"เจินเจิน บุญสูงเนิน" เผยอาการสามีป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 3 อาการดีขึ้น หลังทำคีโม 12 ครั้ง รับเซลล์มะเร็ง หวั่นค่ามะเร็งสูง ต้องกลับไปทำคีโมซ้ำ ลั่นครอบครัวยังตัดสินใจไม่ได้ ห่วงอีกฝ่ายลิ้นไม่รับรสอาหาร กินแล้วอ้วก หนักลดเหลือ 43 กิโล ลุ้นอาการทุกเดือน เครียดและห่วงคู่ชีวิต แต่ต้องสตรอง
หลังจากที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงอาการป่วยสามี "ประจักษ์ นาสารี" ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 3 ล่าสุด "เจินเจิน บุญสูงเนิน" ก็ออกมาเผยอาการล่าสุด หลังได้รับคีโม 12 ครั้ง ยอมรับว่าอาการดีขึ้น แต่หากค่ามะเร็งยังพุ่ง ก็ต้องกลับไทำคีโมใหม่อีกครั้ง รับเรื่องนี้ครอบครัวยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะคีโมทำร้ายเซลล์ดี จนฝ่ายสามีได้รับเอฟเฟกต์ทางร่างกาย กินข้าวไม่ได้ กินแล้วอ้วก น้ำหนักตัวลดลงเหลือ 43 กิโล
"อาการคุณพ่อดีขึ้นหลังจากทำคีโมแล้ว 12 ครั้ง เริ่มทานอาหารได้ เริ่มน้ำหนักขึ้น แต่ค่ามะเร็งยังอยู่ ต้องไปตรวจทุกเดือน เพื่อตรวจเลือดเช็กค่ามะเร็งว่ามันขึ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้าค่ามะเร็งพุ่งขึ้นเยอะ ก็ต้องกลับไปให้คีโมใหม่ แต่คุณแม่ไม่อยากให้คุณพ่อกลับไปให้คีโมอีก คีโมทำร้ายทั้งเซลล์ร้ายและเซลล์ดี ทำให้ลิ้นไม่รับรสในการไม่กินอาหารเลย ทำให้กินอาหารไม่ได้ หรือบางครั้งแค่ได้กินอาหารก็อาเจียนแล้ว ทำให้น้ำหนักลดลงจาก 62 กก. ถึง 43 กก. ซึ่งผอมมาก แขนขาเล็กมาก ทุกคนในครอบครัวลงความคิดเห็นว่า ไม่น่าจะไหว เลยต้องหยุดคีโม"
"กำลังใจดีมากค่ะ เพราะว่าคุณแม่ดูแล 24 ชั่วโมง ไม่ทิ้งไปไหนเลย ส่วนเรื่องทำคีโม คุณหมอแผนปัจจุบันท่านเล็งเห็นว่าการทำคีโม เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษามะเร็ง แต่คีโมมันทำลายทุกอย่าง คนไข้บางคนรับไม่ไหว"
เครียดแต่ต้องสตรอง
"เราก็เสียใจมาก เครียดมาก ร้องไห้มาก แต่หลังจากนั้น 2-3 วันเริ่มทำใจ เพราะว่าเรารู้สึกว่าเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ เป็นเรื่องของคนทั่วไป ตัวเราเองก็อาจจะหนีไม่พ้นเรื่องนี้ ซึ่งเราก็เหมือนกัน เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราก็ต่อสู้กันไป ถ้าเรายิ่งเครียดให้เขาเห็น เขาก็ยิ่งทรุดหนัก เราต้องสตรองก่อน ตอนนี้ก็รักษาทั้งแผนโบราณ และแบบสมัยใหม่"
หาหมดทุกเดือน ยังตัดสินใจไม่ได้จะทำคีโมต่อหรือไม่
"ตัวก้อนมะเร็งยังอยู่เท่าเดิม แต่ว่าค่ามะเร็งมันเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ส่วนมันจะร้ายแรงขึ้นกว่าเดิมไหม เรายังตอบไม่ได้ เพราะว่าโรคนี้ เป็นหนักมากๆ เราถึงจะรู้ ทุกวันนี้ต้องไปหาหมอทุกเดือน เพื่อเจาะเลือดวัดค่ามะเร็ง ถ้ามะเร็งขึ้นสูงมา หมอเขาก็แนะนำให้ทำคีโม แต่ทางเราและครอบครัวยังไม่ตัดสินใจ แต่เสียงส่วนใหญ่ในครอบครัวไม่ให้ทำ"
"คุณพ่อแล้วแต่ครอบครัว ได้ทุกอย่าง ส่วนเรื่องอาหารควบคุมอย่างมาก ไม่ทานเนื้อเลย รับประทานได้แต่ปลา ซึ่งเนื้อปลาก็ทานไม่ได้ทุกวัน ต้องสลับกันไป เน้นผักผลไม้ คุณแม่เตรียมให้เองทุกอย่างค่ะ"
ต้องลุ้นอาการทุกเดือน ห่วงคู่ชีวิต
"เรื่องความเป็นห่วงเป็นเรื่องปกติ ของคนเราที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นคู่ชีวิตกันมาก็ห่วงตลอด แต่เราไม่แสดงเลยว่าเราห่วงเขา ตื่นเช้ามาจะยิ้มให้กัน แล้วบอกว่าวันนี้อากาศดีนะ สดชื่นดี ไปทานข้าวกัน และไปเดินออกกำลังกายกัน เพื่อให้เซลล์พัฒนาขึ้น เขาเดินได้ช้าๆ เดินได้ไม่ไกล ต้องใช้เข็นวีลแชร์ไปด้วย เพื่อให้มีที่จับประคอง ก็ลุ้นอาการกันทุกเดือนค่ะ"
