อีกมุมหนึ่งที่โลกต้องฟัง...หลังจากถูกสังคมประฌามจนติดลบ แทบจะฝังกลบลงดินไปแล้ว ล่าสุด “จอห์น รัชตะ สมบัติลาภตระกูล” ก็พร้อมเปิดใจกับเรื่องราวรักหมดใจกับอดีตนางเอกสาว ที่แม้อีกฝ่ายจะออกมาบอกว่าเขาเป็นผู้ชายจอมหลอกลวง ถึงขั้นเป็นสิบแปดมงกุฎเลยทีเดียว
โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยโกรธและไม่ติดใจ หรือว่าถือสาอะไรกับเรื่องที่เป็นข่าว ในมุมกลับกันเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงคนไหนก็สามารถเข้าใจผิดได้ ก่อนยอมรับว่าทุกวันนี้เห็นหน้าอีกฝ่ายทีไรก็แอบน้ำตาไหลเพราะยังคิดถึงเสมอ และหลังจากนี้จะหยุดเจ้าชู้ หันไปดูแลเอาใจใส่ลูกสาวที่กำลังโต
ส่วนหลายคนมองว่าเป็นสิบแปดมงกุฎ หรือรวมหัวกับภรรยาเก่าเพื่อหลอกเงินอีกฝ่ายนั้น ด้านนักร้องหนุ่มโต้สุดใจบอกว่าตลอดเวลาคบกันไม่เคยมีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เสียใจที่อยู่ดีๆ อดีตภรรยาต้องถูกเอี่ยวมาเป็นข่าวด้วย ยืนยันว่าจะบวชไม่ใช่ลวงโลกหรือสร้างภาพ รวมไปถึงกล้าสาบานว่าจะหย่าจริง เพียงแต่ติดปัญหาต่างๆ จนไม่ได้หย่า แล้วลุกลามเป็นข่าวใหญ่โตสักก่อน
“ชีวิตตอนนี้ถามว่าลำบากไหม มันก็ลำบาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่รู้จักเยอะขึ้น ผู้ชายไม่ค่อยรู้จัก แต่ผมว่าควรจะลืมๆ ไปซะ ไม่ควรจำผมหรอก ส่วนข่าวมันก็กระทบกับงาน โดนแคนเซิลงานร้องเพลง คนจ้างเขาก็กลัวภาพลักษณ์ร้านเขาจะเสีย โดนแคนเซิลไป 1 ที่ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีข่าวก็มีงานประปราย แต่พอกำลังจะเคลียร์เรื่องราวเก่าๆ ก็มีเรื่องใหม่เข้ามาอีก มันก็มีผลกระทบกับงานเยอะ”
“ตอนนี้กินอาหารเม็ดอยู่ครับ (หัวเราะ) งานน้อยเลยต้องทานอาหารเม็ด ก็เครียดนะ ข่าวก่อนหน้านี้ก็เครียดแล้ว มาเจอข่าวนี้เครียดกว่า คนคิดว่าผมเป็นสิบแปดมงกุฎ เราก็เครียด เราไม่ได้ไปหลอกลวงใคร แต่เราโดนว่าเป็นสิบแปดมงกุฎ เราก็ต้องเข้าใจฝั่งเขาด้วย เขาอาจจะทำด้วยความโกรธ โกรธเพราะรัก ทุกวันนี้ผมก็เข้าใจเขานะ ไม่เคยโกรธเขาเลย”
เผยจิตตก จะไปบวชจิตใจก็ไม่สงบ แต่ไม่ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย ลั่นต้องใจเย็นอดทนเพื่อให้ผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้
“ตอนนี้ก็ต้องใจเย็นและอดทน เข้มแข็ง ก็คงจะผ่านไปได้ มันก็มีนะวันที่จิตตก โทรหาคนนั้นคนนี้ ปรึกษาเจอข่าวแบบนี้ทำยังไงดี จะใช้ชีวิตยังไง ไม่ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่มันจิตตก ตั้งแต่ตอนอยู่วัดแล้ว ผมไปถือศีลใส่ชุดขาว เพราะช่วงนั้นจิตตก ใจมันไม่สงบ พี่ๆ เขาก็แนะนำให้ไปอยู่วัด จะได้สงบ ยิ่งไปยิ่งไม่สงบ ความเงียบเข้ามา ความคิดยิ่งเตลิด”
เราก็ยังพกโทรศัพท์อยู่ด้วย พอมีโทรศัพท์แล้วมันไม่สงบ จนหลวงพี่ขอยึดโทรศัพท์ ผมก็ดื้อไม่ให้ ผมให้เขายึดไปบ้าง แต่วันนึงแล้วผมก็ไปเอาคืนมา สุดท้ายแล้วก็บวชไม่ได้หลวงพี่บอกว่าควรจะไปเคลียร์เรื่องทางโลกให้จบ คุณเข้ามาวัดแต่ใจคุณไม่ได้อยู่ที่วัดเลย คุณไม่สงบ ซึ่งก็อยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์นึง”
ลั่นตั้งใจจะบวชเพื่อหนีความวุ่นวายทั้งหมด ไม่ได้คิดบวชสร้างภาพแต่ต้องการบวชล้างซวยให้กับตัวเอง
“ใช่ อยากไปตั้งสติ เพราะตอนนั้นสติมันเตลิดมากครับ เราไม่เคยเจอข่าวแบบนี้ แล้วมาโดนถึงภรรยา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เขาไม่เกี่ยว เหมือนผมเป็นตัวซวยไปดึงเขามาซวย เขาก็ซวยกับผมไปด้วย ลูกสาวก็โตแล้วด้วย เลยคิดว่างั้นไปอยู่วัดดีกว่าเผื่อจะทำให้จิตใจมันสงบขึ้น ภรรยาผมก็จิตใจแย่ เขาก็ด่าผมว่าไปรักกันเอง แล้วดึงเขามาซวยไปด้วย”
“ตอนที่อยู่วัดผมก็ไปฝึกสมาธิแต่มันก็ไม่นิ่ง ในหัวมันคิดแต่เรื่องปัญหาข้างนอก คิดแต่เรื่องเขา คิดนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ไม่สงบ จนต้องขอหลวงพี่ออกไปเคลียร์ปัญหาก่อน ตอนแรกหลวงพี่เขาก็ไม่ยอม สุดท้ายเขาก็ให้เรากลับ เพราะใจเราไม่ได้อยู่ที่วัด”
“จะบวชจริงๆ ผมเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วแต่ด้วยใจที่ไม่สงบ เดี๋ยวมันก็ต้องสึกออกมา ผ้าเหลืองมันร้อน เลยคิดว่าเรากลับไปแก้ปัญหาตัวเองก่อนดีกว่า ยังไงผมก็ตั้งใจจะกลับไปบวชให้ได้ ผมรับปากหลวงพี่ไว้ และของต่างๆของหลวงพี่ก็ยังอยู่ในรถผมอยู่เลย (ยิ้ม) คือตั้งใจจะบวชล้างซวย เหมือนเราอยู่ในช่วงดวงตก ควรจะเข้าวัดฝึกจิตใจให้มันสงบมากกว่านี้หน่อย บางทีการสื่อสารของผม ซึ่งใครสนิทจะรู้ว่าผมเป็นคนชอบรับปาก ซึ่งเป็นข้อเสียของผม”
ยันไม่เคยเป็นสิบแปดมงกุฎหลอกเงินใคร ลั่นรักนางเอกสาวมาก แต่ผิดที่ตนมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาขึ้น...“เรื่องหลอกเงินนี่ผมไม่มีอยู่แล้ว ถ้าหน้าอย่างผมหลอกได้ ณเดชน์คงหลอกได้หลายล้านเลย ถึงจะเจ้าชู้ก็ต้องดูแปลน ดูเบ้าหน้าด้วย ว่าเบ้าแบบไหนที่ไปหลอกเขาได้ เบ้าอย่างผมนี่นะจะไปหลอกระดับนางเอก ผมว่าแค่สาวเซเว่นฯ ยังหลอกยากเลย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต้องไปถามคุณนางเอกว่าเขารักผมไหม แต่ผมรักเขามาก รักโดยที่ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่ด้วยความที่มีเหตุทำให้ไม่ได้ พอผมทำให้เขาไม่ได้ผมก็ผัดวันประกันพรุ่ง เขามีสิทธิ์ที่จะมองว่าทำไมคุณไม่ทำให้ฉันเสียที ที่ผมผัดวันประกันพรุ่งเพราะผมไม่อยากจะเสียเธอไป แต่ผมก็ไม่ได้บอกเขา แต่คนรอบข้างดันรู้มากกว่า ผมดันไปเล่าให้คนรอบข้างฟังมากกว่าเล่าให้เขาฟัง”
ผมไม่เคยหลอกเขาแม้แต่นาทีเดียวก็ไม่เคยคิด แต่คำพูดเรา เรื่องผลัดไปเรื่อยของเรา เขาก็มีสิทธิ์มองว่าผมไปหลอกเขา ไหนบอกจะไปเคลียร์ ไหนบอกจะทำแล้วไม่ทำ ผมก็ดันมีเหตุผลของผมอีกว่าที่ไม่ทำ คือทำไม่ได้ และผมไม่อยากจะเสียเขาไปก็เลยผลัดไปเพื่อที่จะหาวิธีแก้ไข ซึ่งผมยอมรับว่าตรงนี้ผมผิดเอง ผมผัดวันประกันพรุ่งกับเขา ผมรักเขาไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง แต่การอยู่ด้วยกัน เขาก็มีซื้อข้าวกินกันบ้างอะไรกันบ้าง เหมือนคู่รักทั่วไป แต่ไม่เคยเอาเงินเขาไปให้ภรรยาเก่าเลย นี่ไม่มี”
ชี้เรื่องที่ผัดวันประกันพรุ่งคือเรื่องหย่ากับภรรยาเก่า สาบาน ณ ตอนนั้นตั้งใจจะหย่ากับภรรยาเก่าเพื่อมารักกับนางเอกสาวจริงๆ“ใช่ ผู้หญิงเขาถือเรื่องนี้มาก ผมก็ขอเวลาเขาบ่อยมาก เขาก็มาจับได้ว่ายังกลับไปเจอภรรยาเก่าด้วย ที่ผมจะหย่าก็เพราะว่าผมรักเขามากเหมือนกัน ณ ตอนนั้นผมก็ไปบอกภรรยาผมว่าผมต้องการจะหย่า แต่ภรรยาก็จะมีเงื่อนไข เพราะเขาเป็นแม่ของลูก อีกอย่างเงื่อนไขพวกนั้น ผมก็ทำให้เขาไม่ได้ด้วย”
“ณ ตอนนั้นนะ ผมกล้าสาบานว่าผมได้คุยกับภรรยาว่าผมจะหย่าจริงๆ ตามที่ผมให้สัญญากับนางเอกคนนั้นไว้ แต่มันไม่สำเร็จผมก็กลัวจะเสียเขาไป ก็ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ”
ส่วนความสัมพันธ์กับภรรยาเก่าคือต่างช่วยกันเลี้ยงลูก เผยภรรยาเก่าเป็นคนจัดการดูแลค่าใช้จ่ายของลูกทั้งหมด แถมบางครั้งตนยังไปเบียดเบียนเงินภรรยาเก่าเสียด้วยซ้ำ
“กับภรรยาเก่าต่างคนก็ต่างดูแลลูกด้วยกัน เป็นพ่อแม่ ส่วนค่าใช้จ่ายภรรยาเขาก็เป็นคนจัดการหมด ผมนี่น้อยมากเลยที่จะจัดการค่าใช้จ่ายลูก แคท(ชื่อภรรยาเก่า) เป็นคนดูแลทุกอย่าง แถมไม่พอผมยังไปขอเงินแคทเขาใช้อีก ผมนี่เหมือนเป็นลูกคนที่3 ก็ไปขอเงินเมียเก่าใช้ และผู้หญิงเองเวลาที่เขารับปัญหาเยอะๆ มันก็เครียดเป็นธรรมดา แล้วผมยังไปขอเขาหย่าอีก เขาก็อาจจะมีปรี๊ดเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ผมก็เป็นผู้ชายเจ้าชู้คบคนนั้นทีคนนี้ที เขาก็รู้มาตลอด แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ผมไปขอเขาหย่าตั้งแต่รู้จักกับเขามา”
เชื่อเรื่องราวกลายเป็นสามคนอลเวง จนคนมองว่าตนกับภรรยาเก่าไปหลอกนางเอกนั้นเป็นเพราะความเข้าใจผิดจากข้อความที่ตนคุยกับภรรยาเก่าทำให้เกิดการตีความที่ผิดเพี้ยนไป ลั่นไม่เคยโกรธนางเอกสาวที่ออกมาแฉตนเลย
“ก็เสียใจครับ แต่เราก็เข้าใจเขาว่าเขาโมโหมาก โกรธมาก ด้วยข้อความที่เขาอาจจะไปพบไปเห็นข้อความที่ผมคุยกับภรรยาเก่า การสื่อสารของตัวหนังสือมันตีความได้เรื่อยๆ มันไม่ได้ยิน ผมก็เข้าใจเขาว่าทำไมเขาถึงใช้คำแบบนี้”
“ผมไม่เคยโกรธเขาเลย ก็เข้าใจเขา เขาไปอ่านข้อความในไลน์เขาก็ตีความไป แต่เจตนาเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เป็นการตีความจากข้อความในไลน์ มันก็คิดกันได้ มันไม่ได้ยินจากปาก มันไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน การพิมพ์มันอันตราย ข้อความในไลน์ที่ผมคุยกับภรรยามันก็อาจจะไปทำให้เขาคิดมาก แต่จริงๆ แล้วเราไม่ได้มีเจตนาหรือเหตุผลอะไรที่เราจะไปหลอกลวงนางเอกเขาเลย”
เล่าความรักที่ผ่านมากับนางเอกสาว อีกฝ่ายดูแลตนดีทุกอย่างและตนก็รักนางเอกสาวมาก ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย ถึงตนจะเจ้าชู้แต่คบใครก็คบทีละคน
“ตอนอยู่ด้วยกันเราก็มีความสุขกันดี ดูแลกันดี เขาก็พาผมไปเที่ยวในที่ที่ผมไม่เคยไป ทำอาหารให้กิน เวลาไม่สบายเขาก็เช็ดตัวให้ แต่พอมีปัญหาเราก็เข้าใจเขานะ (ความเป็นนางเอกของเขามีผลต่อเราไหม?)ตอนที่คบกันมันเลยจุดนั้นมาแล้ว ไม่ได้มองว่าเขาเป็นนางเอกหรืออะไร ตอนนั้นมันเป็นความรัก ฉะนั้นผมเลยเคารพการตัดสินใจของเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ว่าทำไมเขาถึงทำขนาดนี้ เข้าใจอารมณ์ของผู้หญิงก็จะรุนแรงแตกต่างกันไป ก็เข้าใจ”
“ถึงผมจะคนเจ้าชู้แต่ผมคบทีละคน ไม่มีมือที่ 3
ผมว่าสองมือของผมเองนี่แหละที่สร้างปัญหาขึ้นมาเอง ตอนนั้นผมก็รักเขามาก ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงรักเขามาก ตอนที่อยู่ด้วยกันแล้วมันมีความสุขมากๆ เลยนะ มันไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไง ส่วนเรื่องเงิน จะมีเงินน้อยเงินมากไม่มีผลเลย”
ลั่นจากนี้เลิกเจ้าชู้แล้ว อยากตั้งหน้าทำมาหากิน ดูแลลูก
“มันก็ต้องดูเบ้านิดนึงนะ นานๆ กว่าจะมาที ผมไม่ได้สามารถจะไปเจ้าชู้อะไรได้ขนาดนั้นนะ อายุก็เยอะแล้วด้วย มีข่าวออกไปอย่างนี้อีก น่าจะซบเซาเลย น่าจะไปจีบใครไม่ได้แล้ว อีกอย่างผมก็ไม่ได้คิดแล้วด้วยเพราะผมอายุเยอะแล้ว หันทำมาหากิน ดูแลลูกดีกว่า มันเกินวัย เกินสนุกมามากพอแล้ว”
“ลูกคนนึงโตแล้วแต่เขาจะไม่มาพูดกับผม เขาก็อ่านข่าว ดูทีวี ส่วนคนเล็กนี่ไม่รู้เรื่องหรอก แต่ผมก็กลัวตอนโตเขาจะรู้เรื่อง กลัวที่สุดเลยว่าข่าวจะไปมีผลกระทบกับลูก แต่ก็พยายามอยู่กับเขา กอดเขา อย่างคนโตผมก็พยายามดึงเขามากอด ผมก็ไม่ได้พูดเรื่องข่าวอะไรแต่ผมรู้ว่าเขาคงจะอ่านมาบ้าง”
บอกหากย้อนเวลาไปได้จะไม่ผลัดวันประกันพรุ่งกับนางเอกสาว จะบอกความจริงนางเอกสาวว่าไม่สามารถหย่าได้
“ก็คงไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง คงจะบอกความจริงกับเขาว่ามันหย่าไม่ได้ คงจะไม่ไปผลัดวันประกันพรุ่งกับเขา จนกลายเป็นเรื่อง ณ วันนั้นผมตั้งใจจะหย่ากับเขาจริงๆ แต่มันทำไม่ได้ ทุกอย่างมันเกิดจากความรัก ก็รักเขามาก แต่ด้วยเหตุผลบางประการของภรรยา ที่เขาให้เหตุผลมาเป็นข้อๆ มันก็เลยหย่าไม่ได้ และนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง มันไม่ใช่เกิดเฉพาะกับนางเอกคนนะ กับนักดนตรียังโดนเลย จนเสียงานเสียการมาแล้ว”
หลังจากนี้ขอเคลียร์ปัญหาให้เรียบร้อยก่อนแล้วตนจะไปบวช ลั่นที่ผ่านมาใช้ชีวิตยากเพราะทำตัวเอง
“ยังไม่ได้คิดต่อ คิดว่าน่าจะเคลียร์ปัญหาส่วนต่างๆ แล้วก็ดูงานนิดนึง ส่วนเรื่องบวชก็ตั้งใจจะไปบวชอยู่ดี ยังไงก็คงไป ผมต้องการจะบวชอยู่แล้ว ที่ผ่านมาชีวิตผมมันยากเพราะผมทำตัวเอง ผมเป็นคนที่พูดไม่หมดบ้าง กลัวไปก่อนจนได้เรื่อง กลัวคำตอบที่ได้ยินว่าถ้าเราพูดออกไปแล้วมันจะเป็นยังไงจนได้เรื่อง มันคือผลเสียทั้งหมด ถ้าพูดหมดมันก็อาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้”
“ณ วันนี้คือผมก็พร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราได้ก่อไว้ ก็คงต้องเผชิญสักพักนึง ผมก็คงจะกลับไปบวชเหมือนเดิม ยังไงก็บวชแน่นอน เพราะผมรับปากกับหลวงพี่ไว้แล้ว ถ้ารับปากกับพระไว้แล้วไม่ทำผมว่าหนักนะ”
ขอโทษนางเอกสาวที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดขึ้น ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของทุกฝ่าย ยันนางเอกสาวไม่ได้เป็นเมียน้อยตนอย่างที่เข้าใจ...“ผมก็ยืนยันแล้วว่าในหลายๆ ครั้งผมก็ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมา ก็เข้าใจเขาว่าเขารู้สึกยังไง วันนี้ผมก็เข้าใจแคทว่าแคทรู้สึกยังไง แล้วผมก็เข้าใจตัวผมเองด้วยว่าผมรู้สึกยังไง ผมทำอะไรผิดกับเขาไว้ก็ขอโทษผ่านสื่อตรงนี้อีกรอบครับ เขาไม่ใช่เมียน้อยตามที่เขารู้สึก คนที่จะเป็นเมียน้อยอย่างแรกเลยผมต้องมีเงิน สองเบ้าของคนที่จะมีเมียน้อยต้องดี
ซึ่งผมไม่มีทั้งสองอย่างเลย มันเป็นไปไม่ได้เลย เพียงแต่เรื่องราวที่มันเกิดขึ้นมา มันไม่ได้เกิดการแก้ไขเท่านั้นเอง และเวลามีก็มีทีละคนอยู่แล้ว เพียงแต่มันแก้ปัญหาไม่ได้ก็เลยกลายเป็นปัญหาที่มันคาราคาซังอยู่ ทุกวันนี้ผมยังดูกระจกอยู่เลยว่าผมเป็นใครเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นเมียน้อย ไม่มีทาง”
ณ ตอนนี้ไม่คิดหย่าเมียเก่าแล้วเพราะสงสารลูก หลังจากนี้ตั้งใจจะไปบวช ขอโทษภรรยาเก่า และไม่โกรธนางเอกสาวแค่อยากออกมาชี้แจงว่าตนไม่ได้คิดหลอกใคร
“ตอนนี้ผมสงสารลูก ผมเจ้าชู้มาเยอะ มีแฟนเยอะแยะไปหมดแล้วลูกผมก็เป็นผู้หญิงหมดเลย ผมก็กลัวเวรกรรมนะ มีเสียวบ้างนิดหน่อย แต่ผมถามพระมาแล้วว่ากรรมมันจะตกกับเรา มันจะทรมานกับเรา ซึ่งที่คนบอกว่ากรรมมันจะไปตกกับลูกสาวแบบนั้นไม่มี กรรมตกกับเราแน่นอน ใครทำก็ได้รับสิ่งนั้น พระบอกนะ”
“ตอนนี้ก็อาจจะเป็นกรรมของผมที่ผ่านมาที่ผมเจ้าชู้ ผมมีแฟน แต่พอผมชอบอีกคนนึงผมเปลี่ยนเลย ผมหักเลย ทิ้งเขาดื้อๆ ไปเลย ด้วยความเจ้าชู้ของผมทุกอย่างมันเลยเละเทะไปหมด จากนี้ก็ไม่มีใครเอาผมแล้วในประเทศนี้ จากนี้มันก็ไม่ได้แล้ว มันเกินวัยแล้วที่จะทำสิ่งนั้น คงจะทำหน้าที่ดูแลลูก ดูแลครอบครัว สงสารแคทด้วยที่ต้องคอยดูแลลูก ที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่แม่ได้ดีสุดยอด รถที่ผมใช้อยู่ยังเป็นชื่อเขาเลย จะไปบอกว่าเขาหลอกลวงใครไม่ได้ เขาต้องดูแลลูกสองคน ดูแลแม่เขาอีก อีกอย่างบางทีผมก็เบียดเบียนเขา แล้วพอเอาปัญหาไปให้เขา เขาเลยเครียด”
“หลังจากเคลียร์ตัวเองแล้วก็คงจะบวชแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะบวชนานแค่ไหน ผมอาจจะชอบแล้วผมไม่เป็นนักร้องแล้ว ผมอาจจะเป็นนักเทศน์ไปก็เป็นได้ ก็อยากจะขอโทษภรรยาผมด้วย เขาเครียดกับข่าวมาก ผมก็ขอโทษเขา เขาก็ไล่ผม ตอนที่ไล่ผม ผมก็ไปอยู่กับคนๆนั้น ตอนนี้ถ้าไล่ผมอีกก็คงไปวัดอย่างเดียวแล้ว เป็นที่พึ่งสุดท้าย ส่วนนางเอกคนนั้นผมก็ไม่ได้โกรธเขา แค่อยากบอกทุกคนว่าผมไม่ได้ไปหลอกอะไรเขา”
ไม่กล้าเจอหน้านางเอกสาว เพราะกลัวตนจะบ่อน้ำตาตื้น
“ผมบ่อน้ำตาตื้นอย่าเจอกันดีกว่า เขารู้ว่าผมเซนสิทีฟ ช่วงแรกๆ ผมร้องไห้กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ผมคิดถึงเขา ผมก็เลยร้องไห้ ผมร้องไห้ที่ต้องเสียเขาไป ไม่ได้เกี่ยวกับข่าวเลย เพราะทุกวันนี้ผมไม่เคยดูข่าวเลย เขาไปออกรายการอะไรผมไม่เคยฟัง ผมฟังจากที่คนอื่นมาเล่าให้ผมฟัง ผมทนดูไม่ได้ ดูแล้วก็คิดถึงเขา เราคิดถึงเขา ถ้าไปเจอหน้าเขา นี่ผมเสร็จเลย ผมบ่อน้ำตาตื้น แล้วเขาก็คงไม่ต้องการจะเจอผมด้วย"