xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “อรอนงค์” เปิดใจทั้งน้ำตา สามีปันใจให้สาวออฟฟิศก่อนหย่า ยื้อถึงที่สุดแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์






“อรอนงค์” ร่ำไห้เปิดใจหย่า ยอมรับแยกกันอยู่ 2 ปี ก่อนหย่า อดทนถึงที่สุด สุดทางแล้ว เผยสามีปันใจให้มือที่ 3 สาวในออฟฟิศ มารู้ตอนที่อีกฝ่ายกู่ไม่กลับแล้ว แต่ยอมรับตัวเองก็อาจมีส่วนผิด ไม่ตามจิก ไม่หึงหวง จนทำให้สามีไปมีคนอื่น ไม่อยากยื้ออีก จบแบบนี้ดีที่สุด ไม่เสียดายเวลา ให้ลูกน่ารักมาถึง 2 คน


หลังจากเกิดข่าวช็อกวงการบันเทิง อดีตนางสาวไทย “อรอนงค์ ปัญญาวงศ์” ออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรม โชว์ใบหย่า สิ้นสุดสถานะครอบครัวกับสามีแล้ว พร้อมกับภาพหวิวที่หลุดออกมา ทำให้ถูกมองว่าตั้งใจเซ็กซี่ประชดรักล่มหรือไม่ ล่าสุด “อรอนงค์” ได้เปิดใจระหว่างมาร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ Soft opening ผลิตภัณฑ์นมผึ้ง W.H.Royal Jelly ด้วยอาการร่ำไห้ เผยอดทนถึงที่สุดแล้ว สามีมีใจให้คนอื่น แต่ก็อวยพรขอให้มีความสุข

“จริงๆ แล้ว เรื่องราวของการที่ออกมาบอกว่าหย่าเนี่ย มันมีเรื่องราวมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็คือเราก็เริ่มรู้แล้วว่าสามีเรามีใจให้คนอื่น แล้วในความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งว่าตอนที่เราแต่งงานกัน ในความรู้สึกของอร เราก็ได้บอกกับสังคมว่าเราแต่งงานกับคนนี้นะ

แล้วก็ตั้งแต่คบหาดูใจกันมา ก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร แล้วเชื่อว่าการที่เราได้รับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสามีของเราเปลี่ยนไป มันมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง แล้วพอเราได้ทราบสาเหตุแล้ว ได้คุยกันในเบื้องต้นแล้ว ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เริ่มคบกับอดีตสามีเนี่ย อรก็ชัดเจนว่ามันมีมาเป็นสเต็ป คือเริ่มจากการเป็นแฟน คบกัน 4 ปีแล้วหมั้น พอหมั้นเสร็จแล้วแต่งงาน พอแต่งงานแล้ววางแผนที่จะมีลูก

การที่เราคบกับใครคนหนึ่ง แล้วเราก็เปิดใจรับเขา เราก็ต้องรู้ทั้งสองฝ่ายว่ามีความต้องการยังไง แล้วมีอุปนิสัยใจคอยังไงบ้าง มันก็ทำให้วันเวลาเหล่านั้น รู้ว่าสามีเรามีความเปลี่ยนแปลงไป แล้วพอมาคุยกัน ก่อนหน้าที่เราจะแต่งงาน เราก็จะบอกกันว่าถ้าสมมติว่าใครคนใดคนหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง ให้บอกถึงสาเหตุ แล้วบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่เราจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด แล้วก็จะได้มีความรู้สึกที่ดี หลังจากที่เราอาจจะไม่ได้เดินทางไปด้วยกันค่ะ”

เริ่มรับรู้ได้ ว่าสามีเปลี่ยนไปประมาณ 2 ปีเศษ โทษตัวเองที่บกพร่อง
พอเริ่มสักประมาณ 2 ปีเศษๆ เราก็เริ่มรู้ว่ามันมีเหตุการณ์ที่สามีเรามีความเปลี่ยนแปลงไปจากที่อาจจะเวลาโทรศัพท์อาจจะแปลกๆ กลับบ้านดึก จากที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน มีกินเลี้ยง เอาติ้งเราจะไปกับเขาตลอด แต่ว่าพอไประยะหลังๆ พอเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง สิ่งเหล่านี้มันก็เริ่มจางหายไป ความรู้สึกเราก็เริ่มรับรู้ได้ เราก็มาคุยให้เวลาว่าเราสามารถปรับจูนให้เหมือนเดิมได้ไหม มันก็มีระยะเวลาเป็นตัวให้เราได้คิดได้พูดคุยกันด้วย แต่อรเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนแรกทำไมถึงไม่แก้ไขให้มันกลับมาเหมือนเดิม ด้วยอาจจะเป็นเพราะเราอาจจะมีข้อบกพร่อง แล้วเราปล่อยผ่านเลยไปคิดว่าเราไม่ได้ไปตามจิกเขา ไม่ได้ไปตามหึงหวงเขามันกลับกลายเป็นว่าเขาสามารถไปได้อย่างสบายไปมากกว่า”

ครอบครัวพังเพราะมือที่ 3 ลั่นไม่มีใจให้กัน ไม่สามารถปรับจูนก็ไม่อยากยื้ออีก แยกทางดีกว่า
ก็น่าจะใช่แหละค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ได้คุยกันแล้วว่าอรไม่ได้ผิดอะไร แต่ว่าเขามีคนใหม่เข้ามา เมื่อคุยกันไม่มีใจให้กันแล้วก็ไม่สามารถปรับจูนหากันแล้วเนี่ย เราก็ควรแยกทางกันโดยดี แล้วทุกวันนี้แม้ว่าหลังจากเราเซ็นเอกสารใบหย่าอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้เราได้แยกกันอยู่ประมาณ 2 ปี แต่ว่า 2 ปีที่ผ่านมายังอยู่บ้านเดียวกันอยู่ เรายังรับผิดชอบความเป็นพ่อและแม่”

“บางครั้งถ้าอรมีถ่ายละครไม่ได้ไปรับส่งลูก เขาก็จะทำหน้าที่ดูแลไปรับไปส่งลูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดูแลลูกเลย หน้าที่ของการเป็นพ่อและแม่ไม่สามารถตัดขาดได้ แต่ว่าหน้าที่ของการเป็นสามีภรรยา เมื่อคนใดคนหนึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปแล้วมันก็อาจจะจบสิ้นลงได้ แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังคงอยู่ค่ะ อรเองคิดว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้สามีเราไปมีบุคคลที่ 3 ได้ แต่เราไม่อยากพาดพิงดีกว่า เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนเขาคุยกัน ในเมื่ออรตัดสินใจยุติเส้นทางที่เราจะเดินคู่กันไปกับอดีตสามีแล้วก็ควรจะยุติแค่นี้ จากนี้ไปเขาจะมีใคร จะเปิดตัว จะแต่งงานใหม่ก็เป็นเรื่องของอดีตสามี อรชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นการคบหาดูใจกับผู้ชายคนหนึ่ง”

“เหตุการณ์เกิดขึ้น 2-3 ปีแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีการพูดคุยกันแต่ว่าเราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ในเมื่อเขามีคนอื่นแล้ว เขาไม่ได้มีใจให้กับเราแล้ว เราก็ไม่อยากไปยื้อเขาไว้”

ตัดสินใจหย่าเพราะอยากก้าวต่อ ไม่อยากอยู่อย่างหน้าชื่นอกตรม คุยกับลูกๆ ด้วยเหตุผลมาแล้ว
“มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราให้โอกาสให้เวลามาพอสมควรแล้วค่ะ ผู้หญิงก็ต้องก้าวต่อไป แล้วอรอยู่ในสังคมเบื้องหน้า เวลาเราไปไหน คนจะถามถึงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม สามีเป็นยังไงบ้าง เราก็ไม่สามารถจะหน้าชื่นอกตรมได้ เราอยากจะพูดในสิ่งที่เป็นความจริงชัดเจนและถูกต้อง ที่สำคัญเลยไม่ใช่ว่าออกมาประกาศแบบนี้แล้วไม่ถนอมน้ำใจลูกเลย แต่เราได้คุยกับลูกแล้ว ลูกจะ 12 กับ 14 ขวบ เราคุยด้วยเหตุผล พ่อก็ยังทำหน้าที่พ่อ แม่ก็ยังทำหน้าที่แม่อยู่นะ แต่การที่เราไปกันไม่ได้คือการที่พ่อกับแม่จะรักกันในแบบที่ลูกเคยเห็นเมื่อก่อน

2 ปีที่ผ่านมา เขาก็พยายามปรับ แต่ทำไม่ได้ คือตัวอรเองก็ยังอยู่ที่เดิม มันอยู่ที่อดีตสามีอรมากกว่า ว่าเขาไม่สามารถกลับมาเหมือนเมื่อก่อนได้แล้วเราเองก็ไม่อยากจะยื้อให้เขากลับมาอยู่กับเราทั้งๆ ที่เขาก็อยากไป จบแบบนี้มันน่าจะดีที่สุด ถามว่าต้องทนขนาดไหน ตอนที่เราเป็นแม่เราก็ทนแต่เรารู้สึกว่าความรักที่เรามีให้กัน เมื่อเราหักลบไปแล้ว อรก็ยังขอบคุณที่ยังมีลูกที่น่ารัก”

ไม่ปฏิเสธ เป็นสาวในออฟฟิศสามี ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน
“ไม่ขอพาดพิงดีกว่านะ ก็อาจจะตามนั้น พอรู้คืออาจจะเคยเห็นหน้าเขา แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามอะไร ไม่รับรู้เลยว่าตอนนี้เขาจะอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ก็เป็นคนในออฟฟิศเดียวกัน อดีตสามีเขาก็มีขอโทษ มันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น”

ไม่ปิดกั้นตัวเอง อยากมีชีวิตใหม่ที่ดี พร้อมสุขภาพจิตที่ดี
“ตอนนี้น้องก็อยู่กับอร แต่เราก็ยังช่วยดูแลลูกในเรื่องของศึกษาเล่าเรียน ในบางครั้งที่อาจจะต้องให้พ่อไปส่งเรียนพิเศษ คือเราไม่ได้จบแบบทางใครทางมัน คือเราก็ยังมีลูก เหมือนเราแยกกันอย่างชัดเจนซึ่งในอนาคตเราก็ไม่รู้ อรอาจจะมีเทพบุตหรือผู้ชายคนใหม่เข้ามา เราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเราเอง คือเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมสุขภาพจิตที่ดี”

สิทธิเลี้ยงดูลูกตามกฎหมายอยู่ที่ตน
“อยู่กับอรค่ะ เพราะอรเชื่อว่าในอนาคตหากลูกจะต้องทำอะไรสักอย่าง ทั้งเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน การเดินทาง ไปจนถึงการตัดสินใจอย่างเฉียบพลันเกี่ยวกับอนาคตของลูก ซึ่งอรสามารถช่วยดูแลตรงนี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าอรจะไม่ให้เขาทราบเลยนะคะ เพราะอรก็ไม่ได้จะตัดขาดเขาจากลูก เพียงแต่อรสามารถที่จะดำเนินทุกอย่างตามกฎหมายได้ก็เท่านั้นเอง ส่วนตัวเขายังไงสุดท้ายเราก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว เพราะเขาคือพ่อของลูก

เป็นข้อตกลงที่ชัดเจนค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยและมีเอกสารยืนยันทั้งหมด เรื่องการดูแลลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราสองคน ทั้งตัวอรและอดีตสามีค่ะ”

ร่ำไห้เสียใจ อดทนและทำดีที่สุดแล้ว มารู้ตอนที่กู่ไม่กลับแล้ว
“ถามว่าเสียใจมันก็เสียใจ แต่ว่าอรเป็นแม่ อรไม่อยากให้ลูกต้องเห็นน้ำตา (ร้องไห้) อรก็จะพยายามทำดีที่สุดเท่าที่ตัวเองสามารถทำได้ และก็คิดว่ากว่ามันจะมาถึงตรงนี้ได้เราก็อดทนมาถึงที่สุดแล้ว จริงๆ อรไม่อยากร้องไห้เลย เพราะไม่อยากให้ลูกเห็น เราก็คิดว่ามันมาสุดทางจริงๆ และเราเองก็อยากจะมีชีวิตที่ดี มีคุณภาพทางจิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องมาคอยระแวงหรือคอยกังวลเวลาคุยกับใคร ที่ผ่านมาเราไม่จิก ไม่หึงหวง ก็อาจบกพร่องตรงนี้ ความไว้วางใจที่เราเคยมีให้เราไม่เคยรู้เลย มันมารู้ก็คือมันกู่ไม่กลับแล้วแค่นั้นดีกว่าค่ะ”

ไม่เสียดายรัก 26 ปี อย่างน้อยได้ลูกที่น่ารักมาถึง 2 คน
ไม่ได้เสียดายเวลาค่ะ เพราะที่ผ่านมาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราก็มีอะไรที่สวยงามเกิดขึ้น อย่างน้อยๆ มีลูกที่น่ารัก 2 คน แล้วก็มันไม่ใช่แค่วูบเดียวค่ะ เพราะฉะนั้น ขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่ทำให้เรามีลูกที่น่ารัก”

ร่ำไห้...ลูกปลอบ “ไม่เป็นไรนะแม่”
(น้ำตาไหล) ลูกก็บอกไม่เป็นไรคุณแม่ ลูกก็รักแม่ ตอนนี้คือแยกบ้านกับสามีโดยสิ้นเชิงค่ะ เรายังอยู่บ้านเดิม แต่สามีย้ายไปค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ดูแลลูกให้มีความสุข และเราก็เข้มแข็ง ก้าวยังอนาคตข้างหน้าต่อไป ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่ให้กำลังใจ เพราะวันที่โพสต์ไปก็คิดว่าเราชัดเจนแล้วว่าที่เราหย่าเพราะอะไร ไม่คิดว่าจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ก็คิดว่าเหตุผลชัดเจนแล้ว เราเลยอยากให้มันหยุดแค่นี้ก็พอ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆ ค่ะ เพราะว่าหลังที่โพสต์ลงอินสตาแกรม ทุกคนให้กำลังใจหมดเลย ก็เลยมีความรู้สึกว่าคนที่รักเราจริงๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้าก็ส่งกำลังใจมาให้ ขอบคุณผ่านสื่อด้วย ทั้งอินสตาแกรม ไลน์ เฟซบุ๊ก รวมถึงพี่ๆ ที่นำเสนอข่าว คอมเมนต์ต่างๆ ในสื่อทุกๆ สื่อ ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ในวงการบันเทิงที่ให้กำลังใจส่งมาในอินบ็อก ก็จะทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด”

โต้หวิวประชดรัก
“มันเป็นการทำงานที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นช่วงจุดนี้ที่เรามีเซ็นเอกสาร เพราะเราเองก็อยากยื้อไปสักพัก เพื่อที่จะได้ซาๆ เพราะเราวางแผนของเซตภาพมาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ พรีเซ็นเตอร์แบรนด์อื่นก็มีถ่ายแบบนี้เหมือนกัน งานที่เข้ามาก็มีต่อเนื่องเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ก็ฝากงานละครละกันมี 4 เรื่อง ทั้งช่อง 7 ช่อง 3 และ PPTV ฝากเป็นกำลังใจให้อรด้วย ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เรียกเราใช้ไปทำงาน

ก่อนหน้านี้มีการยื้อเพื่อไม่ให้กระทบงานด้วยค่ะ แต่ไหนๆ มันก็มาสักพักแล้ว ก็ควรจะให้มันสิ้นสุด เพราะด้วยความที่ไม่มีข่าวอะไรมาเลย เกี่ยวกับเรื่องประเด็นนี้ของอร เวลาเราไปออกสื่อข้างนอกคนก็จะถาม เราก็เลยชัดเจนกับตรงนี้เลยจะดีกว่า ก็เลยโพสต์ลงอินสตาแกรมของตัวเอง”

อวยพรขอให้อดีตสามีมีความสุข
“จริงๆ เรามีความรู้สึกว่าพอพูดว่าแยกกันโดยที่อะไรต่างๆ นานา คนก็จะบอกว่าต้องมีมือที่สาม แต่พอเราบอกแบบนี้ปุ๊บทำไมถึงยังไม่จบ เพราะฉะนั้นก็อยากให้มันจบเพียงเท่านี้ อยากให้อดีตสามีและทุกคนมีความสุขค่ะ เพราะว่าเรื่องแบบนี้ผู้หญิงคนหนึ่งก็ไม่อยากให้เกิดในชีวิตคู่ น้องๆ ก็ได้เห็นว่าเป็นยังไงตั้งแต่ 27 ปีในวงการ”

ไม่ปิดตายเรื่องหัวใจ ใช้หลักธรรมะเตือนใจ ไม่จากเป็น ก็จากตาย
“ยังไม่ปิดแล้วกัน (หัวเราะ)​ เปล่าหรอกค่ะ เราพยายามอยู่อย่างมีความสุขดีกว่า ก็ใช้หลักธรรมมาเป็นที่พึ่งในการดำเนินชีวิตของเรา เพราะเราเป็นพุทธศาสนิกชน เราคิดว่าไม่จากเป็นก็จากตาย อันไหนไม่ใช่ของเราคือไม่ใช่ของเรา เราทำวันนี้ของเราให้ดีที่สุดจะดีกว่า มีอนาคตของลูกเป็นสิ่งที่เราจะต้องฝ่าฟันร่วมกันกับลูก ซึ่งตัวอดีตสามีเองเขาก็ยังคงดูแลลูกเหมือนกัน แต่ให้เขามีความสุขในแบบของเขา เราก็มีความสุขในแบบของเราค่ะ

ที่ถ่ายก็ไม่ได้ประชดรักเลยค่ะ เพราะถ้าพูดถึงว่าจะประชดรักแล้วมาถ่ายเซ็กซี่ คือก่อนหน้านี้หลังจากคลอดลูกคนที่ 1 คนที่ 2 ก็มีถ่ายภาพชุดว่ายน้ำเลยค่ะ ก็จะมีสื่อบางสื่อจะแบบว่า เอ๊ะเป็นเพราะไม่เรียบร้อยรึเปล่า สามีถึงมาขอหย่า ก็ไม่ใช่ เพราะว่าตอนถ่ายภาพชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ยิ่งกว่านี้อีก เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องหย่าแล้วเลยอยากโชว์คือไม่ใช่เลยค่ะ เพราะโดยปกติเป็นคนไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่อยู่แล้วค่ะ”







กำลังโหลดความคิดเห็น