"อุ๋ย นนทรีย์" นำทีมขอพร 20 ปี "นางนาก" หนังพลิกชีวิต "ทราย" เผยเรื่องผวา "ย่ามาเตือน"

"ทราย เจริญปุระ" เผยเหตุการณ์ผวา "ย่านาก" มาเตือน แต่ยืนกรานว่าไม่กลัว คิดว่าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ลั่นเป็นหนังเปลี่ยนชีวิต ผ่านไปกี่ปีคนก็ไม่ลืม ด้าน "อุ๋ย นนทรีย์" ชื่นชม "เมฆ วินัย" เป็นพระเอกที่สุดยอด อยู่ในใจเสมอ เป็นคนโคตรสำคัญ

"อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร" ผู้กำกับดัง นำทีม ทราย อินทิรา เจริญปุระ, วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง, เอก เอี่ยมชื่น บวงสรวง "ศาลแม่นาก พระโขนง" เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรจากย่านาก เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีที่ภาพยนตร์ “นางนาก” ที่จะเข้าฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ ณ เรือนแม่นาค พระโขนง วัดมหาบุศย์ ก่อนจะเปิดใจว่าแม้จะผ่านมานานถึง 20 ปี แต่นางนากยังฉายอยู่ไม่หยุด ล่าสุดชิคาโกก็ติดต่อเข้ามา เผยความในใจ เป็นหนังที่พลิกชีวิตทุกคน

อุ๋ย : "20 ปี นางนากฟังดูเหมือนนาน ผมยังจำความรู้สึก และนึกถึงบรรยากาศในการทำงาน ในการถ่ายหนัง พูดแล้วขนลุก เรายังจำบรรยากาศเหล่านั้นได้ดี ก็ต้องเรียกว่าเป็นหนังที่เปลี่ยนชีวิตตัวเอง เพราะนางนากเป็นหนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวผมเอง และชื่อเสียงของประเทศไทย"

"ก็ไปได้ไกลมากๆ ทุกวันนี้ยังมีฉายอยู่นะครับ เมื่อไม่กี่วันนี้ทางชิคาโกติดต่อมาขอนำเรื่องนางนากไปฉายอยู่ ก็ 20 ปีไม่เคยหยุดฉายเลยหนังเรื่องนี้ ฉายกันอยู่ตลอดเวลา วันนี้มาทำพิธีบวงสรวง ก็ไม่ได้มาหาย่านานแล้ว ก็มีความรู้สึกเหมือนเราได้กลับมาอยู่ในที่ที่เราเคยมายืนอยู่ มาพูดคุย มาขอพร มาขอให้ย่าเลือกนักแสดงที่ถูกต้อง คือเราก็เคยมานั่งอยู่ตรงนี้กันบ่อยๆ ครับ มานั่งคุยที่ศาลา หาบรรยากาศ แล้วชุมชนแถวนี้ ผมกับเอกจำได้ว่าเราก็เดินคุยกับผู้คนแถวนี้กันหมด ว่ามีเรื่องราวอะไรบ้าง ก็เป็นที่ที่กลับมายืนอีกครั้งก็ยังรู้สึกคุ้นเคยอยู่"

ทราย : "ก็รู้สึกว่าคนที่มาทักเราว่าเป็นนางนากอายุน้อยลงเรื่อยๆ จากตอนแรกจะเป็นรุ่นโตกว่าทราย เพราะตอนทรายเล่นอายุ 18 หลังๆ ก็คือเป็นรุ่นน้องรุ่นจิ๋ว ลงเรื่อยๆ อย่างล่าสุดถามความรู้สึกหลายคนว่า 20 ปีที่แล้ว ไปดูที่ไหน บางคนบอกโดนอุ้มไปดู แต่จำเรื่องไม่ได้ หรือบางคนจำได้ว่านั่งดูแถวหน้าสุดแบบปูพื้นดู มันเป็นบรรยากาศที่หลายคนผ่านมา แล้วก็อาจจะยังจำไม่ได้ด้วยตัวเอง"

"คราวนี้ครบ 20 ปี ทรายคิดว่าหลายคนน่าจะอยากกลับไปจำประสบการณ์การได้ดูในโรงพร้อมๆ กันอีกครั้ง ซึ่งตัวทรายเองก็อยากกลับไปดูในโรงพร้อมคนอื่นอีกครั้งเหมือนกัน เพราะตอนแรกๆ ที่ไปดู ก็ยังดูไปด้วยความที่เห็นแต่เบื้องหลังอยู่ตลอด จำได้ว่า แต่ละฉากที่ถ่ายทำกว่าจะผ่านได้ แต่พอผ่านมา 20 ปี ทรายรู้สึกว่าหนังมันมีชีวิตของมันเอง และเราก็เป็นผู้ดูที่เป็นผู้ดูจริงๆ"

รับเป็นหนังเปลี่ยนชีวิต ผ่านไปกี่ปีคนก็ยังไม่ลืม
ทราย : "เปลี่ยนค่ะ เปลี่ยนมากๆ ไม่รู้จะบอกยังไงดีเหมือนกัน ก็ทำให้เป็นนางเอกหนังผีเหมือนเป็นสมญานามไปเลย จริงๆ แล้วทั้งย่า ทั้งพี่อุ๋ย ทีมงานทุกๆ คนเปิดโอกาสให้เราได้ไปต่อกับงานอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านไปกี่ปีคนก็ยังไม่ลืม ล่าสุดเปิดกระจกลงตรงสี่แยกตอนดึก แล้วเอาตังค์ให้น้องเช็ดกระจก น้องบอกผี แต่น้องเด็กเล็กตอนนั้นหนูต้องยังไม่เกิดสิลูก อย่างที่พี่อุ๋ยบอกหนังนางนากฉายอยู่เรื่อยๆ ตามช่องฟรีทีวีบ้าง ตามสตรีมมิ่งต่างๆ อยู่เรื่อยๆ"

เผยเรื่องชวนผวา "ย่านาก" มาทัก แต่ไม่กลัว คิดว่าญาติผู้ใหญ่มาเตือน
ทราย : "จริงๆ ทำมาตั้งแต่ตอนถ่ายแล้ว จะทำอะไรเกี่ยวกับย่าจะบอกย่าก่อน แต่ก่อนจะบอกว่าถ้าย่าอยากดีลอะไรก็ให้ไปหาพี่อุ๋ยเลย เพราะว่าทรายเป็นแค่ดาราไม่สามารถสั่งอะไรได้(หัวเราะ) คราวนี้พอผ่านไป 20 ปี แล้ววันนี้นัดเช้ามาก ทรายก็เลยมาพักตรงที่ใกล้ๆ ก็คิดว่าเราอยู่ใกล้ แล้วไม่ต้องเตรียมอะไรมาก ก็นอนเล่นโทรศัพท์ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดับ เราก็แบบอ้าว ทำไมโทรศัพท์เสีย แฟนก็ถามว่าบอกย่าหรือยัง เราก็ไม่ได้บอก บอกทำไม เดี๋ยวก็มาเลย"

"เขาก็คะยั้นคะยอให้บอกย่าหน่อย เราก็โอเคๆ แล้วเราก็พนมมือบอกว่าย่าคะ หนูมาแล้วนะคะ แล้วโทรศัพท์ก็ติดขึ้นมา คือบังเอิญไหมเหรอก็บังเอิญล่ะมั้งเนาะ คือจริงๆ มันก็มีอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ทรายไม่ได้มองเป็นเรื่องน่ากลัวอะไร คงคล้ายๆ ญาติผู้ใหญ่มาเตือนให้วางโทรศัพท์เถอะลูก ไปนอนได้แล้ว อะไรอย่างนี้ค่ะ"

เสียดาย "เมฆ วินัย ไกรบุตร" ไม่ได้มาในวันนี้ เพราะป่วย เป็นคนที่โคตรสำคัญ
ทราย : "ก็บอกพี่เมฆก่อนที่จะป่วย เพราะหลังจากแกป่วยแล้วก็ไม่สามารถไปติดต่อกับแกได้โดยตรง แต่ทรายคิดว่าแกคงรู้ข่าว ดีไม่ดีเดี๋ยวแกคงจะนั่งดูข่าวกันอยู่ จริงๆ อยากให้พี่เมฆมามากๆ เลย คือพี่โครตสำคัญเลย พี่สำคัญมากๆ เพราะถ้าไม่มีบทของพี่มากก็ไม่มีนางนาก"

"ก็ให้กำลังใจว่าหายเร็วๆ พี่ หนูรู้ว่ากำลังใจพี่ดีมากอยู่แล้ว ครอบครัวดี ทุกคนเอาใจช่วย แล้วพี่ก็เป็นคนน่ารักทุกคนส่งกำลังใจให้อยู่แล้ว"

ไม่เคยลืม "เมฆ วินัย" เป็นคนที่สุดยอด อยู่ในใจเสมอ
อุ๋ย : "ตั้งแต่ทราบข่าวเราก็พยายามติดต่อ พยายามจะเข้าไปเยี่ยม แต่ตอนนั้นหมอยังไม่ให้เข้าไปเยี่ยมก็เลยยังไม่ได้ไปสักที ส่งแต่ดอกไม้ และกำลังใจไปเต็มที่"

"ถามว่าจัดฉายครั้งนี้มีรอบพิเศษเพื่อเขาไหม ทุกอย่างมันเป็นไปได้หมด แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าจะฉายกี่โรง แต่แน่นอนว่าเราต้องมีการทำอะไรให้เขา เพราะตัวเมฆ วินัย ไกรบุตร เขาก็เล่นหนังกับผมอีกเรื่องหนึ่งด้วย เรื่องปืนใหญ่จอมสลัด เป็นคนที่บอกว่าผมเล่นให้ฟรีเลย คือแบบเขาสุดยอดมาก เป็นคนแบบนี้จริงๆ เราไม่เคยลืมเขาหรอกครับ เขายังอยู่ในใจเราเสมอครับ"

"วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง" ผู้เขียนบท บอกผมรู้สึกแก่ อยากให้ทุกคนไปสัมผัสอีกครั้ง
วิศิษฎ์ : "ผมรู้สึกแก่ครับ จริงๆ ก็ยังจำความรู้สึกที่ทำงานร่วมกันได้อยู่ จำว่าเจอทรายครั้งแรกเป็นยังไง จำได้หมด ก็ดีใจที่จะกลับมาฉายที่โรงอีก เพราะเราก็อยากเห็นมันฉายในโรงอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งเป็นคุณภาพแบบ 4K ก็อยากจะเห็นว่ามันขนาดไหนครับ ใครที่ยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ ก็ลองไปดู เคยร่ำลือว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้ได้เห็นแล้วครับ"

ด้าน "เอก เอี่ยมชื่น" โปรดักชั่นดีไซน์ เปิดใจว่า
เอก : "ผมรู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ทำให้คนไทยได้รู้จัก ว่าการออกแบบภาพยนตร์มันมีความหมาย ที่จะทำให้หนังมันมีตัวตนชัดเจน นางนากเป็นเรื่องแรกๆ ถึงจะผ่าน 2499 มาแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่ามันยังไม่เต็มที่ แต่ว่าการออกแบบอย่างนั้นมันเป็นมาตราฐานใหม่ของการออกแบบ ซึ่งทำให้การออกแบบมันเติบโตมาจากเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัด"

ยืนยัน "นางนาก" เป็นหนังรักที่เคลือบความน่าสะพรึง
อุ๋ย : "จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ดูหนังเรื่องนางนากเยอะที่สุด เป็นหลายร้อยรอบ ผมอยากจะให้หลายๆ คนมาชมภาพยนตร์ มันคงเป็นบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง คุณอาจจะเคยได้ดูในทีวีช่องต่างๆ และตอนนี้ในสตรีมมิ่งต่างๆ ก็ยังมีฉายอยู่ แต่ผมว่าต้องแตกต่างแน่นอนในการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์"

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เรารีมาสเตอร์ทั้งหมด ทั้งภาพเป็น 4K ทั้งเสียงที่เป็นระบบดิจิทัลอย่างดี จะเป็นประสบการณ์ดูหนังอีกแบบหนึ่ง แล้วจะได้ไปดูกันว่าทำไมตอนนั้นคนถึงได้แซ่ซ้องไปดูกันเยอะมากขนาดนั้น ซึ่งก็ขอบคุณ และอยากให้ไปร่วมชมบรรยากาศแบบนั้นอีกครั้งหนึ่งครับ สำหรับผมมันยังเป็นหนังรักครับ ผมยังยืนยันว่าหนังผมเป็นหนังรักที่เคลือบไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว ก็ไปชมกันมากๆ นะครับ จะได้บรรยากาศร่วมกันครับ ขอบคุณครับ"

ทราย : "ก็จะฉายวันที่ 25 - 31 ก.ค. ส่วนเรื่องรอบฉาย ยังไงเดี๋ยวก็น่าจะติดตามได้จากทางเพจของโรงหนังต่างๆ ค่ะ ก็อยากให้ไปสัมผัสความกลัวกันเป็นหมู่คณะอีกรอบ เพราะตอนนั้นได้ข่าวว่าต้องไปดูกัน 3 คนขึ้นไป อันนี้ก็อยากสัมผัสบรรยากาศนั้นอีกครั้งค่ะ"