"ณัฏฐ์" เผยรู้สึกสะเทือนใจกรณี "แพรวา 9 ศพ" ไม่ต่างจากคนอื่น ลั่นเป็นห่วงพ่อกับน้อง แม้จะคนละแม่แต่ก็พ่อเดียวกัน ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมาเขาไม่มีความสุขเลย เชื่อเร็วๆ นี้คนที่สูญเสียจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน พร้อมแล้วสำหรับพิธีแต่งงานที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ยันงานเน้นความอบอุ่นไม่หรูหรา
หลังจากชิ่งสื่อไม่ขอให้สัมภาษณ์กรณี "แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา" หรือ "แพรวา 9 ศพ" ที่หนุ่ม "ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" มีศักดิ์เป็นพี่ต่างมารดาไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดในงานแถลงข่าวการแข่งขันจักรยานนานาชาติ Bangkok Bank CycleFest 2019 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน หนุ่มณัฏฐ์ ก็ยอมเปิดใจถึงกรณีดังกล่าว โดยเผยว่าตนเองก็รู้สึกสะเทือนใจกับเรื่องนี้ไม่ต่างจากคนอื่นๆ
"ต้องขอความเห็นใจนิดนึง ที่ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่องานก่อน เพราะวันนั้นเป็นงานเวดดิ้งแฟร์ 2019 ซึ่งมันเป็นงานมงคล เราเลยไม่อยากไปพูดอะไรส่วนตัวให้มันไปกระทบกับภาพลักษณ์ของงานเขา เราเลยตัดสินใจไม่พูดตรงนั้น จริงๆ ลึกๆ แล้วผมก็ยังสะเทือนใจอยู่ ต้องขอกราบแสดงความเสียใจกับครอบครัวทุกครอบครัวจริงๆ ที่สูญเสียญาติพี่น้องไป ผมว่ามันคงไม่มีอะไรที่จะสามารถนำชีวิตพวกเขากลับมาได้ ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดมันจะเกิดขึ้นต่อจากนี้คือทุกครอบครัวได้รับความเป็นธรรมและได้รับการเยียวยา ซึ่งผมเชื่อว่าคงจะอีกไม่นานนี้"
"พูดจริงๆ นะตลอด 9 ปีที่ผ่านมาเรายังรู้สึกสะเทือนใจ ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็คงมีความรู้สึกเช่นเดียวกับผม มันเป็นความรู้สึกน่าสะเทือนใจ ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน หวังว่าทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมอย่างที่ทุกคนควรจะได้รับ"
รับกรณีข่าวดัง "แพรวา" มีผลกระทบมาถึงตน แม้จะคนละแม่แต่ก็พ่อเดียวกัน เป็นห่วงพ่อกับน้องลั่นตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมาเขาไม่มีความสุข เชื่อเร็วๆ นี้คนที่สูญเสียจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
"มีอยู่แล้วครับ ก็เป็นคุณพ่อผม เป็นน้องสาวผมถึงแม้จะคนละแม่กัน แต่ก็เป็นครอบครัวของเรา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน เราก็เป็นห่วงคุณพ่อ เป็นห่วงน้อง ที่ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้มีความสุข ผมพูดอย่างนี้เลยแล้วกัน ในสิ่งที่แม่ของน้องแพรวาได้ออกมาพูดในรายการ ไม่มีวันไหนที่เขามีความสุข ผมถึงบอกว่าเราไม่ได้อยากจะพูดอะไรเยอะ พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งพูดไปแล้วไปกระทบใครเราก็ไม่อยากจะให้ความรู้สึกของคนที่เขาสูญเสียแย่ไปกว่านี้แล้ว ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยอีกครั้งนึง เชื่อว่าเร็วๆนี้ทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมแน่นอนอย่างที่ทุกคนควรจะได้รับ"
ไม่รู้ "แพรวา" จะออกมาพูดกับสื่อหรือเปล่าแต่ตนขอพูดครั้งนี้ครั้งสุดท้าย
"ขออนุญาตก่อนนะครับว่าจริงๆ ผมคงตอบแทนไม่ได้ว่าเขาจะออกมาพูดหรือเปล่า ตอนนี้เชื่อว่าหลายๆ ฝ่ายคงจะได้รับการอธิบาย มีการพูดคุยกันอย่างเข้าใจมากขึ้นเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ยึดแนวทางที่เขาได้พูดไว้เป็นหลักแล้วกันว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง"
พร้อมสำหรับงานแต่งงานที่จะจัดขึ้นใน วันที่ 25 ก.ค.ที่จะถึงนี้
"ก็พร้อมมากแล้วนะครับ แต่ก็ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังต้องเก็บช่วงก่อนวันแต่ง โชคดีที่นาน่าเขาช่วยซัปพอร์ต ช่วยจัดการเกือบทุกอย่าง ผมนี่แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย แค่ช่วยคิดช่วยออกความเห็น ช่วยออกเงินอย่างเดียว (หัวเราะ) ที่ยังไม่เรียบร้อยก็เป็นเรื่องของชุดที่ต้องฟิตติ้งครั้งสุดท้ายในวันนี้ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแล้ว ตัวผมเป็นพิธีกรงานแต่งงานมาเยอะมาก เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไรในงาน"
"ผมน่าจะตื่นเต้นกว่าเขา บนเวทีผมว่าผมคงจะไม่นิ่งเท่าเขาเพราะเขาจะนิ่งกว่าผมเยอะ เพราะวันที่คุกเข่าขอเขาแต่งงานเราก็กลายเป็นคนที่ตื่นเต้นกว่าเขา เพื่อนๆ บ่าวสาวนี่ดูตื่นเต้นกว่าบ่าวสาวอีก คนที่เขาซัปพอร์ตเราเขาก็ตื่นเต้นแทนเราไปด้วย หลายคนถามเป็นยังไงบ้าง ใกล้ถึงวันแล้ว โอเคไหม ก็บอกเราตื่นเต้นจนเราหายตื่นเต้นแล้ว แต่เรากังวลมากกว่าว่างานจะออกมาไม่ดี กลัวจะลืมนั่นนี่"
"ธีมงานจะเป็นสีกรม สีฟ้าพาสเทล สีเงิน สีแชมเปญ สีพระอาทิตย์ตกดิน เป็นสีที่เราชอบ ที่เลือกธีมสีนี้เพราะเราสองคนชอบสีเอิร์ธโทน ไม่ได้ฉูดฉาดมาก ชุดมีทั้งหมด 5 ชุดทั้งคู่เลย เท่ากัน ต้องบอกว่างานเรามีคนมาช่วยซัปพอร์ตเรื่องชุดเยอะมาก เราก็เลยมีชุดเยอะนิดนึง ช่วงเช้ามี 2 ชุดมีชุดตักบาตร ชุดงานพิธีหมั้น ชุดแถลงข่าว ชุดงานเย็น แล้วก็ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้"
เชื่อวันงานตนมีน้ำตาแน่เพราะเซนซิทีฟ ยันงานเน้นความอบอุ่นไม่หรูหรา
"ผมว่าแค่วิดีโอพรีเซนเทชั่นผมว่าผมก็น้ำตาแตกแล้ว เขาก็นั่งยิ้ม นั่งพริ้ม ไม่ใช่เขาไม่รู้สึกอะไรนะ แต่เขาเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งกว่าเรา ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเซนซิทีฟ ส่วนพรีเวดดิ้งถ่ายพรีเวดดิ้งไป 3 รอบ ผมกับนาน่าเราไม่ค่อยได้มีรูปสวยๆ ด้วยกัน แต่งงานทั้งทีก็เลยตั้งใจถ่ายไว้หลายๆ แบบจะได้เก็บเอาไว้ดูเอง มันคือความสุขนิดนึงเนอะ เราก็แต่งงานแค่ครั้งเดียว ก็ถ่ายกันที่เมืองไทย ไปถ่ายที่ภูเก็ต 3 รอบ เป็นตัวตนที่แทนจริงของเราเลย ไม่ได้เซ็ตถ่าย เป็นความต้องการของผมเอง ผมหาตากล้องมาเอง"
"อีกเซ็ตก็ถ่ายเป็นชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว รอบ 3 ก็กลับไปที่ภูเก็ตกันอีกรอบ เพราะผมชอบภูเก็ต ก็ใส่เป็นชุดนายเหมือง กับชุดย่าหยา ของคนภูเก็ต สำหรับงานไม่ได้เน้นหรูหราอลังการอะไร เน้นความอบอุ่นของเพื่อนๆ คนที่เราเคารพนับถือ ผู้ใหญ่ เน้นการมาแสดงความยินดีด้วยกัน ผมไม่ได้ใช้ของหรูหราของแพงอะไรเลย มันก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของเราที่เราตั้งใจมอบให้เจ้าสาวและครอบครัวเจ้าสาว ให้ครอบครัวผม เหมือนเป็นความตั้งใจของเราจริงๆ ที่เราอยากจะให้มันออกมาดี ให้สมฐานะ ไม่ได้หรูหราอะไร"