ดารารุ่นใหญ่ "นิโคลาส เคจ" เปิดใจว่าทำไมเขาถึงใช้เงิน 150 ล้านเหรียญฯ ที่หามาจากการทำงานในฮอลลีวูดจนหมดเกลี้ยง โดยอดีตเจ้าของรางวัลออสการ์ยอมรับว่าในช่วงหนึ่งของชีวิตเขาเคยหมกมุ่นกับการจับจ่ายซื้อของหายาก และรู้สึกเหมือนเป็นภารกิจของชีวิตที่จะต้องครอบครองวัตถุล้ำค่าเหล่านั้นให้ได้
เมื่อไม่กี่ปีก่อน นิโคลาส เคจ ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูด และมีหนังที่ทำเงินมหาศาลมากมาย ตอนนั้นเขามีค่าตัวสูงมาก และได้ชื่อว่าเป็นดาราที่มีรายรับอันดับต้น ๆ ของวงการ เคจ เคยครอบครองอสังหาริมทรัพย์ถึง 15 แห่ง ทั้งใน แคลิฟอร์เนีย, ลาสเวกัส และ เกาะที่บาฮามัส ด้วย
แต่นอกจากการครอบครองบ้าน และที่ดินหลายแห่งแล้ว เคจ ยังมีงานอดิเรกเป็นการสะสมของหายากต่าง ๆ ด้วย ซึ่งคอลเล็คชั่นของพระเอกคนดังก็มีทั้งซากศพโบราณ, ปลาหมึกยักษ์, อย่างศีรษะคนป่าปิกมี่, หนังสือการ์ตูนหายาก และกระโหลกไดโนเสาร์ที่สุดท้ายกลายเป็นว่าถูกขโมยมาจากประเทศมองโกเลีย ซึ่ง เคจ ก็ยินดีที่จะคืนให้กับรัฐบาลมองโกเลียโดยไม่มีอิดออด
กระดูกไดโนเสาร์, หนังสือการ์ตูนหายาก, ปราสาทโบราณ .... ความหมกมุ่นในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม เคจ ยืนยันว่างานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ไม่ได้ทำให้เขาหมดตัวอย่างแน่นอน "ปลาหมึกยักษ์นั่นแค่ 80 เหรียญฯ เองมั้ง คุณไม่วิกฤติชีวิตเพราะซื้อปลาหมึกหรอก"
นิโคลาส เคจ บอกว่าจริง ๆ สาเหตุที่ทำให้เขามีปัญหาเรื่องเงินก็คือการลงทุนผิดพลาดเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์นั่นเอง
ด้วยความที่คลั่งไคล้ถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์มาก ทำให้ เคจ พยายามซื้อของที่เชื่ยมโยงไปถึงเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ เอาไว้มากมาย รวมถึงปราสาทในเยอรมันที่มีอายุเก่าแก่ถึง 400 ปี ที่เขาจ่ายเงิน 2.6 ล้านเหรียญฯ จนได้เป็นเจ้าของด้วย
"ผมเริ่มสนใจตำนานต่าง ๆ และพยายามหาสิ่งของที่เชื่อมโยงกับตำนานเหล่านั้นมาเก็บครอบครองเอาไว้" เคยเรียกของพวกนี้ว่าเป็นเหมือน "จอกศักดิ์สิทธิ์" ส่วนตัวที่เขาพยายามค้นหาเพื่อครอบครองให้ได้
เคจ เปรียบเทียบของหายากเหล่านี้เป็น "จอกศักดิ์สิทธิ์" หรือ "holy grail" ตามตำนานอัศวินอาร์เธอร์ ซึ่งก็รวมทั้งวัตถุโบราณ และสถานที่ในประวัติศาสตร์ "ผมจะเสาะแสวงหาไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ในอังกฤษ แต่ก็มีบางที่ในอเมริกา" โดยเขาเคยจ่ายเงินซื้อปราสาทในยุโรป 2 แห่งราคา 10 และ 2.3 ล้านฯ และซื้อบ้านชานเมืองที่นิวพอร์ตโรคไอร์แลนด์ราคา 15.7 ล้านเหรียญฯ
"เวลาอ่านหนังสือก็จะอ้างอิงไปถึงหนังสือเล่มอื่น เราก็ต้องไปซื้อหนังสือพวกนั้น แล้วก็เจออ้างอิงอีก สำหรับผมสุดท้ายแล้วทุกอย่างมันจะเกี่ยวกับว่าจอกศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงไหนกันแน่? อยู่ที่ไหนกันแน่?"
ทุกอย่างคือการลงทุน และปมในอดีต
แม้จะลงทุนผิดพลาดจนถึงขั้นมีปัญหาทางการเงิน แต่ เคจ ก็ไม่รู้สึกเสียใจกับการจับจ่ายซื้อของต่าง ๆ ของตัวเอง และมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติของการลงทุน "บางทีมันก็เป็นการลงทุนที่ดี บางทีก็เป็นการลงทุนที่แย่ ... ส่วนใหญ่การลงทุนที่ดีจะมาจากคนที่ผมสนใจ และความรื่นรมย์ต่อเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของผม"
ซึ่งหนึ่งในการลงทุนที่ถูกต้องของ เคจ ก็น่าจะเป็นการจ่ายเงิน 150,000 เหรียญฯ ซื้อหนังสือการ์ตูนซูเปอร์แมนเล่มแรก Action Comics No. 1 ซึ่งตอนนี้ราคาหนังสือการ์ตูนหายากเล่มนี้สูงถึง 3 ล้านเหรียญฯ แล้ว
สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น เคจ ยอมรับตรง ๆ ว่าเป็นปมวัยเด็ก ที่เติบโตมาในย่านของเศรษฐี รอบ ๆ ตัวมีแต่คนรวย แต่พ่อของเขาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับพ่อของคนอื่น ๆ เคจ บอกว่าเขาโตมาแบบค่อนข้างเจียมตัว "ผมจะนั่งรถเมล์ไปโรงเรียน ส่วนเด็กโตแถวนั้นจะขับ มาเซอร์ราติ หรือ เฟอร์รารีส์ กัน
นอกจากนั้นคุณลุงของ เคจ ที่ชื่อว่า ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ก็เป็นแรงบันดาลใจของเขาด้วย "ลุงใจกว้างมาก ผมจะไปเยี่ยมบ้านเขาทุกหน้าร้อน ผมอยากจะเป็นแบบเขา อาจจะมีแมนชั่นแบบนั้น สิ่งเหล่านี้นั่นแหละที่เป็นแรงผลักดันของผม"