Universal เลือกที่จะยกเลิกการฉายหนัง The Hunt หลังเกิดเหตุกราดยิงขึ้นพร้อม ๆ กัน 2 เหตุการณ์ในสหรัฐฯ จนสร้างความโศกเศร้าไปทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทจัดจำหน่ายก็มองว่าการฉายหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกมการ "ล่ามนุษย์" ในช่วงนี้น่าจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
The Hunt เป็นผลงานการสร้างโดย Blumhouse Productions ของ เจสัน บลูม ผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการสร้างหนังสยอง และระทึกขวัญ ซึ่ง The Hunt ก็มีเนื้อหาที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะหนังจะเล่าเรื่องที่มนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งเป็น "คนธรรมดาเดินดิน" ได้ถูกกลุ่ม "ชนชั้นสูง" ลักพาตัวไปเพื่อใช้ล่าเป็นเกมส์ สำหรับสร้างความบันเทิงเหมือนเกมกีฬา
โดย The Hunt มีกำหนดฉายในวันที่ 27 ก.ย. ที่จะถึงนี้ แต่ล่าสุด Blumhouse Productions ได้ประกาศยกเลิกการฉายหนังเรื่องนี้แล้ว หมายความว่า Universal ได้หยุดโปรโมตหนังทันที และตอนนี้ก็ยังมีข้อมูลชัดเชนว่าหนังจะได้ฉายเมื่อไหร่กันแน่ หรือสุดท้ายจะได้ฉายรึเปล่า?
ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตที่เดย์ตัน และเอลปาโซ พร้อม ๆ กันจนสร้างความเศร้าสลดให้กับคนทั้งชาติ
แต่ไม่เท่านั้น The Hunt ยังถูกกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากกล่าวหาว่าหนังพยายามสร้างภาพให้กลุ่ม "ชนชั้นสูง" ในเรื่องดูเป็นพวกเสรีนิยมที่ร่ำรวย ส่วนกลุ่มตัวละครที่ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นเหยื่อในเกมกีฬาล่ามนุษย์ก็ดูเหมือนกลุ่มคนอนุรักษ์นิยมหาเช่ากินค่ำ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนประธานาธิบดี ทรัมป์ นั่นเอง
แม้แต่ตัวของ ทรัมป์ เองก็ยังออกมาทวีตถึงหนังเรื่องนี้ โดยเขาไม่ได้เขียนชื่อหนังออกมาตรง ๆ แต่บอกว่ามีหนังเรื่องหนึ่งที่มีเนื้อหา "เหยียด" และ "กล่าวหาเพื่อสร้างความวุ่นวาย" ให้กับสังคม .... "หนังที่กำลังจะฉายเรื่องหนึ่งมีเนื้อหาป้ายสี และสร้างความวุ่นวาย คนพวกนี้ส่งเสริมความรุนแรง และกลับไปกล่าวหาคนอื่น พวกนี้นี่แหละพวกเหยียดตัวจริง และเป็นพวกที่มีแต่ทำให้ประเทศเราแย่"
โดยก่อนหน้านี้ เดมอน ลินเดอร์ลอฟ กับ นิค คอส ที่เป็นคนเขียนบทได้ยืนยันว่าหนังของพวกเขาไม่ได้ขายความรุนแรง หรือความเกลียดชัง "หนังไม่ได้ดาร์กอะไรขนาดนั้น โดยเฉพาะถ้าคุณข้ามประเด็นเกี่ยวกับคนล่าคนไปได้" คนเขียนบทบอก และยืนยันว่า The Hunt ให้อารมณ์ตลกร้าย และเสียดสีมากกว่า