เปิดการแสดงไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา สำหรับคอนเสิร์ตของโครงการ “น้อมคารวะศิลปะแห่งชาติ” จัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มังกี้อีที จัดการแสดงดนตรีต่อเนื่อง ในรูปแบบของ “คอนเสิร์ตซีรีส์” เป็นครั้งแรก เวลา 16.00-18.00 น. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พบกับการแสดงของ “วิรัช อยู่ถาวร” ที่จะนำเสนอโลกดนตรีของศิลปินแห่งชาติท่านนี้ ไล่เรียงกันตั้งแต่สไตล์ดนตรีสมัยที่ท่านเริ่มเข้าสู่วงการเพลงใหม่ๆ ซึ่งจะมีทั้งเพลงยุคโก๋หลังวัง เพลงแจ๊ส และเพลงไทยสมัยนิยม ตามด้วยผลงานเพลงที่ท่านประพันธ์ขึ้นเอง รวมถึงเพลง “แต่ปางก่อน” ทั้งนี้จะมีการเปิดแสดงรอบ 2 ในวันที่ 20 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้
งานนี้ มีนักร้องเสียงดีมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของบทเพลง ด้วยดีกรีแชมป์จากศาลาเฉลิมกรุง ประกอบด้วย ครูอุ๊บอิ๊บ กนกวรรณ อินทรพัฒน์, สปาย ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ นักร้องรุ่นใหม่ที่หลงใหลเสน่ห์เพลงเก่า และ “เมจ์ ภัทรานิษฐ์ เพฑูริยาเวทย์” ร่วมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ “ฉ่าย สมชัย ขำเลิศกุล” นักกีตาร์และโปรดิวเซอร์ที่ผาดโผนในยุทธจักรดนตรีมายาวนาน “จู๊ด ทรงวุฒิ จรูญเรืองฤทธิ์” มือคีย์บอร์ดคู่ใจที่เคยฝากผลงานโปรดิวซ์อัลบั้มของวง “เฉลียง” และผลงานอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่จะขาดไม่ได้ คือการรวมตัวอีกครั้ง ในนาม “3 วิ” ประกอบด้วย วิรัช, วินัย พันธุรักษ์ และ วิชัย ปุญญะยันต์
การแสดงจะเริ่มต้นด้วย Peace Pipe เพลงฮิตเก่าของ เดอะ ชาโดว์ส (The Shadows) ยุคโก๋หลังวัง ตามติดด้วยเพลงในยุคสมัยเดียวกัน ซึ่งเป็นอิทธิพลดนตรีที่ “วิรัช” ซึมซับตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ประกอบด้วย Wooden Heart ของ เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ; His True Love Said Goodbye ของ จอห์นนี ทิลลอตสัน (Johnny Tillotson) แน่นอนว่าจะต้องมีสีสันของดนตรีร็อคแอนด์โรลล์ จากผลงานของ คลิฟฟ์ ริชาร์ด (Cliff Richard) และ เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) รวมอยู่ด้วย
จากนั้นจะข้ามผ่านมาสู่ผลงานของครูเพลง ด้วยบทเพลงที่มีความหมาย อย่าง “พรุ่งนี้ฉันจะรักเธอจนตาย” และ “มารักกันใหม่” ก่อนจะมาถึงบทประพันธ์จากปลายปากกาของ “วิรัช” เอง ไม่ว่าจะเป็น “สี่แผ่นดิน”, “รักประกาศิต”, “แต่ปางก่อน” ฯลฯ อิทธิพลทางดนตรีที่ “วิรัช อยู่ถาวร” ได้รับ ยังปรากฏในบทเพลงสแตนดาร์ดแจ๊สที่คนฟังทั่วโลกคุ้นเคย อาทิ Fly Me To The Moon, It Had to be You หรือเพลงฟังกี้แจ๊ส อย่าง Watermelon Man ที่เรียกขานกันขำๆ ในหมู่นักดนตรีว่า เพลง “บักแตงโม” รวมถึงบทเพลงที่มีสีสันอื่นๆ อีกหลากหลาย ทั้งหมดประกอบกันขึ้น เป็นโลกดนตรีของ “วิรัช อยู่ถาวร” นั่นเอง