"แพท ณปภา" ไม่เสียใจแม่แท้ๆ จากไป เพราะทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่แล้ว แต่เสียดายว่าแม่น่าจะให้ตนเจอหน้าก่อนจากกัน พ้อ 33 ปีไม่มีโอกาสได้เจอหน้าแม่แท้ๆ สักครั้ง ต้องมาเจอกันในตอนเคาะโลง บอกที่ผ่านมาพยายามติดต่อขอเจอแม่ตลอด แต่แม่ปฎิเสธ เพิ่งมารู้ทีหลังแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ลั่นพา "น้องเรซซิ่ง" และ "เบนซ์" มาร่วมงานเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะเป็นครอบครัวเดียวกัน
เสร็จสิ้นพิธีการไปเรียบร้อยแล้วสำหรับงานศพแม่แท้ๆ ของสาว "แพท ณปภา ตันตระกูล" วันนี้ (1 ส.ค.) มีโอกาสเจอสาวแพทที่งาน "แอลจีชวนลูกปลูกรัก เติมใจให้แม่" สาวแพทเล่าให้ฟังว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เจอแม่ เพราะที่ผ่านมาตนพยายามจะติดต่อขอเจอแม่แล้ว แต่แม่ปฎิเสธมาโดยตลอด ซึ่งตนมารู้ทีหลังว่าที่แม่ปฎิเสธนั้นเพราะแม่ป่วย
"เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ถือว่าเป็นการเจอกันครั้งแรก และครั้งสุดท้ายเลย ซึ่งจริงๆ วันนี้ครบ 7 วันที่ท่านเสีย และก็ลอยอังคารเรียบร้อยแล้วค่ะ ที่เหลือรอครบร้อยวัน แพทไม่เคยเจอท่านมาก่อน แต่ได้คุยกันทางโทรศัพท์กับแม่ และแม่ส่งรูปให้ดูทางไลน์ แม่ยังไม่สะดวกที่จะเจอ เพิ่งมารู้วันที่คุณแม่เสียว่าคุณแม่ไม่สะดวก เพราะคุณแม่ป่วย ยังไม่อยากเจอ เหมือนท่านไม่อยากให้เห็นท่านตอนป่วย คุณตาคุณยายเล่าให้ฟัง ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับแม่เหมือนกัน แม่ก็ไม่บอกว่าท่านป่วย เราไม่รู้เลยจนอยู่ดีๆ ท่านก็ไปเลย เราต้องถามคุณตาคุณยายว่าแม่ป่วยเป็นอะไร แพทมารู้ก็ที่งานศพเลยว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งค่ะ"
"ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าแม่เสีย อย่างที่บอกว่ามันกะทันหันมาก คุณตาเป็นคนโทร.มาว่าให้มาดูใจแม่นะ ตอนนั้นเราทำงานอยู่ เราก็บอกว่าเราจะรีบไป สักพักคุณตาก็บอกว่าคุณแม่ไม่ไหวแล้ว ให้มาที่วัดเลย ก็สวดปกติ สวด 2 วัน เผาวันจันทร์ นี่ก็ครบ 7 วันแล้ว"
ลั่นไม่เสียใจเพราะตนทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่แล้ว แต่รู้สึกเสียดายว่าแม่น่าจะให้ตนเจอหน้าก่อน เผยตั้งแต่เกิดมา 33 ปีตนไม่มีโอกาสได้เจอหน้าแม่แท้ๆ เลย มาได้เจอก็ต้องเคาะโลงศพคุยกัน
"ไม่เสียใจเลยค่ะ แพททำทุกอย่างเต็มที่ มันไม่ใช่ว่าเราไม่ทำ เราทำหมดแล้ว เราบอกเราขอแล้วแต่ทุกอย่างมันไม่ใช่แค่เรา มันอยู่ที่ฝั่งแม่เราด้วยว่าเขาพร้อมไหม มีเหตุผลอะไรไหม ยังไง ทุกอย่างมันถูกวางไว้แล้ว ซึ่งเราทำเต็มที่แล้วในส่วนของแพท แม่เองเขาก็เลือกในส่วนของเขา ที่เขาสบายใจ เราจะไม่กดดันกัน คำว่าเสียใจมันเลยไม่มี มีแต่คำว่าเสียดาย มันเสียใจที่วันนี้เราสูญเสียแต่เราไม่ได้เสียใจที่วันนี้เราไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ มันเป็นความเสียดายว่าแม่น่าจะให้เราได้เจอเขาตอนที่เรายังคุยกันได้ ไม่ใช่มาเคาะโลงคุย"
"แม่ไม่มีฝากอะไรมาถึงแพทเลย มีแค่วันที่แกจะไปแกก็เรียกหาเท่านั้นเอง ถามคุณตาคุณยายแกก็บอกไม่มีอะไรแค่แกเรียกหา แกอยากเจอ แพทกับแม่ไม่ได้เจอกันมา 33 ปี แล้ววันที่เจอคือวันที่แกเสียแล้ว เราก็บอกแกได้แค่ว่าเรารักแกแค่นั้น แพทโอเค แพทอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่เป็นการสูญเสียเราเสียใจได้ แต่เรายังมีคนข้างหลังที่เรายังต้องดูแลต่อไป เอาทุกความทรงจำ ทุกเรื่องราวของการสูญเสียมาเป็นพลังในการทำงานดีกว่า"
ลั่นการพาลูกชาย "น้องเรซซิ่ง" และหนุ่ม "เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช" มาร่วมคือเป็นสิ่งที่ค้องทำ เพราะถือเป็นครอบครัวเดียวกัน
"เป็นสิ่งที่ต้องทำในฐานะลูก เราคือครอบครัวเราต้องทำ น้องยังไม่รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น น้องรู้แค่ว่าคนเยอะดี สนุกจัง ขอวิ่งหน่อย มันยังไม่ถึงเวลาที่แพทจะต้องบอกว่าคุณยายตายแล้วนะลูก คุณยายคือแม่ของแม่ มันไม่ใช่ แค่ให้เขามาร่วมงานแค่นั้นเลย วันนึงที่เขาโตขึ้น เขารู้เรื่องแล้วแพทจะอธิบายเขาว่ามันเกิดอะไร เรซจะต้องรู้อะไรอีกเยอะเลยในชีวิตของเขา แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้เขารู้แค่ว่าเขาเจอคุณยาย คุณยายนอนหลับอยู่ในตู้ เขารู้แค่นี้ เขาไม่เข้าใจว่าตายคืออะไร ถ้าลูกไม่เก็ตเราก็ไม่พยายามยัดเยียดข้อมูลว่าไม่ลูก คุณยายไม่ได้หลับ คุณยายตายแล้วลูก ตายอยู่ในตู้ เราไม่ทำอย่างนั้น ลูกคิดว่ายายหลับก็คือหลับ ยายสวยก็คือสวย วันนึงถ้าเขาพร้อมที่จะเข้าใจเราถึงจะค่อยอธิบาย"
"พี่เบนซ์ไปร่วมงานด้วย ยังไงเขาก็เป็นคนในครอบครัว เราก็เชิญทุกคน คนที่เราสนิททุกคน ใครสะดวกก็มา เราไม่ได้บังคับว่าต้องมานะ เดี๋ยวจะมีงานวันครบ 100 วันในเดือน พ.ย. ใครว่างก็มากัน อย่างวันนี้แพทก็ไม่ได้ไป เพราะแพทมีงาน ซึ่งคุณตาคุณยายแล้วน้องเข้าใจ มันเป็นงานที่แพลนมาก่อนหน้านี้แล้ว มันมาไม่ได้ก็คือไม่ได้ เดี๋ยวทางนั้นเขาก็จัดการให้"
ยันช่วยเหลือย่างเต็มที่โดยตนได้ช่วยเหลือเรื่องเงินจัดงานเพราะไม่มีความรู้เรื่องการจัดงานพิธีต่างๆ
"ทุกอย่างค่ะ เรียบร้อยหมดแล้ว ให้ทางนั้นจัดส่วนค่าใช้จ่ายแพทดูแลเอง เพราะแพทจัดงานไม่เป็น ทำอะไรไม่เป็นเลยค่ะ เขาดูแลได้ก็ให้เขาดูแลไปเลย"
