ในปี 2019 นี้ บรูซ ลี ได้กลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง อาจจะไม่ได้เป็นตัวของ บรูซ ลี โดยตรง แต่เป็นในฐานะตัวละครในหนังใหม่เรื่อง Once Upon A time In Hollywood ของ เควนติน ตารันติโน
เนื้อหาในหนัง Once Upon A time In Hollywood อาจจะมาจากจินตนาการของ ตารันติโน่ เป็นหลัก เรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ตรงกับความเป็ฯจริง ซะทีเดียว แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องจริง ที่ บรูซ ลี เคยใช้ชีวิตอยู่ที่ฮอลลีวูดจริง ๆ และพูดได้ว่าตำนานการเป็นราชากังฟูของเขาก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่ด้วย
บรูซ ลี เกิดมาในครอบครัวที่มีพ่อเป็นแสดงงิ้ว และลืมตาดูโลกที่โรงพยายาลในไชน่าทาวน์ ซานฟรานซิสโก ระหว่างที่พ่อเดินทางมาแสดงที่สหรัฐอเมริกา ก่อนที่ทั้งครอบครัวจะเดินทางกลับฮ่องกงตั้งแต่ บรูซ ลี ยังเป็นแค่เด็กทารก
จริง ๆ แล้ว บรูซ ลี มีผลงานการแสดงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว การมีพ่อเป็นดารางิ้ว ทำให้ บรูซ ลี ได้งานแสดงตั้งแต่ยังอายุแค่ 9 ขวบเท่านั้นเอง เขาเล่นหนังในฐานะนักแสดงเด็กเอาไว้หลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นหนังแนวชีวิตที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับหมัดมวยเลย
จนต่อมาเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น บรูซ ลี จึงตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง และปักหลักอยู่ที่นั่น เขาเปิดสำนักมวย กลายเป็นครูมวยที่โด่งดังมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และที่อเมริกา บรูซ ลี ยังได้เริ่มต้นชีวิตในฐานะดารานักบู๊อย่างเป็นทางการด้วย
ตอนนั้น บรูซ ลี ได้มีส่วนร่วมในการโชว์หมัดมวยตามสถานที่ต่าง ๆ จนได้รับคำเชิญให้มาดออดชั่นงานในซีรีส์ฮอลลีวูด จนสุดท้ายเขาจึงได้รับบทเป็นตัวละครที่ชื่อว่า เคโต้ ผู้ช่วยสวมหน้ากากของซูเปอร์ฮีโร่แตนอาละวาด The Green Hornet ที่นำแสดงโดย แวน วิลเลียมส์ นั่นเอง
The Green Hornet ออกอากาศอยู่ 26 ตอน จึงจบชุดไป แต่ซีรีส์ก็ดังกลายเป็นซีรีส์คัลท์ระดับตำนานที่ยังคงถูกพูดถึงจนปัจจุบัน
ส่วน บรูซ ลี ก็ได้งานฮอลลีวูดต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นในฐานะตัวประกอบ และสตั้นแมน รวมถึงการได้รวมออกแบบคิวบู๊ในหนัง Wrecking Crew ที่มี ดาราสาว แชรอน เทต แสดงนำ ก่อนที่เธอจะถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมโดยสาวกของ ชาลส์ แมนสัน ซึ่งเป็นเรื่องราวในหนัง Once Upon A time In Hollywood
นอกจากนั้น บรูซี ลี ยังได้รับงานแสดงในหนังอีกหลาย ๆ เรื่อง แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นบทประกอบที่ไม่สำคัญ อย่างในหนังนักสืบเรื่อง Marlowe หรือซีรีส์เรื่อง Longstreet ที่ บรูซ ลี ได้โผล่มาเรื่องละฉากสองฉาก
ในตอนนั้น บรูซี ลี ยังพยายามจะปั้นโปรเจ็คหนัง เพื่อให้ตัวเองแสดงนำ แน่นอนว่าเป็นหนังเกี่ยวกับเอเซียที่มีตัวเอกเป็นคนจีน อย่างหนัง Circle of Iron ที่เขาร่วมแต่งเรื่องกับดาราดัง เจมส์ โคเบิร์น แต่กว่าจะได้สร้าง บรูซ ลี ก็ตายไปหลายปีแล้ว
ส่วนบทเรื่อง Warriors ที่ บรูซี ลี คิดเรื่องเอาไว้เกี่ยวกับการต่อสู้ของหนุ่มจีนในซานฟานซิสโกเมื่อยุคปี 1870 ก็เพิ่งจะถูกนำมาสร้างเป็นซีรืส์ในปีนี้เอง
ส่วนที่เป็นประเด็นที่ดังที่สุดก็คือซีรีส์ Kung Fu ที่ว่าด้วยการผจญภัยของพระหนุ่มลูกครึ่งจีนอเมริกัน ในดินแดนคาวบอย ที่ บรูซ ลี บอกว่าเขาเป็นคนคิดไอเดียนี้ขึ้นมา แต่สตูดิโอฮอลลีวูดกลับหยิบไปสร้างโดยให้ เดวิด คาราดีน มาแสดงนำ แต่ผู้สร้างก็ยืนยันว่าพวกเขาคิดเรื่องราวในซีรีส์ชุดนี้ขึ้นมาเอง โดยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ บรูซ ลี เลย
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ตอนนั้น บรูซ ลี เริ่มรู้สึกว่าเขาพบกับทางตันในฮลอลีวูดแล้ว โปรดิวเซอร์ในอเมริกาถึงกับแนะนำให้ บรูซ กลับไปสร้างหนังที่ฮ่องกงบ้านเกิดดูซักเรื่อง เผื่อจะสร้างชื่อขึ้นมาได้บ้าง และถึงตอนนั้น ฮอลลีวูด ก็อาจจะสนใจเขาขึ้นมาบ้าง
จนเมื่อกลับถึงฮ่องกง บรูซ ลี จึงพบว่าตัวเองคือซูเปอร์สตาร์ที่นี่ เพราะ Green Hornet เป็นซีรีส์ที่ฮิตสุด ๆ ในฮ่องกงเพราะตัวของเขาเอง ซีรีส์ถึงกับถูกเปลี่ยนชื่อว่า Kato Show ตามชื่อตัวละครของ บรูซ ลี กันเลยทีเดียว
บรูซ ลี ได้รับการติดต่อจาก Golden Harvest ที่ฮ่องกงให้มาร่วมทำงานด้วยกัน เขาได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่อถ่ายทำหนัง The Big Boss และตำนานของ บรูซ ลี ราชานักบู๊อันดับ 1 ตลอดกาลของโลกก็เริ่มต้นขึ้นตรงนั้นเอง