เรียกว่าสถานการณ์แห่คืนทีวีดิจิทัลปีนี้เริ่มจะชัดเจนและเผยโฉมหน้าผู้อยู่รอด ซึ่งช่อง MONO29 นักสู้นอกสายตาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำที่มีเรตติ้งติด Top 5 มาโดยตลอด และเมื่อต้นปี 2561 ยังเบียดเวิร์คพอยท์ขึ้นมาเป็นTop 3 พร้อมตั้งเป้าหมายต่อไปด้วยการคว้า Top 1 มาครอง งานนี้คุณ "แจ็ค บรรณสิทธิ์ รักวงษ์" ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลช่อง MONO 29 ก็ได้เผยว่า รู้สึกดีใจที่กระแสตอบรับจากประชาชนขยายวงกว้างขึ้น
"ก็รู้สึกดีใจ ทีมงานทุกคนก็ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ เราก็จะพยายามผลักดันให้ดีที่สุด ก็ภูมิใจที่ได้ทำ MONO 29 ร่วมกับทุกคน ส่วนในแง่ของการตอบรับของประชาชน ก็ขยายวงกว้างของผู้ชมไปเรื่อยๆ หลังจากที่ตอนแรกแค่กลุ่มผู้ชมกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่พอเวลาผ่านไปก็ได้กลุ่มผู้ชมจากต่างจังหวัดเข้ามาเรื่อยๆ จุดยืนของช่องเราก็ยังคงเป็นหนังซีรีส์ และยังคงเป็นอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้"
นักสู้ โนเนม
หากย้อนกลับไปวันนั้นช่อง MONO29 เป็นรายเล็กที่เข้ามาอยู่ในวงล้อมของเจ้าคอนเทนต์รายใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่อง 3, ช่อง 7, เวิร์คพอยท์, แกรมมี่ ฯลฯ แต่แน่นอนจุดแข็งของ MONO29 ไม่ได้อยู่ที่คอนเทนต์ของ ละคร ข่าว วาไรตี้ ที่ทุกช่องยึดเป็นหมัดเด็ดในการต่อสู้ MONO29 เลือกที่จะไปเล่นในเรื่องของภาพยนตร์และซีรีส์พรีเมียมจากต่างประเทศ ทำให้ MONO29 จึงเป็นช่องหนึ่งที่มีตัวตนชัดเจนและแตกต่างจากช่องอื่นๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ฟรีทีวี ที่มีหนังดี ซีรีส์ดังมากที่สุด”
"จุดเด่นก็คือหนังและซีรีส์ ส่วนจุดที่เราไม่มีแบบช่องอื่นๆ ก็คือพวกรายการวาไรตี้ ซึ่งทางโมโนเองส่วนใหญ่จะเน้นไปทางรายการสั้นๆ มากกว่า แต่ช่องเราจะมีการเสริมผังด้วยสปอร์ตอีเวนต์ เช่น บาสเกตบอลหรือมวยในช่วงที่ผ่านมาก็จะเป็นรายการที่เราถ่ายทอดเข้าไป ส่วนรายการที่เราผลิตเองก็เป็นส่วนของข่าว 25 เปอร์เซน ก็มีการพัฒนาปรับปรุงเรื่อยมา แล้วก็มีในส่วนของหนังหรือซีรีส์ที่เราผลิตเองบ้างนิดหน่อย"
เกมนี้ ไม่ได้ง่าย แต่ไม่น่ายาก
เมื่อคอนเทนต์หลักไม่ได้ชนกับคนอื่น สิ่งที่ ช่อง MONO29 ต้องทำต่อ คือต้องแข่งกับตัวเอง โดยในปีนี้ MONO 29 จะเน้นในเรื่องของคุณภาพข่าวมากขึ้น ด้วยการปล่อยหมัดฮุคแรงๆ เพื่อดึงเรตติ้งทั้งช่องให้ขยับเพิ่มขึ้นอีก
"ปีนี้ทาง MONO 29 ก็จะมีการปรับกลยุทธ์ข่าว ถามว่าจะไปแย่งชิงเรตติ้งจากช่องอื่นมั้ย จริงๆ เราไม่ได้สนใจเรื่องตรงนั้น แต่สิ่งที่เราปรับกลยุทธ์ คือเราอยากนำเสนอข่าวที่มีสาระต่อผู้ชมให้มากที่สุด เราอาจจะไม่ได้แข่งขันในเรื่องของเรตติ้งมากขนาดนั้น ถ้าสังเกตุทุกช่องจะมีช่วงรายการหรือข่าวที่ดุเดือดมาก ซึ่งตรงนั้นไม่ใช่เรื่องผิด เพราะทุกช่องเขาก็ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างเต็มที่ แต่ของทางโมโนจะเน้นไปเรื่องของสาระประโยชน์ ความรู้ดีๆ ให้กับผู้ชมได้มากที่สุด เราก็จะพัฒนาจุดนี้ให้เป็นจุดเด่นของช่อง MONO 29 ในทางทีดีให้ได้"
"ในแง่เนื้อหาเราคงเน้นจุดเดิมคือไม่เน้นข่าวดรามามาก แต่จุดที่เราเพิ่มเติมคือเราหาผู้ประกาศข่าวที่มีความสามารถในการเล่าข่าวที่ดีมากขึ้น เพราะเชื่อว่าน่าจะมีเรตติ้งที่ดีขึ้น ถ้ามีคอนเซ็ปที่ชัดเจนมีผู้เล่าข่าวจากเรื่องยากๆ กลายเป็นเรื่องง่ายผู้ชมน่าจะหันมาติดตามข่าวช่อง โมโน 29 มากขึ้น"
ดึง "ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว" ร่วมงาน หวังเป็นโลโก้ของช่อง?
"ก็ไม่ถึงขั้นเป็นโลโก้ของช่อง แต่ผมมองว่าในมุมของข่าวและสาระ ต๊ะ และผู้ประกาศข่าวคนอื่นๆ สามารถตัวแทนที่ดีในการนำสารที่ดีสู่ประชาชนให้กับช่อง โมโน 29 มากกว่า"
ปัดซื้อตัว "ต๊ะ พิภู" บอกเป็นช่วงระหว่างรอยต่อพอดี
"คุณต๊ะเราก็ไม่ได้ไปซื้อตัวมานะครับ มันเป็นช่วงระหว่างรอยต่อพอดี ผมเห็นเขาตั้งแต่เรื่องเล่าเช้านี้ ตอนช่วงที่เขาออกเราก็ลองติดต่อไปแต่ไม่ทันเพราะเขาไปแกรมมี่ก่อน และพอดีมาทราบข่าวเขาช่วงปรับเปลี่ยนก็เลยลองพูดคุยดูก็เป็นจังหวะที่ดี"
"จุดเด่นในตัว คุณต๊ะ เป็นคนที่มีความสามารถ มีความรู้รอบตัว และหลังจากที่ได้คุยกันก็รู้เลยว่าแนวทางการทำงานของเขาค่อนข้างตรงกันกับเรา คือช่องเราเน้นสาระประโยชน์และแรงบันดาลใจ คุณต๊ะ เขาก็มีความสามารถด้านนั้นอยู่ คือลักษณะคุณต๊ะเขาไม่เหมาะไปอ่านข่าวอาชญากรรม ผมว่าเขามาทางนี้ถูกต้องที่สุดเลย"
"หลังจากที่เริ่มออกอากาศ จากการตอบรับทางโซเชียลก็มีคนพูดถึงกันเยอะ ถือว่ากระแสไปในทางที่ดี"
ทุ่มงบ 8 หลัก สร้างแบรนด์ข่าวที่ยั่งยืน
การนำเสนอข่าวในรูปแบบสาระประโยชน์ยอมรับว่ามีปัญหาในการคัดเลือกผู้ชมบ้าง เพราะบางรายอาจจะคุ้นเคยกับการนำเสนอข่าวดราม่าในรูปแบบเดิมๆ
"ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ในแง่ของงานข่าวเรามีจุดยืนค่อนข้างชัดเจน แต่กระแสจากคนส่วนใหญ่ที่เรตติ้งดีๆ จะมาจากเรื่องราวดรามาๆ เรื่องที่นำมาขยายความในเชิงลบต่างๆ ซึ่ง MONO 29 เราไม่ได้เดินไปในแนวทางนั้น แต่เราก็คาดหวังในสิ่งที่เราปรับเปลี่ยนจากนโยบายของทางผู้บริหาร MONO 29 เองก็เชื่อว่ามันน่าจะดีขึ้น"
"ถ้าดูภาพรวมของช่อง MONO 29 จะอยู่ TOP 3 มานานหลายปี ก็จะเป็นข้อดีอันหนึ่งของรายการข่าวของเรา เพราะด้วยฐานคนดูจำนวนมากของช่องเอง ทำให้การดูข่าวเรตติ้งบางทีก็จะสูงกว่าช่องข่าวหลายๆ ช่องอีก ก็เลยใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการส่งต่อสาระต่างๆ ให้แก่คนดูได้เยอะขึ้น และอย่างที่เรียนไปเราก็ต้องแข่งขันกับตัวเองก็เป็นอันดับแรก การเปลี่ยนครั้งนี้หลักการง่ายๆ เราต้องดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งในแง่ของคุณภาพ และในแง่ของการตอบรับด้วย"
"ถามว่าปีนี้ MONO ลงทุนกับงบในการปรับผังข่าวเยอะมั้ย ก็ลงทุนไปเยอะ เพราะเราต้องส่งพิธีกรลงไปภาคสนาม คือเราจะไม่เน้นรายงานแค่ในสตูดิโอ บางทีอาจต้องไปต่างประเทศเพื่อไปเก็บข้อมูลที่มีประโยชน์ให้แก่ผู้ชม ทุ่มงบถึง 8 หลักมั้ย (หัวเราะ) ถึงอยู่แล้วครับ เยอะครับๆ (ยิ้ม)"
TOp 1 ไม่ยาก
ถึงแม้ว่ายังคงเดินหน้าต่อกับแพลตฟอร์มของหนังและซีรีส์ 70% ส่วนที่เหลือคือข่าว 25% และวาไรตี้อีก 5% แต่กระนั่นหลายคนก็กลัวว่าการปรับกลยุทธ์ข่าวครั้งใหญ่จะกระทบหนังและซีรีส์
"ไม่กระทบครับ สัดส่วน 25 เปอร์เซ็น แต่เราจะทำยังไงให้ 25 เปอร์เซ็น ตรงนี้ได้ประโยชน์ที่สุด ให้เกิดเรตติ้งที่ดีที่สุด ให้ผู้ชมได้เข้ามาติดตามมากที่สุด ซึ่งเรามีการจัดสัดส่วนเอาไว้อยู่แล้ว เราก็ทำให้ดีในพื้นที่ของข่าวไม่กระทบแน่นอน เพียงแต่เราต้องสร้างความโดดเด่นของโมโน นิวส์ หรือ โมโน 29 นิวส์ ให้คนรู้จักมากขึ้นแค่นั้นเอง ยืนยันว่าไม่มีการไปกระทบกับหนังและซีรีส์"
"ไม่ได้มองว่าจะติด Top 1 เมื่อไหร่ ซึ่งจริงๆ ทุกคนก็อยากขึ้นเป็นอันดับ 1 เนอะ ผมว่าเราก็คงทำให้ดีที่สุด เพราะทุกๆ ช่องก็คงหวังความเป็นเลิศแหละ เราก็หวังตรงนี้เช่นกัน (ยิ้ม)"