xs
xsm
sm
md
lg

ขอบคุณทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับพี่! "เจได" รัก "นิ้ง" ที่สุด รับถูกพ่อตาสงสัยไม่ใช่ชายแท้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




"เจได-นิ้ง โศภิดา" คบ 1 ปี แต่รักลึกซึ้ง ถือเคล็ดเลขสวยซุ่มจดทะเบียนก่อนแต่ง เจ้าบ่าวขอบคุณฝ่ายหญิง ยอมทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับตน เผยขำๆ พ่อตาเคยสงสัยว่าไม่แมน แต่ไม่เสียเซลฟ์ มองเป็นเรื่องตลก บอกแม่ตนถามเจ้าสาวตรงๆ รักลูกจริงหรือเปล่า ประทับใจมิสแอฟริกาบินมาร่วมงานทั้งที่กำลังจะสอบ ต้องอ่านหนังสือบนเครื่องบิน ด้านมิสเวียดนามนำชุดประจำชาติมาเป็นของขวัญ ตื้นตันคนสำคัญมากันทั้งโลก แพลนมีลูก 4 คน สัญญาจะรักกันจนกว่าพระเจ้าจะพากลับบ้าน

เวลาไม่สำคัญเท่าความรักที่มีให้กัน หลังคบกันได้ประมาณ 1 ปี มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2018 “นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์” ก็จูงมือแฟนหนุ่มนักธุรกิจร้อยล้าน “เจได ไตรนุภาพ จิระไตรธาร”เข้าประตูวิวาห์ไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (27 ก.ค.62) โดยมีพิธีตามหลักศาสนาคริสต์ที่โบสถ์วัฒนา ภายในงานมีครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานอย่างอบอุ่น และช่วงค่ำมีงานฉลองมงคลสมรสในธีม Universe ที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ถนนวิทยุ

ซึ่งในวันสำคัญของนิ้ง ได้มีความประทับใจเกิดขึ้น เมื่อเพื่อนนางงามระดับจักรวาลของนิ้งบินข้ามประเทศมาร่วมงานถึง 4 คน อาทิ “แทมารีน กรีน” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2018 จากประเทศแอฟริกาใต้, “เฮอ เฮนนี”Top5 มิสยูนิเวิร์ส 2018 จากประเทศเวียดนาม, “โซเนีย เฟอร์กินา ซิตร้า”20 คนสุดท้าย มิสยูนิเวิร์ส 2018 จากประเทศอินโดนีเซีย และ “ชิว เหม่ยซู” มิสยูนิเวิร์สจีน 2018 ซึ่ง “แทมารีน กรีน” รูมเมทคนสนิทของนิ้งเมื่อครั้งประกวดมิสยูนิเวิร์ส เป็นผู้ได้รับช่อดอกไม้จากคู่บ่าวสาว

ด้าน “นิ้ง” และ “เจได” ได้ควงกันออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงจุดเริ่มต้นความรัก จนถึงวันที่ตกลงเป็นสามีภรรยากันตลอดชีวิต

นิ้ง : "บรรยากาศเมื่อเช้าเหมือนฝันเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าเป็นสิ่งที่นิ้งฝันมาตั้งแต่เด็กเลยว่า นิ้งอยากมีพิธีโบสถ์ และได้เจอผู้ชายคนนึงและได้เข้าพิธีด้วยกันค่ะ"

เจได : "ส่วนของผมก็เป็นมากกว่าฝัน เพราะว่ามันสวยมาก และครอบครัว เพื่อนๆ ที่มากันจากทั่วโลก มันเหมือนฝันจริงๆ ครับ ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ และเพื่อนๆ ทุกคนจากทั้งไทยและต่างประเทศที่ทำให้มันอบอุ่นมากครับ"

นิ้ง : "ความตื่นเต้น ตัวเขาเคยผ่านมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว (หัวเราะ) คือเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมา"

เจได : "ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาน่าจะร่วมสิบงานแล้ว และอยู่ในพิธีของคริสต์มาเกือบจะทั้งหมดเลย ก็เลยคุ้นเคยดีอยู่แล้วครับ และพอถึงงานตัวเองก็ค่อนข้างจะชิล แต่ว่าพอไปยืนอยู่ตรงด้านหน้าโบสถ์ ตรงซุ้มดอกไม้ ผมก็ร้องไห้เลย (หัวเราะ) เพราะเราก็ไม่นึกว่าจะมีวันนี้ครับ"

นิ้ง : "ก็มีเสียน้ำตาค่ะ แต่เป็นฝั่งเขานะคะ พอนิ้งเห็นเขาร้องไห้นิ้งก็ไม่กล้าเสียน้ำตาเลย (หัวเราะ) เราก็เลยไม่ดีกว่า เพราะเจ้าบ่าวร้องเยอะแล้ว"

เจได : "ผมซึ้งอยู่คนเดียว (หัวเราะ)"

นิ้ง : "แต่เป็นครั้งแรกของนิ้งค่ะที่มาอยู่ในอารมณ์แบบนี้ เป็นความอบอุ่นและพิธีแบบคริสเตียน"

ร้องไห้เพราะออกมาดีกว่าสิ่งที่เคยฝัน คนสำคัญข้ามโลกมาร่วมงาน มิสแอฟริกาบินมาแล้วจะบินกลับเลย เพื่อไปสอบ
เจได : "คือที่ผมร้องไห้เพราะภาพที่เราเคยคิดหรือฝันมันออกมาดีกว่านั้นน่ะครับ คือทุกคนที่อยู่ที่นั่น ครอบครัว เพื่อนๆ ที่บินข้ามโลกมาเพื่องานพวกเราโดยเฉพาะจริงๆ ผมทึ่งมากหลายๆ คนอุตส่าห์บินมาไกลมากเพื่อมางานเราอย่างเดียวเลยครับ ไม่ได้ไปงานอื่นเลยครับ"

นิ้ง : "มิสแอฟริกาใต้ค่ะ เขาบินมาอยู่แค่วันเดียวค่ะ พรุ่งนี้เขาก็กลับแล้ว และเขาก็มีสอบของหมอด้วยเพราะกำลังจะจบแล้ว คือเขามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ"

เจได : "เขาก็เล่าให้พวกเราฟังว่า ตอนอยู่บนเครื่องบินเขาก็อ่านหนังสือสอบไปด้วย พอกลับไปก็ตื่นวันรุ่งขึ้นก็สอบเลยครับ"

นิ้ง : "ก็เลยประทับใจมากๆ ค่ะ"

เผยดีใจที่เพื่อนๆ นางงามที่ประกวดมิสยูนิเวิร์สด้วยกันมาร่วมงาน
นิ้ง : "จริงๆ นิ้งเชิญในทวีปเอเชียมาเยอะเหมือนกัน แต่สิ่งที่นิ้งได้คอนเฟิร์มมาบางคนเขาก็ไม่สะดวก แต่อย่างรูมเมทนิ้งจริงๆ ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าเขาจะมาไหม แต่พอเขาตอบตกลง มันเหมือนเป็นอะไรที่โอ้มายกอด แล้วก็มีมิสเวียดนามที่เขาก็ยุ่งเนอะ แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าเคลียร์คิวให้เพื่องานแต่งเราค่ะ ก็รู้สึกดีใจมากค่ะ"

เจได : "และที่เจ๋งกว่านั้นคือมิสเวียดนามก็ไม่ได้มามือเปล่านะครับ"

นิ้ง : "เขาเอาชุดประจำชาติของเขามาฝากพวกเราด้วยค่ะ แล้วรูมเมทนิ้งได้ดอกไม้เมื่อช่วงเช้าด้วยค่ะ คือเพื่อนเจ้าสาวทุกคนก็ลุ้นหมด เพราะทุกคนก็ต่างอายุ 20 กว่าๆ ยังเอ๊าะๆ กันทั้งนั้น ทุกคนก็ตื่นเต้น แล้วนิ้งมีความรู้สึกว่าถ้าใครได้นี่เป็นเจ้าสาวคนต่อไปแน่นอน แล้วพอแทมารีนได้ก็โอ้มายกอด คือรูมเมทนิ้งเอง ก็ตื่นเต้นแทนเขาค่ะ"

สัญญาจะรักนิ้งแค่คนเดียว ตราบจนพระเจ้าพรากจาก
เจได : "คำมั่นสัญญาก็มีเยอะเหมือนกันครับ"

นิ้ง : "สัญญาว่าจะดูแลซึ่งกันและกัน"

เจได : "ก็เชื่อในส่วนดีซึ่งกันและกัน ไม่จำความผิดของซึ่งกันและกัน และแน่นอนว่าต้องรักเพียงแค่นิ้ง และมีแค่นิ้งคนเดียว จนกว่าพระเจ้าจะเอาพวกเรากลับบ้านกันครับ"

เผยจุดเริ่มต้นความรัก พบรักฝ่ายหญิงที่โบสถ์ ก่อนไดเร็กไปจีบ
นิ้ง : "ส่วนวันที่ได้เจอกันครั้งแรก ก็เข้ามาสู่ธีมมิสยูนิเวิร์สค่ะ ว่าทำไมถึงเป็นธีมนี้ เพราะมันมีเหตุผลด้วยค่ะ"

เจได : "จริงๆ เราพบรักกันผ่านมิสยูนิเวิร์ส คือเราเจอกันครั้งแรกตอนที่นิ้งเดินเข้ามาที่โบสถ์ของผม และตอนนั้นก็รู้ว่าเขาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่ไม่ได้คิดว่าเราจะได้มารักกัน แล้วก็สถานที่นี่ก็มีเหตุผลที่จัด เพราะบังเอิญว่านิ้งได้มาถ่ายแบบที่นี่ด้วยแบรนด์แว่นของผม แล้วตอนนั้นพี่ตุ๊กก็ส่งรูปของนิ้งที่ใส่แว่นของแบรนด์ผมมาให้ ผมก็เลยไดเร็กไอจีไปหานิ้งครับ"

นิ้ง : "บอกว่าคุณใส่แล้วสวยมากๆ You so beautiful คำนี้แหละค่ะ แล้วพี่ตุ๊กก็บอกว่ายังโสดนะนิ้ง เขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ลองคุยไหม"

เจได : "ก็เลยได้คุยจริงๆ จังๆ ตั้งแต่นั้นมาครับ"

นิ้ง : "นิ้งก็ไม่คิดว่าเขาอายุ 32 นิ้งคิดว่าเขาอายุ 20 ต้นๆ เพราะว่าเขาใส่เสื้อแจ็คเกตหนัง แล้วก็เล่นกีต้าร์ พอรู้ทีหลังก็คือ 32 แล้ว นึกว่ามีครอบครัวแล้ว ลูก 4 (หัวเราะ)"

ลั่นเป็นคู่รักนักสู้ นิสัยเหมือนกันและรู้ใจกัน จนระยะเวลาที่คบแค่ปีเดียวก็ไม่เรียกว่าน้อยไป
นิ้ง : "คือเราเป็นคนที่เหมือนกันมาก รู้ใจกันขนาดที่รู้ว่าอยากกินอะไร ตื่นมาก็คือรู้เลย ปกตินิ้งจะมีลิสต์เรื่องผู้ชายในสเปกของนิ้ง ส่วนเขาก็มีลิสต์ของเขา"

เจได : "คือผมมีสเป็กที่ผมเขียนไว้เยอะมากเลยครับ ก็มีสวย ฉลาด เป็นคริสเตียน เป็นคนที่เป็นนักสู้ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ชอบการอ่านหนังสือ อันนี้เริ่มยาก แล้วก็ชอบการทำงาน จริงๆ ผมใส่ว่าต้องขายาว หุ่นดีด้วยนะ (หัวเราะ) จริงๆ ผมมีรายละเอียดเยอะมาก แล้วพอเราได้มารู้จักกันจริงๆ คือนิ้งมีเกินกว่าสิ่งที่ผมคาดหวังไว้จริงๆ ครับ ก็อย่างที่นิ้งบอกว่าเรามีหลายๆ อย่างที่คล้ายๆ กัน แล้วก็รู้สึกว่าอยู่ด้วยกันแล้วสนุก หัวเราะ ตลกกันทั้งวันทั้งคืน"

นิ้ง : "สำหรับสเปกของนิ้งก็ง่ายๆ เลย ต้องเป็นคริสเตียน เป็นผู้ชายที่อบอุ่น แล้วก็รักคนอื่นมากๆ แม้กระทั่งแม่บ้านของเขา เขาก็ยังให้เกียรติเหมือนเป็นเพื่อนของเขาเลยค่ะ คือดูแลรอบข้างดี เขาจะรักและห่วงใยมาก เขาเป็นคนที่เก่งมาก แล้วก็ค่อนข้างที่จะขี้น้อยใจบ้าง"

เจได : "หวงแฟนครับ รักแฟน"

นิ้ง : "เขารักนิ้งมากค่ะ แม้กระทั่งเรื่องการกิน ก็สิ่งที่นิ้งอาจจะดูสมบูรณ์ไปก็เพราะเขานี่แหละค่ะ (หัวเราะ)"

เจได : "ก็เพราะความที่เราเหมือนกันขนาดนี้ เรื่องระยะเวลาที่คบกันก็เลยไม่ได้สำคัญครับ ถามว่าต้องปรับตัวกันยังไง จริงๆ ผมว่ามันเรื่องของความเคยชินบางอย่าง อย่างผมก็โสดมาเป็นช่วงเวลานาน ก็อาจจะไม่คุ้นเคยกับช่วงที่จะมีใคร และเหมือนช่วงนี้เราก็ต้องละทิ้งสิ่งที่เราต้องการไปค่อนข้างจะเยอะ เหมือนกับเราก็ยอมเสียสละส่วนที่มันเคยเป็นของเราและให้เขาให้มากขึ้น แต่มันเป็นการให้ด้วยการมีความสุข มันก็เลยง่ายครับ ผมก็ปรับตัวนิดหน่อยครับ ไม่มาก"

สินสอดสมน้ำสมเนื้อ ไม่ให้เสียเกียรติฝ่ายหญิงและครอบครัวแน่นอน ส่วนแหวนเพชรรวมสร้อยเพชรก็กว่า 10 กะรัต
นิ้ง : "เรื่องสินสอดก็ต้องขอบคุณพระเจ้าแล้วกันที่ทำให้เรามีวันนี้ และขอบคุณพี่ด้วย"

เจได : "จริงๆ สำหรับครอบครัวเราทั้งสองคนมันไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ มันเป็นความที่เราสองคนรักกัน และครอบครัวของเราทั้งสองคนเห็นความรักของพวกเรา ก็อยากจะอวยพรเราทั้งสองคนมากกว่าครับ ก็เรียกว่าสมน้ำสมเนื้อกับนิ้งแน่นอนครับ เราก็ไม่ให้นิ้งเขาเสียเกียรติอยู่แล้วครับ ก็ต้องให้เกียรติครอบครัวเขาด้วยครับ ส่วนเรื่องแหวนจริงๆ วงที่ใส่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายครับ"

นิ้ง : "แต่มีอีกวงนึงที่หม่าม๊าให้ค่ะ ก็เก็บเอาไว้ ไม่ได้มาใส่โชว์"

เจได : "คือเป็นแหวนที่ผมก็ตกใจ เพราะเป็นแหวนที่ป๊ะป๋าเป็นคนไปซื้อให้ แล้วก็เอามาให้ผมเพื่อขอนิ้งแต่งงาน ก็ขอบคุณป๊ะป๋ามากนะครับที่อวยพรพวกเราอย่างมาก รักและเอ็นดูพวกเราสองคนอย่างมากครับ ถามว่า 10 กะรัตจริงไหม ขอลดๆ ลงหน่อยครับ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วโดยรวมมันก็ถึงครับ หมายถึงรวมสร้อยที่หม่าม๊าให้มันก็ถึงครับ แต่ว่าวงเดียว 10 กะรัตก็เยอะไปครับ"

บอกตั้งใจจัดงานฉลองให้เป็นธีมงานมิสยูนิเวิร์สมากที่สุด
เจได : "จริงๆ ตอนแรกผมอยากจะเสกเวทีของมิสยูนิเวิร์สมาที่งานเลย ดังนั้นงานวันนี้ก็จะเป็นธีมงานให้มากที่สุดครับ แล้วโทนก็จะเป็นอารมณ์กาแล็คซี่ วิ้งค์ๆ"

นิ้ง : "ชุดเจ้าบ่าวนี่ทำเจ้าสาวอายมาก (หัวเราะ)"

เจได : "ก็จะมีการเดินสเตจกันนิดนึงครับ (หัวเราะ)"

นิ้ง : "ก็อยากให้มีทางเดินยาวๆ นิดนึง มีจอแอลอีดีค่ะ"

เจได : "มีจอเยอะๆ เหมือนในเวทีมิสยูนิเวิร์สเลยครับ"

นิ้ง : "ถามว่าลุ้นเซอร์ไพรส์จากเจ้าบ่าวไหม ไม่รู้เลยค่ะ เพราะตั้งแต่ขอแต่งงานก็ยังตกใจไม่หายเลย เขาเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์จนนิ้งคิดมุกไม่ออกแล้ว (หัวเราะ)"

อยากมีทายาท 4 คน นิ้งโวยขอก่อนอายุ 30 อยากเป็นคุณแม่หุ่นแซบ
เจได : "ก็คงเป็นปีหน้าครับ เพราะเราก็อยากเที่ยวกันก่อนครับ ส่วนจำนวนขั้นต่ำก็คงจะต้องหนึ่งคนครับ แต่มากสุดที่เราคุยกันไว้ก็อยากจะมีสัก 4 คนครับ (หัวเราะ)"

นิ้ง : "ถ้า 4 คนต้องเป็นช่วงก่อนอายุ 30 นะ ถึงจะฟิตหุ่นได้ อยากเป็นคุณแม่หุ่นแซบ ส่วนการทำงานตอนนี้ก็คือช่วยพี่เจไดทำงานค่ะ นิ้งก็ช่วยพี่เจไดเต็มตัวมาสักพักแล้วค่ะ ตั้งแต่ประกวดมิสยูนิเวิร์สเสร็จ นิ้งก็มาช่วยพี่เจไดประกอบธุรกิจหลัก ก็คอยดูเรื่องการเงินให้เขา มีทะเลาะกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่ก็รักกันดีค่ะ (หัวเราะ)"

เจได : "แพลนฮันนีมูนเหรอครับ ก็เป็นที่ฟินแลนด์ครับ ช่วงอาทิตย์หน้าหลังจบแฟชั่นโชว์ เพราะนิ้งจะมีเดินแฟชั่นโชว์ของพี่ฌอน Poem ส่วนเรือนหอ เดี๋ยวนิ้งเขาก็จะย้ายเข้าไปที่คอนโดของผมที่อยู่ตรงพระราม 3 ครับ Star View ที่เดียวกับของพี่พีเคครับ"

ซุ่มจดทะเบียนสมรสก่อนวิวาห์ ถือเคล็ดตัวเลขสวย จับมือใช้ชีวิตไปด้วยกัน
นิ้ง : "จดทะเบียนแล้วค่ะ"

เจได : "จดกันก่อนหน้านี้ครับ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา"

นิ้ง : "แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลค่ะ เดี๋ยวต้องไปเปลี่ยนค่ะ"

เจได : "ที่เลือกจดวันนั้นคือเห็นว่ามันเป็นวันตัวเลขสวย"

นิ้ง : "เราเป็นคนชอบเรื่องตัวเลข"

เจได : "ใช่ครับ เรื่องฤกษ์ก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ชอบตัวเลขมากกว่า ส่วนที่เลือกแต่งวันนี้เพราะจริงๆ วันที่ 27 เป็นวันเกิดผมด้วย แล้วเลข 2 ก็คือสองคน และเลข 7 จริงๆ เป็นเรื่องของความสมบูรณ์ ก็กลายเป็นคนสองคนที่มีความสมบูรณ์ร่วมกัน และ 2+7 ก็คือ 9 ก็คือชีวิตจะได้ก้าวหน้าไปด้วย"

บอกกว่าจะฝ่าด่านครอบครัวของทั้งคู่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
นิ้ง : "ก็ผ่านด่านมาได้ ก็เยอะค่ะ ตั้งแต่วันที่ 17 เดือนธันวาคม (หัวเราะ) ตอนนั้นไปดูหนังกันค่ะ คุณพ่อก็ไม่ค่อยแฮปปี้ เพราะพี่เจไดเขาบุกไปที่บ้านเลย แล้วก็บอกว่า คุณพ่อครับ ผมเจได แฟนนิ้ง แล้วเขาก็ทำความรู้จักกัน พอครั้งที่ 2-3 คุณพ่อก็ยอมรับ ตอนแรกคุณพ่อยังคิดเลยว่านี่ชายแท้หรือเปล่า (หัวเราะ)"

เจได : "บ้า (ทำไม้ทำมือก่อนหัวเราะ) จริงๆ ด้วยว่าเราก็ไม่ได้อายุน้อยๆ แล้ว พวกเราก็เลยต้องคุยกับผู้ใหญ่ตรงๆ จริงๆ คุณแม่ผมก็เป็นห่วงเหมือนกัน ก็มีสัมภาษณ์นิ้งส่วนตัวเลยครับ ว่ายูรักลูกไอจริงหรือเปล่า คือหม่าม๊าก็หวงลูกชายเหมือนกันครับ"

นิ้ง : "ก็โทร.มาจากญี่ปุ่นเลยค่ะ"

เจได : "แต่สุดท้ายแล้วทั้งสองครอบครัวเราก็รักซึ่งกันและกันมาก และผมก็ภูมิใจมากที่มีคุณพ่อ คุณแม่ท่านใหม่ขึ้นมาอีก และมีครอบครัวอีกมหาศาลหลังจากวันนี้ ก็ดีใจมากๆ ครับ ตอนที่คุณพ่อนิ้งบอกว่าเราแมนหรือเปล่าถามว่าเสียเซลฟ์ไหม ไม่หรอกครับ เพราะว่าชินแล้วครับ ผมโดนประจำครับ (หัวเราะ)"

นิ้ง : "เขาโดนประจำเพราะว่าเขาออกกำลังกายบ่อย และเขารีดไขมันจนกระทั่งเหลือ 6% ฮอร์โมนเพศชายก็แทบจะไม่มี (หัวเราะ)"

เจได : "ไม่หรอกครับ ตอนนั้นช่วงที่โสดผมก็ชอบโพสต์รูปกับน้องชายของผม คือเหมือนกับผู้ชายออกกำลังกายสองคน แล้วผู้ชายอายุมากกว่า บวกกับเด็กอีกคนนึง มันก็ดูยังไงๆ อยู่ คนก็อาจจะสงสัยได้ แต่ผมว่าดีนะครับ เพราะก็ไม่ได้อยากให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ ก็อยากจะมีด่านนิดนึง ตั้งใจกันไว้ครับ ก็เลยมาเจอนิ้งครับ"

ให้คำสัญญาสุดประทับใจ บอกจะดูแลและรักกันตลอดไป
เจได : "ก็ขอบคุณบี๋ครับ ที่ยอมเหนื่อย จริงๆ ยูทิ้งทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเราครับ ขอบคุณมากครับที่ละทิ้งชื่อเสียง เกียรติยศที่จริงๆ แล้วยูมีต่อได้ ก็ขอบคุณที่ละทิ้งอะไรมากมายที่จริงๆ แล้วมันอาจจะดีกว่าอยู่กับพี่ก็ได้ แต่ยูก็เลือกครอบครัวของเรา และเลือกที่จะเชื่อมั่นใจความไม่ปกติของพี่ (หัวเราะ) รักและยอมรับในส่วนดีของพี่ และครอบครัวของพี่เสมอ ก็ขอบคุณที่จะยืนเคียงข้างกันจากวันนี้ และจนกว่าวันที่พระเจ้าจะพาเรากลับบ้านครับ"

นิ้ง : "นิ้งก็เช่นเดียวกันค่ะ ขอบคุณที่พี่ทนฟังความบ้าบิ่นของนิ้ง และความดื้อของนิ้งได้ เราเป็นสายเลือดนักสู้เหมือนกัน ก็ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุกข์สุข และช่วงที่อยู่มิสยูนิเวิร์ส เพื่อนๆ นางงามทุกคนก็รู้จักว่าพี่เป็นยังไง นางงามทุกคนรู้จักหมดว่าพี่เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ คอยส่งขนมอร่อยๆ มาให้ตลอดเลย และเป็นผู้ชายที่นิ้งไม่เคยคิดว่าจะได้เจอในชีวิต แต่พระเจ้าก็ส่งพี่มา และสัญญาว่าจะปกป้องคุ้มครองให้พี่มีความสุข และเป็นแม่ที่ดี เป็นภรรยาที่ดีค่ะ"

พร้อมกันนี้เพื่อนนางงามระดับจักรวาลอย่าง มิสยูนิเวิร์สแอฟริกาใต้, มิสยูนิเวิร์สเวียดนาม, มิสยูนิเวิร์สอินโดนีเซีย และ มิสยูนิเวิร์สจีน ได้ร่วมกันอวยพรนิ้งและเจ้าบ่าว ขอให้ชีวิตคู่มีแต่ความรุ่งเรือง ดีใจที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง


โดยทางด้าน "แทมารีน กรีน” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2018 จากประเทศแอฟริกาใต้ ก็เผยว่า
"ฉันอยากจะขอพูดแทนทุกคนว่าพวกเรามีความสุขมากๆ ที่ได้มาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้ แล้วก็มีความสุขที่ได้กลับมาเมืองไทยด้วย เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่พิเศษจริงๆ ทั้งคู่เป็นคู่แต่งงานที่ดูดีมากๆ อยากจะขอแสดงความยินดีกับนิ้งด้วยจริงๆ แล้วก็แสดงความยินดีกับเจไดด้วย ขอให้ชีวิตแต่งงานมีแต่ความยอดเยี่ยม แล้วก็เจริญรุ่งเรืองด้วยค่ะ"



"เมื่อเช้านี้ฉันเป็นคนที่รับช่อดอกไม้ได้ ฉันช็อกมากๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดยังไงดี แบบนี้ปีหน้าฉันจะต้องแต่งงานหรือเปล่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จากที่เห็นแล้ว นิ้งดูมีความสุขมากๆ ก็เลยเป็นตัวอย่างที่ดีเลย ว่าถ้าฉันจะต้องแต่งงานก็อยากจะดูเหมือนพวกเขานี่แหละ"


และทางด้าน "เฮอ เฮนนี” มิสยูนิเวิร์สเวียดนาม ก็เผยว่า เธอได้เตรียมชุดอ๊าวส่ายมาให้เป็นของขวัญแก่บ่าวสาว และทาง “โซเนีย เฟอร์กินา ซิตร้า” มิสยูนิเวิร์สอินโดนีเซีย ก็เสริมต่อว่า เป็นชุดประจำชาติของเวียดนามนั่นเอง



















กำลังโหลดความคิดเห็น