xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) "กันต์" รับเหวอ "เจ้าขุน" แย่งไมค์-แจกกล้วย ชี้ทำไม่ถูกแต่ผิดถูกอยากให้ดูที่เจตนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"กันต์" เคลียร์" เจ้าขุน" ไร้มารยาทแย่งไมค์บนเวที แจกกล้วย ชี้เป็นการกระทำไม่ถูกต้อง แต่อยากให้ดูที่เจตนาน้อง เพิ่งอายุ 16 เชื่ออีกฝ่ายได้เรียนรู้ว่าควรทำอะไร และอะไรคือสิ่งที่ผิดพลาด ป้อง "เจ เจตริน" เป็นโปรเฟสชั่นแนล ยก "เสี่ยตา" มาอ้างไม่ได้จิกกัด แค่พูดเล่นเท่านั้น ย้ำกลับบ้านดึก เพราะรักงาน ไร้ปัญหากับภรรยา



กลายเป็นกระแสดรามาที่สนั่นไปทั้งโซเชียล สะเทือนไปทั้งทวิตเตอร์ สำหรับรายการ 10Fight10 ที่ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ โดย "เจ เจตริน วรรธนะสิน" เป็นโปรโมเตอร์ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง "เจ้าขุน จักรภัทร" ลูกชายของเจ ปะทะ "แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์" ซึ่งฝ่ายแบงค์สามารถเอาชนะน็อกเจ้าขุน และในจังหวะหนึ่งหลังชกเสร็จสิ้น เจ้าขุนได้แย่งไมค์ "กันต์ กันตถาวร" ซึ่งทำหน้าที่พิธีกรอยู่ และยังชูนิ้วกลางอีกด้วยบนเวที จนโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย ไร้ซึ่งมารยาท

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอตัวกันต์ในงานแถลงข่าว “TMB I ING PARKRUN 2019” ณ บริเวณชั้น 1 ทีเอ็มบี สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน เจ้าตัวก็เผยว่าได้ทราบทุกกระแสข่าวแล้ว และค่อนข้างตกใจที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์โลกไปแล้ว ยอมรับว่าเป็นห่วงความรู้สึกทีมงานเวิร์คพอยท์ พี่เจ เจ้าขุน แบงค์ เจ้าขุนเป็นน้อง ภาพที่ได้เห็นในทวิตเตอร์ ที่เห็นว่าน้องแย่งไมค์ ตนในฐานะพิธีกรเป็นพี่ชายน้อง สิ่งที่น้องทำไม่ถูกต้อง เจ้าขุนไม่สามารถแย่งไมค์ได้ แต่ก็อยากให้มองที่เจตนา

"เรื่องราวเมื่อคืนทั้งหมดในฐานะพิธีกร ผมก็ได้อ่านมวลรวมทั้งหมด มีหลายมวลรวมที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และมากมาย เริ่มจากรายการก่อน ด้วยความที่เป็นรายการสด เราถ่ายทำกันมา 10 สัปดาห์ต่อกัน มีกล้องเกือบ 20 ตัว ทีมงานเกือบ 100 คน เราทำงานกันหนักมาก เริ่มซ้อมกันตั้งแต่เช้า ถ่ายทำกันจริงๆ ตอน 2 ทุ่ม ทีมงานมาก่อนและกลับหลังเรา เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด ต้องขอชื่นชมทีมงาน ถ้าไม่มีพวกคุณ รายการนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งเราทำกันอย่างดีที่สุด ณ ขณะหนึ่ง เพราะเป็นรายการสด อาจจะดีไม่หมด ไม่ได้ถูกใจทุกๆ คน แต่รายการสดไม่สามารถมีเทค 2 ได้ เราอยากทำอะไรให้ดีกว่านี้ ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ หน้าที่ของผมคือเหมือนกองกลางในทีมฟุตบอล มีหน้าที่จ่ายบอล คอยดำเนินเกมให้สมูทมากที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราทั้งหมดได้ทำกัน"

รับเป็นห่วงความรู้สึกทุกฝ่ายเรื่องเจ้าขุนแย่งไมค์ ในฐานะพี่ชาย กล้าพูดเลยว่าไม่ถูกต้อง น้องมีเจตนาดี แต่การกระทำมันผิด เชื่อหลังจากนี้ประสบการณ์จะสอนน้องเอง
"ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นในรายการเมื่อวาน ผมเป็นห่วงทุกๆ คน เป็นห่วงความรู้สึกทั้งของทีมงานเวิร์คพอยท์ ทีมงานของพี่เจ เจตริน ของน้องเจ้าขุน และของแบงค์ ธิติ ต้องบอกว่าทั้งเจ้าขุนและแบงค์เป็นน้องผม เรารู้จักกันอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่พี่น้องในวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ผมพูดอย่างนี้แล้วกัน ภาพที่เราได้เห็นในทวิตเตอร์หรืออะไรก็แล้วแต่นั้น ผมจะพูดแค่ส่วนของผม ไม่พาดพิงคนอื่น"

"ที่เห็นว่าน้องแย่งไมค์ ในฐานะพี่ชาย ผมก็ต้องพูดจริงๆ ว่าสิ่งที่น้องทำไม่ถูกต้องนะ คุณไม่สามารถแย่งไมค์จากใครก็แล้วแต่แบบนั้นได้ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ผิดไม่ผิดต้องดูที่เจตนา คือน้องไม่ได้มีเจตนาที่แบบเฮ้ย เอาไมค์มา น้องแค่รู้สึกว่าเหมือนเกมส์จบแล้ว พอพูดเสร็จเอาไมค์คืนพิธีกร ผมก็พูดแล้วว่าครับผมจะพูดแล้วไมค์ก็หายไป สิ่งที่น้องทำต่อคือเอาไมค์ไปขอบคุณแฟนคลับของแบงค์ นั่นคือเจตนาครับ"

"คือเจตนาดีแต่การกระทำผมก็กล้าพูดว่าไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผมว่าน้องได้เรียนรู้แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องไปพูดต่อว่ามันไม่ถูกนะ น้องสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่ว่าด้วยการแสดงออกของน้อง น้องเป็นคนที่คิดเลยทำเลย เราจะเห็นได้ในทุกๆอิริยาบถ อย่างเวลาจะพูดเขาก็จะพูดเลย คือไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งไม่ดีนะ สุดท้ายแล้วประสบการณ์มันจะสอนน้องเองว่าอะไรดีอะไรไม่ดี มันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองครับ เรื่องพวกนี้มันต้องเจอกับตัวเอง คือยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุแล้วน้องจะค่อยๆ เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ"

"ปีนี้ผมอายุ 34 แล้ว น้องเพิ่งอายุ 16 เอง เพราะฉะนั้นน้องยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างในการอยู่ตรงนี้ เรารู้จักน้องเพราะนี่คือครอบครัวของพี่เจนะ น้องเจ้านาย น้องเจ้าขุน น้องเจ้าสมุทร น่ารักทุกคนเลยเวลาที่มาถ่ายรายการ เขาจะมากันทั้งครอบครัว"

"แต่น้องเจ้าขุนเพิ่งก้าวขามาขาเดียวในวงการเอง เขายังไม่ได้แบบเล่นละครมาหลายเรื่อง มีซิงเกิลมาแล้วหลายเพลงหรืออะไรที่ทำให้เขามีประสบการณ์ในการถูกสัมภาษณ์หรือจะต้องพูดยังไง เขายังไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากนัก เพราะฉะนั้นผมว่ามันเป็นสิ่งที่น้องจะต้องเรียนรู้ ผมว่าเรื่องนี้น้องรู้แล้ว และผมว่าครอบครัวของน้องคือพี่เจ และพี่ปิ่นก็รู้แล้ว ไม่มีใครอยากทำอะไรไม่ดีออกมาให้ประชาชนมานั่งว่าหรอก คือผมก็ไม่ได้ปกป้องน้อง ถ้าให้ผมได้พูดกับน้อง ผมจะบอกว่าโอเค คุณรู้แล้วว่าไม่ถูกต้องและไม่ต้องพูดกันเยอะด้วย เพียงแต่ว่าน้องไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเท่านั้นเองครับ”

เผยเจ้าขุนไม่ได้มีการมาขอโทษส่วนตัว แต่ขอโทษบนเวทีไปแล้ว ด้านตนก็ไม่ได้มีเจตนาจิกกัด แค่ต้องแก้สถานการณ์ เลยต้องเล่นให้มันตลกไป
"เขาก็ขอโทษบนเวทีแล้วนะ ผมนั่งดูย้อนอยู่หลายครั้งมาก กลับบ้านไปแล้วคุณพลอย ภรรยาบอกว่า กันต์ ดรามาเต็มไปหมดเลย คนว่าน้องเต็มเลยที่แย่งไมค์ เอาจริงๆ ผมก็แก้สถานการณ์ไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นถ้าผมปล่อยนิ่ง ขุนจะดูแย่มาก ก็ต้องเล่นให้มันดูตลกไป ไมค์หายไปไหนวะ ไม่ได้มีเจตนาจิกกัดอะไรน้องเลย"

รับตอนนั้นเหวอจริง เลยต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า
"เหวอจริงๆ สิครับ คือผมไม่ได้เอาไมค์กลับมาแล้วน้องมาบอกว่าพี่กันต์ผมขอพูดแป๊บหนึ่ง ตอนนั้นผมพูดไปแล้วด้วย ยอมรับว่าเหวอจริงๆ ตอนนั้นต้องประมวลผลเพราะมันคือรายการสด เราจะทำยังไงต่อให้มวลทั้งหมดมันสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างสมูทที่สุด เพราะสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการประกาศผล การพูดขอบคุณสปอนเซอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่สามารถหยุดตรงนั้นได้ ไม่สามารถคัตแล้วเอาใหม่ได้ มันอยู่ที่ผมเท่านั้น"

กับประโยคที่ว่าขนาด "ปัญญา นิรันดร์กุล" ยังไม่กล้าดึงไมค์จากผมเลย ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าแรง แค่แซวเล่นเท่านั้น แต่พอมีการเอามาพิมพ์เป็นคำพูดเลยอาจจะเข้าใจผิดได้
"ไม่ดูแรงครับ ขออนุญาตพูดแค่นี้จริงๆ มันเป็นการแซวกัน น่าจะเข้าใจกันได้ แม้แต่คุณปัญญายังไม่เคยทำแบบนี้กับผมเลย ถ้ามันเป็นคำพูดที่พิมพ์มันแปลได้หลายภาษา แต่ถ้าคุณดูสีหน้าอากัปกิริยารวมไปถึงน้ำเสียงผมคุณจะรู้ว่านี่คือการพูดเพื่ออะไรเท่านั้นเอง"

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีโอกาสได้พูดถึงดรามานี้กับเจ้าขุน หรือใครเลย
"ยังเลยครับ ยังไม่ได้คุยกับใครเลย"

ปัดเพราะเจเป็นผู้จัด ลูกเลยจะทำอะไรก็ได้ เชื่อเจเป็นมืออาชีพมากพออยู่แล้ว
"ผมว่าพี่เจไม่ได้คิดแบบนั้นครับสำหรับผม ผมไม่ได้ปกป้องพี่เจ ในฐานะโปรโมเตอร์หรือในฐานะพี่ชายอะไรก็แล้วแต่ คือผมต้องบอกก่อนว่ารายการนี้เกิดขึ้นเพราะพี่เจ บริษัท เจมีดี กับ เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (มหาชน) จำกัด ได้ร่วมมือกันทำรายการนี้ขึ้นมา เรื่องรายละเอียดผมไม่ขอลงลึกเป็นเรื่องของผู้ใหญ่คุยกันแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ใครจะทำอะไรก็ได้ในรายการไหน และผมว่าพี่เจไม่ใช่คนไม่ใช่มืออาชีพ เขารู้อยู่แล้วว่ามันควรจะทำอะไร เพียงแต่ว่าเขาพูดเกริ่นมาแล้วนะว่าอันนี้ในฐานะโปรโมเตอร์ อันนี้ในฐานะพ่อ คือผมว่าสุดท้ายมันคือเรื่องของพวกเราเองแล้วว่ามันอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจเรา แต่ผมว่าพี่เจเขารู้อยู่แล้วครับ มันไม่ใช่หรอกว่านี่รายการฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ คือผมว่าเขาเป็นมืออาชีพอยู่แล้วครับ"

บอกไม่ทราบเรื่องเจปิดคอมเมนต์ เพราะตกใจเรื่องแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่
"อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ไม่ได้รู้ คือเมื่อวานนั่งย้อนดูไลฟ์ในเฟซบุ๊กในยูทิวบ์ พอดูแล้วหยุด ดูแล้วหยุดเยอะมาก และทวิตเตอร์เป็นอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว ผมเห็นแล้วตกใจ"

แจงเรื่องเข็มขัดที่เกินมา ความจริงคือของ "เจสัน ยัง" แต่วันนั้นไม่ได้มา เลยให้เจ้าขุนรับแทน เพราะทีมไวท์เหมือนกัน
"เข็มขัดไม่ได้เกินครับ อันนี้จะได้กระจ่างกัน คือวันการประกาศเป็นรางวัลที่โปรโมเตอร์ที่พี่เจอยากมอบให้ และถ้าจำได้คือจะมีรางวัลหนึ่งที่ผมต้องมอบให้พี่หลุยส์ พงษ์พันธ์ และพี่เจสัน ยัง แต่พี่เจสัน ยังไม่ได้มารับ เพราะฉะนั้นก็เป็นทีมงานที่มารับแทน คืออยู่ที่ทีมไวท์แล้ว"

"แต่พอไม่ได้มารับ พูดง่ายๆ คือยังไม่มีใครถือ ยังอยู่ในมือของทีมงาน พี่เจเขาก็พูดว่าในฐานะพ่อนะ ขุนมานี่ลูก คือมันเป็นมวลน่ารักแบบนั้นมากกว่า แต่มันคงอยู่ที่การตีความของเรามั้ง อันนี้ผมไม่ทราบ ผมขอไม่พูดแทนใครละกันนะครับ ผมพูดในฐานะพิธีกรและตัวแทนของรายการ 10 FIGHT 10 ล่ะกันครับว่ามวลทั้งหมดพี่เจเป็นมืออาชีพมากเพียงพอ และรายการที่ผมรับหน้าที่เป็นพิธีกร เป็นแม่ทัพของทีมงาน เป็นร้อยคน ทุกคนทำงานกันหนักมากครับ และเสียงชื่นชมไม่ควรอยู่ที่ผมคนเดียว ควรอยู่ที่ทีมงานทุกคน"

"ส่วนคำติ ผมก็ไม่รับคนเดียว ผมกับทีมงานจะรับด้วยกัน เพื่อทำให้มันดีขึ้น จะได้รู้ในสิ่งที่เรามองไม่เห็นว่ามันควรจะทำอะไรยังไงบ้าง ตอนนี้มีหลายข้อที่เราได้ดูเอาไว้แล้ว คู่มวยควรจะยังไง เราควรจะบอกกฎกติกาให้คนดูได้รับรู้ไหม เพราะตอนนี้คนดูรายการนี้ ไม่ใช่แค่คนดูมวย เป็นบางคนที่ไม่เคยดูมวยมาก่อน อย่างผู้หญิงดูบอลครับ ดูแต่นักบอลหล่อ ไม่ได้รู้ว่าล้ำหน้าคืออะไร เป่านกหวีดทำไม มันจะคล้ายๆ อย่างนั้น"

"เพราะฉะนั้นเราได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่ใหม่มากสำหรับพวกเรา สำหรับผมเช่นกัน ผมกับทีมงานทุกคนก็พยายามทำให้มันออกมาดีที่สุด ณ ขณะหนึ่งที่ผมมีแรง มีสมอง มีสติจะทำได้ และผมไม่เสียใจเลย ณ ข้อผิดพลาดอะไรที่เกิดขึ้นก็แล้วแต่ เพราะมันคือรายการสด ณ ขณะนั้น"

ปัดเศร้าจากดรามา เลยลงรูปคู่ภรรยา บอกแค่อยากลงเพราะเขาคือกำลังใจ
ผมรักภรรยาครับ คือเขาเป็นกำลังใจที่ดี ผมว่าคล้ายๆ กับพี่แมทธิว ดีน ที่ได้พูดในรายการนะ คือเขาไม่โอเคหรอกจริงๆ ไม่มีใครโอเคที่สามีต้องกลับบ้านดึก แล้วผมก็ไม่อยากบอกว่าเป็นโรคจิต ผมก็รักงานผม นั่นคือสิ่งที่แสดงตัวตนผม ในสิ่งที่ผมทำอยู่ ผมกลับบ้านก็ยังนั่งเช็ก ยังนั่งดูย้อน ยังทำวิธีโลว์เทคคือกดดูแล้วก็ Pause แล้วก็นั่งจดเหมือนสอบเอนทรานซ์ ดูว่าอะไรพลาด มีอะไรที่ควรจะปรับปรุง"

"คือผมก็ทำแบบนี้ตลอดในทุกๆ รายการ และคอนเทนต์ที่ทำ มันก็เลยเป็นว่ากว่าผมจะได้นอนจริงๆ รายการเลิก 4 ทุ่ม ถึงบ้าน 5 ทุ่ม จะนอนตี 2 พอเห็นข่าว ทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก พอมาดูก็กะว่าครึ่งชั่วโมงได้นอน กลายเป็นตี 4 กว่าได้นอน ก็เห็นใจทุกคน ผมไม่ระบุเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งทีมงานที่ตั้งใจทำงาน นักมวยทุกคน โปรโมเตอร์ ผู้จัด โปรดิวเซอร์"

"ทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมวลดี มวลร้าย เราจะรับไว้ทั้งหมด มันเป็นการติเพื่อก่อ ผมเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้นนะ สำหรับสิ่งไม่ดีที่เป็นดรามาเมื่อคืน ผมว่าเราทุกคนได้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นน้องเจ้าขุนเอง หรือว่าพี่เจ แม่ปิ่น น้องๆ ทุกคน ผมเองก็เถอะ ทีมงาน นักมวย ผมว่าเราได้เรียนรู้ว่าควรจะทำอะไร แล้วมีอะไรที่ผิดพลาดบ้าง เพื่อก่อเกิดสิ่งที่ดีในอนาคต”

ยันรายการไม่มีสคริปต์ การันตีจากปากพิธีกร
“รายการนี้ไม่มีสคริปต์ครับ ทุกรายการของผมไม่มีสคริปต์เลย ผมสามารถการันตีได้จากปากพิธีกร”

กรณีเจ้าขุนโชว์นิ้วกลาง ตนไม่เห็นกับตาบนเวที แต่ได้เห็นจากภาพในทวิตเตอร์ ไม่ขอพูดแทน เชื่อเจ้าตัวคงอยากออกมาพูดเอง
"ผมเห็นในทวิตเตอร์ แต่ผมไม่เห็นภาพ ณ เหตุการณ์จริง มันน่าจะเป็นกรณีเดียวกันที่ถามผมว่าเป็นการพูดที่แรงไปไหม ว่าพี่ตา ปัญญา ยังไม่ทำแบบนี้กับผมเลย พอมันเป็นคำเขียน หรือตัวพิมพ์ มันแปลได้หลายอย่าง ตามอิริยาบถของเราผู้อ่าน แต่มันต้องเห็นมวลทั้งหมด ถ้าคุณได้เห็นน้ำเสียง สีหน้า อากัปกิริยา คุณจะรู้ว่านี่คือการพูดเล่น ก็ไม่เห็น ณ ตอนนั้นจริงๆ เพราะผมทำหน้าที่พิธีกรอยู่ ผมเห็นจากการคร็อปในทวิตเตอร์ว่ามันเกิดสิ่งนั้นขึ้นจริงๆ แต่ผมไม่รู้ว่ามวลที่น้องทำ ณ ตอนนั้น มันคือมวลอะไร ขออนุญาตไม่พูดแทนน้อง ผมเชื่อว่าน้องอยากจะออกมาพูดเอง"

หลังจากนี้จะคุยกับเจปกติ ไม่ได้บาดหมางหรือแคลงใจกัน
"ก็คุยกันเป็นปกติอยู่แล้วครับ ต่อให้ไม่ทำรายการนี้ร่วมกัน เขาเป็นคนชอบรถ ชอบนาฬิกา เราก็คุยกัน พอได้มาทำรายการนี้ ก็กลายเป็นสนิทกับลูกเขาเข้าไปอีก ไม่มีเรื่องอะไรบาดหมางแคลงใจหรืออะไรกัน"

บอกเจกับปิ่นไม่ได้มีการติดต่อมา และส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องติดต่อมาทำไม เพราะตนไม่ได้เป็นประเด็น
"ยังครับ และผมว่าไม่ จริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องติดต่อมาทำไม หมายถึงมันไม่มีประเด็นที่เกิดอะไรกับผม ซึ่งผมว่าเราก็เห็นดรามาทั้งหมดแล้วมันไม่เกี่ยวกับผมหรอก ผมว่ามันเกิดจากสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น และผมว่าเดี๋ยวคงมีการออกมาพูดคุยกันเอง ผมอยากให้แต่ละฝ่ายเป็นคนพูดกันเอง ผมไม่อยากพูดแทนใครเลย เพราะผมเชื่อว่าตอนนี้ทุกคนมีความเครียด ผมเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันก่อให้เกิดความเครียดกับหลายๆ ฝ่ายที่ถูกระบุอยู่ในนั้นอยู่แล้วผมก็ขอพูดในมุมที่เป็นหน้าที่พิธีกร และมุมของเวิร์คพอยท์แล้วกันครับว่าเราทำได้ดีที่สุด ณ ขณะนั้นแล้วจริงๆ เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ แต่ผมไม่ได้ถือว่ามันเป็นข้อผิดพลาดอะไรนะเพราะมันคือรายการสด ผมทำได้ดีที่สุดแล้ว และทีมงานทำได้ดีที่สุดแล้ว ณ ขณะนั้นจริงๆ”

เผยแต่ละคนมีวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ไม่เหมือนกัน ตนทำดีที่สุดในแบบของตัวเองแล้ว
"สำหรับผมมันคือหน้าที่พิธีกร เป็นหน้าที่อยู่แล้วและผมเชื่อว่าต่อให้เป็นพิธีกรคนอื่น อันนี้อ่านทวิตเตอร์เหมือนกัน ถ้าเป็นคนนั้นคนนี้จะต้องไม่อย่างนั้นอย่างนี้แน่เลย ผมเชื่อว่าจริงๆ ถ้าเป็นรายการสด ณ ขณะนั้นมันจะอัตโนมัติคุณจะต้องคิดเอง ผมใช้คำว่าแลนดิ้งแล้วกัน เราอยากจะไปลงจอดตรงไหน แต่ละคนจะมีวิธีการกระทำที่แตกต่างกัน แปลว่าเรามีวิธีการแตกต่างกัน แต่จุดหมายปลายทางมันต้องแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ออกมาดีที่สุด เพราะคนอื่นอาจจะไม่ทำแบบผม อาจจะดีกว่าผมก็ได้เพื่อก่อให้เกิดมวลที่ดีกว่านี้ ผมทำได้เท่านั้นจริงๆ"

รับเป็นห่วงเจ้าขุนมาก จนไม่กล้าลงรูปคู่กับฝ่ายไหนทั้งไหน แต่ยืนยันได้ว่าเจ้าขุนกับแบงค์ เป็นเพื่อนกัน และทุกคนรักกันดี
"เป็นห่วงมาก ผมกับภรรยาก็คิดว่าขุนจะเป็นยังไงบ้าง กลายเป็นว่าผมระวังไปเลย ผมอยากจะลงรูปกับน้องว่าไม่ต้องคิดมากนะ กลัวจะเป็นดรามาอีก แบงค์ก็แมสเสจมาว่าผมเต็มที่แล้ว เดี๋ยววันหลังเจอกัน ผมก็เจอกันน้อง พอจะมาลงรูปกับแบงค์ก็ต้องลงรูปกับเจ้าขุน เดี๋ยวภรรยาคิดมากอีก ลงรูปกับภรรยา สรุปว่าไม่ลงเลยดีกว่า แต่สุดท้ายไม่มีใครหมางใจกับใคร แบงค์กับเจ้าขุนเป็นเพื่อนกัน ทุกคนรักกันดี ทุกอย่างผมขอไม่พูดแทนใคร แต่ขอพูดในมุมของผมและทีมงานเวิร์คพอยท์แล้วกันครับ"








กำลังโหลดความคิดเห็น