็น่าจะพาโปรเจ็คไปต่อได้ เพราะตัวของ ทอม ฮอลแลนด์ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำให้หนัง Spider-Man ภาคล่าสุดทำเงินได้ถึง 1,000 ล้านเหรียญฯ
จักรวาลภาพยนตร์ Spider-Man
เมื่อปี 2015 Marvel Studios และ Sony ตกลงกันที่จะให้ Spider-Man เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลภาพยนตร์ Marvel จนทำให้ตัวละครตัวนี้ได้ปรากฏตัวในหนังชุด Captain America และ Avengers แต่ Sony ยังจะเป็นผู้ถือสิทธิ์ในตัวละคร Spider-Man อยู่เหมือนเดิม และรับผิดชอบทั้งในด้านการเงิน, การจัดจำหน่าย รวมถึงเป็นผู้ "ตัดสินใจขั้นสุดท้าย" ในทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับ Spider-Man
หลังจากนั้นไม่นาน ทอม ฮอลแลนด์ จึงถูกเลือกให้มารับบทเป็น Spider-Man หรือ ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ คนใหม่ และได้ร่วมแสดงในหนังของ Disney ถึง 3 เรื่องประกอบไปด้วย Captain America: Civil War, Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame นอกจากนั้นก็ยังได้แสดงนำในหนังเดี่ยว Spider-Man ของ Sony อีก 2 เรื่อง ซึ่งมีข่าวว่า ฮอลแลนด์ เหลือสัญญารับบท Spider-Man อีกเพียง 1 เรื่องเท่านั้น แต่ Deadline อ้างว่า Sony มีแผนจะสร้างหนังที่จะให้เขาแสดงนำเป็น Spider-Man อีกถึง 2 เรื่องเป็นอย่างน้อย
ไม่เท่านั้น Sony ยังคิดการใหญ่ และมีแผนที่จะสร้างหนังจักรวาลภาพยนตร์ Spider-Man ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งจริง ๆ Sony มีแผนการนี้มาตั้งแต่ช่วง 10 ปีก่อนแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องพับโครงการไป เพราะหนังชุด The Amazing Spider-Man ที่นำแสดงโดย เจมส์ การ์ฟิลด์ ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จอย่างที่บริษัทคาดหวัง
แต่หลังความสำเร็จของ Venoms ที่ ทอม ฮาร์ดี มารับบทเป็นตัวละครแอนตี้ฮีโร่สุดดังจนหนังทำเงินทั่วโลกถล่มทลาย ก็ทำให้ Sony มั่นใจมากขึ้น จน Sony วางแผนที่จะสร้างหนังเกี่ยวกับตัวละครในโลกของ Spider-Man ที่ตัวเองถือครองสิทธิ์อยู่หลายเรื่อง ทั้ง Morbius ที่จะได้ เจเร็ต เลโต มาแสดงนำ, หนัง Kraven the Hunter, Black Cat รวมถึงสานต่ออนิเมชั่น Spider-Man: Into The Spider-Verse ด้วย
ซึ่งสุดท้าย ทอม ฮอลแลนด์ ในบท Spider-Man ก็อาจจะได้ปรากฏตัวในหนังเหล่านี้ด้วย
