"เชียร์ ฑิฆัมพร" ยันเพิ่งเปิดใจให้ "ไฮโซบิ๊ก" ไม่ได้ซุ่มเป็นกิ๊กมา 2 ปี เสียใจถูกแก๊งลูกหมีลามปามด่ายันครอบครัว น้ำตาคลอขอให้ลงที่ตนคนเดียว ยืนกรานที่ผ่านมาไม่เคยโกหก หลอกลวง เห็นคุณค่าแฟนคลับตลอด รับได้หากจิ้นล่มสลาย อยากให้ทุกคนอยู่ในจุดที่สบายใจ
กลายเป็นประเด็นดรามาเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์" ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจยกสถานะ "ไฮโซบิ๊ก ธนพนธ์ เบญจรงคกุล" เป็นหนุ่มคนพิเศษที่อยู่เคียงข้างมาตลอด 2 ปี ซึ่งทำเอาแก๊งลูกหมีซึ่งจิ้นสาวเชียร์กับ "เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์" ออกอาการไม่พอใจ ถึงกับไปขุดคำสัมภาษณ์เก่าๆ มาขยี้ ทั้งกรณีที่บอกว่าโสดมาตลด และเคยยืนยันว่าไฮโซบิ๊กเป็นแค่เพื่อน ไม่มีทางพัฒนา ยืนกรานไม่ได้ชอบไฮโซ ถ้าชอบแนวนี้คงมีแฟนไปนานแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทำสาวเชียร์ต้องออกโรงชี้แจงอีกครั้ง โดยยืนยันว่าเพิ่งจะเปิดใจให้ไฮโซบิ๊ก และขอโทษหากใครๆ จะเข้าใจผิดกับคำพูดของตน
"จริงๆ ก็ทราบแหละ มีการส่งมาถึงเราตลอดอยู่แล้ว ต้องบอกว่าคำพูดเชียร์ครั้งที่แล้ว อาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่เข้าใจ รู้สึกเข้าใจผิดเพราะเป็นคำหมายที่กว้างมาก เชียร์ก็อยากขอโทษก่อนเลยที่ทำให้รู้สึกไม่ดีต่อกัน แต่ว่าในความหมายที่เชียร์บอกว่ารู้จักกับบิ๊กมา 2 ปี ที่บอกว่าเริ่มจากความเป็นเพื่อน คำนี้ต้องอธิบายกันหน่อยว่ามันคือความเป็นเพื่อนกันจริงๆ"
"คำสัมภาษณ์ทุกครั้งที่เชียร์พูดว่าความสัมพันธ์ไม่พัฒนา มันไม่พัฒนาจริงๆ ค่ะ แล้วเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อนจริงๆ เราคบกันด้วยความเป็นเพื่อนกันมาและความเป็นเพื่อนนี้ มีการเดินทางโดยเราเป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน เราได้ไปทานข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันในกลุ่มเพื่อน เราค่อยๆ เห็นความเป็นเพื่อนที่ดี"
ยืนยันไม่ได้โกหกแฟนคลับ ซุ่มเป็นกิ๊กกันตลอดระยะเวลา 2 ปี
"คำที่เชียร์บอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่ทำอะไรดีๆ ให้เราตลอด ในมุมเขา เขาทำด้วยความที่เราเป็นเพื่อน ไม่ได้ทำด้วยความที่เราเป็นกิ๊กกัน ยืนยันตรงนี้ ไม่ได้กิ๊กกันมาสองปี หรือคบกันมาเป็นแฟนกัน 2 ปี ไม่ใช่นะคะ"
"เราแมนมากนะ คำพูดที่ว่าโสดคือโสด เป็นเพื่อนคือเป็นเพื่อน และเมื่อมันพัฒนามาเป็นคนพิเศษ เชียร์ก็บอกว่าเป็นคนพิเศษ นั่นคือทุกสถานะที่เชียร์พูดทุกครั้ง มันคือความจริง"
ยันเห็นความดีของบิ๊ก ตลอดระยะเวลาที่เป็นเพื่อนกัน
"ถ้าเชียร์นับว่าเชียร์โสด หรือเชียร์นับว่าเป็นเพื่อน เชียร์ไม่ได้มองว่าเขาเป็นใคร ที่จะมีโอกาสเป็นไปได้ แต่เมื่อการเดินทางอย่างที่เชียร์บอก วันหนึ่งมันทำให้เราเห็นว่าคนนี้ดีกับเรามาตลอดเลย ดีด้วยทั้งความเป็นเพื่อน ดีด้วยทั้งเขาอาจให้เราพิเศษมากกว่าคนอื่นอะไรก็ตาม แต่ทุกอย่างเกิดจากการทำสิ่งดีๆ ให้กัน แค่นั้นเองค่ะ"
โวยไม่เคยหลอกเป็นคู่จิ้น "เต้ย พงศกร" พูดตลอดฝ่ายชายเป็นน้อง เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่านั้น
"ส่วนถ้าจะบอกว่าเชียร์ไปโกหกเรื่องอะไร ขอแยกสองประเด็นนิดนึงนะคะ เรื่องคำว่าโสด เชียร์โสดจริงๆ และตลอดทางมาเชียร์พูดตลอด อันนี้ขออ้างอิงถึงน้องเตย พงศกร นะคะ เพราะว่ากรณีนี้มันเกิดขึ้นกับเชียร์ว่าเชียร์หลอกในฐานะคู่จิ้น เชียร์พูดตลอดว่าเต้ยเป็นน้อง เป็นเพื่อนร่วมงาน เชียร์ไม่เคยบอกว่าเต้ยเป็นอะไรมากกว่าคู่จิ้น และเต้ยเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีแค่นั้น เชียร์พูดมาตลอด อยากย้ำตรงนี้อีกครั้งว่าลืมกันไปหรือเปล่า
"ส่วนที่คนย้อนไทม์ไลน์แล้วเอามาเป็นประเด็น อย่างที่เชียร์ขอโทษเมื่อกี้ คำพูดที่เชียร์พูด มันเป็นคำที่กว้างพอสมควร ทีนี้การตีความหมายออกมา การนำเสนอข่าวเอย การเล่าข่าวในบางครั้ง การเขียนหัวข่าวในบางครั้ง มันเหมือนเราคบมานานแล้วเพิ่งเปิดตัว อันนี้เชียร์เคลียร์แล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น เราเป็นเพื่อนกันมาจริงๆ แล้วคำที่เชียร์ใช้คำว่าเพิ่งเปิดใจก็คือเพิ่งเปิดใจจริงๆ เพิ่งเปิดใจเลยค่ะ นึกออกมั้ยคะ"
เผยถึงกรณีเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ชอบไฮโซ ไม่ชอบบิ๊ก ถ้าคนนี้มาจีบจริงๆ คงเป็นแฟนกันไปนานแล้ว
"คือคำที่เชียร์พูด มันไม่ได้จำกัดความว่าคนที่เชียร์ชอบต้องเป็นไฮโซเท่านั้น หรือต้องเป็นใครที่มีฐานะ มันไม่ใช่ ถ้าเราจะมุ่งคำจำกัดความเลือกใครที่โปรไฟล์ดี เราก็คงเลือกเขาไปตั้งนานแล้ว คือไม่ได้หมายความว่าเราจะตั้งแง่ว่าไม่ชอบแน่นอน ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือใครก็ได้ที่ดีกับเราจริงๆ"
ลั่นให้ความสำคัญ และเห็นคุณค่าแฟนคลับมาตลอด แต่หากวันนี้ตนทำให้ทุกคนไม่มีความสุข ก็อยากให้อยู่ในจุดที่สบายใจ ถ้าพร้อมจะอยู่ด้วยกันต่อไปก็ยินดี
"ถามว่าเราเหนื่อยไหม ที่ถูกแฟนคลับเอาสิ่งที่สัมภาษณ์มาย้อนไทม์ไลน์ ไม่เหนื่อยค่ะ พื้นฐานในสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่เขาสนใจเรา เป็นเพราะเขารักเรา ฉะนั้นแล้วความรักนี้ก็อยู่ด้วยความรักมาตลอด แต่วันหนึ่งถ้ามีอะไรทำให้ไม่เข้าใจ ถ้าเชียร์ขอโทษได้ เชียร์ขอโทษ เพราะเชียร์ไม่เคยไม่ให้ความสำคัญพวกเขานะ นึกถึงเขาตลอด"
"แต่วันนี้ถ้าเขาจะไม่เข้าใจไม่เป็นไร เชียร์ก็จริงใจที่จะพูดแบบนี้ และนี่คือตัวเชียร์ ถ้าความเป็นกันเองหรือความสุขที่มีกันมา ถ้าวันนี้เชียร์ทำให้เขาไม่มีความสุข อาจด้วยอะไรก็แล้วแต่ เชียร์พูดเสมอว่าให้อยู่ในจุดที่สบายใจ ถ้าวันนี้ไม่สบายใจเพราะเชียร์ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันนี้ได้ฟังคำพูดเชียร์แล้ว สบายใจที่จะอยู่ด้วยกันต่อ เชียร์ก็ยินดีและขอบคุณมาก เพราะเชียร์ก็เห็นค่าเขาตลอด"
รับได้หากแฟนคลับจะหายไป เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน
"แน่นอนต้องรับได้อยู่แล้ว เราอยู่ในวงการมา คนที่เคยอยู่กับเรา ก็มีเปลี่ยนไปชอบคนอื่น หรือมีแบบหายไปบ้างด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอะไรหลายอย่างที่อาจหายไปมันก็มี มันมีการวนเวียนตรงนี้อยู่ตลอด แม้กระทั่งเราเอง เราเคยชอบใครที่เป็นดารานักแสดง วันหนึ่งเราโตขึ้นมา เราก็ไม่ได้ชอบคนนั้น ไม่ได้ติดตามเขาแล้ว เชียร์มองว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืนอยู่แล้ว มันเปลี่ยนได้ตลอด"
เสียงสั่นน้ำตาคลอ ขอให้ลงที่ตน อย่าไปลงที่ครอบครัว หลังแม่-น้อง-พี่ชายถูกด่าหยาบคาย เล่าไม่ได้ แต่รู้สึกเกินไป
"ถามว่าเสียใจไหม ก็รู้สึกกระทบจิตใจแหละ เรารู้สึกว่าเราให้คุณค่าให้คำขอบคุณมาตลอดกับคนที่รักเรา แต่บางคำพูด เชียร์รู้สึกว่าบางอย่างอาจจะฟังด้วยความไม่เข้าใจก็จริง แต่ว่ามาใช้คำพูดที่รุนแรงมากๆ กับเชียร์ (เสียงสั่น) โดยเฉพาะ สิ่งที่เชียร์รู้สึกกระทบที่สุดก็คือ ไปพูดจากับครอบครัวเชียร์ไม่ดีเลย (เสียงสั่นเครือ) กับตัวเชียร์ไม่เป็นไรค่ะ แต่การไปพูดกับคุณแม่เชียร์ การที่ไปว่าพี่ชายเชียร์ การที่ไปว่าน้องชายเชียร์ ไปตีหน้าว่าโกหกอะไรไม่รู้ มันเป็นคำพูดที่รุนแรงและหยาบคายมาก เราเล่าไม่ได้จริงๆ"
"เรารู้สึกมันค่อนข้างจะเกินไปไหม มีอะไรก็มาลงที่เชียร์ อย่าไปลงที่คนอื่นแบบนี้ ที่สำคัญครอบครัวเชียร์เขาไม่ได้ทำอะไร มีการหาว่าหลอกลวงบ้าง ปลอมบ้าง คือเชียรก็งงว่าเราพูดอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอว่าเราเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน เป็นแค่เพื่อนกัน เป็นแค่พี่น้องกัน แล้วยิ่งครอบครัวเชียร์อาจมีกรณีที่แฟนคลับฝากของกันมา บ้านฝั่งเต้ยคุณพ่อคุณแม่น่ารักมากนะคะ เอาของมาให้ตลอด เอาข้าวสาร เอาอะไรมาฝากตลอด แล้วหม่าม๊าเชียร์เอาของให้ มันเป็นน้ำใจที่เรารักษาซึ่งมิตรภาพที่ดีต่อกัน น้ำใจที่เราให้ต่อกันมันเป็นสิ่งที่น่ารักมาก แต่กลายเป็นว่าวันนี้ความน่ารักนั้นมันถูกมองและกลายเป็นคำหยาบที่กลับมา เชียร์รู้สึกว่าโห ขอเหอะค่ะ อย่าเอาอะไรมาใส่กับครอบครัวเชียร์แบบนี้เลย (เราเสียน้ำตากับเรื่องนี้?) เพิ่งจะมาเสียตอนนี้แหละค่ะ(หัวเราะ)"
ไม่ได้เคลียร์ "เต้ย" เพราะไม่เกี่ยวกับอีกฝ่าย เป็นความไม่เข้าใจฝ่ายตนคนเดียว
"ไม่ได้มีโอกาสคุยกันค่ะ เรื่องนี้เป็นความไม่เข้าใจฝั่งเชียร์ ฉะนั้นแล้วอยากให้ฟังตรงนี้แล้วใช้วิจารณญาณกันดูว่ายังไง อย่างที่บอก ถ้าสบายใจยังไง จะอยู่หรือไม่อยู่ อยากให้อยู่ที่ความสบายใจมากกว่า เพราะพื้นฐานเราเกิดจากความรัก"
เมินคู่จิ้นสลาย ปิดตัว ไม่ใช่คู่จิ้นแรกที่เกิดขึ้น
"สำหรับเชียร์มันไม่เกี่ยวเลยนะ ถ้าใครอยากอยู่ซัปพอร์ตหรือไม่ อันนี้เป็นสิทธิ์ของเขา แต่การทำงานของเชียร์ หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นสำหรับตัวเชียร์ มันก็ยังดำเนินต่อไป ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่คู่จิ้นแรกที่เกิดขึ้น สำหรับเชียร์ไปเป็นคู่จิ้นกับพี่กันต์ จนพี่กันต์แต่งงานไปแล้ว คนก็ยังเห็นความน่ารักของกันและกันอยู่เลย หรือกับแม่แอน สิเรียม แม้กระทั่งแฟนคลับแอนเชียร์เขาก็ให้กำลังใจเราตลอด เกิดการพูดถึงว่าเชียร์มีคนพิเศษ เขาก็ให้กำลังใจตลอด ต้องบอกว่ามีกำลังใจมากมายที่ส่งมาให้ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ไม่เข้าใจจะเกิดขึ้นจากฝั่งลูกหมีนะคะ ลูกหมีที่เข้าใจก็มีเยอะมากเลย แต่คนไม่เข้าใจก็มี"
ไม่เล่า "ไฮโซบิ๊ก" ไม่อยากให้ต้องกังวล
"เชียร์รู้สึกว่าเรื่องนี้เกิดจากคำพูดเชียร์ ก็อยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่ได้เล่าให้ฟังหรือไม่อยากให้ต้องมากังวลใจอะไรกับเรื่องของเชียร์"
"ถามว่าอยากบอกอะไรแก๊งลูกหมี ทั้งหมดทั้งมวลพูดไปหมดแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคนที่ฟังแล้วว่าจะรู้สึกยังไงกับคำพูดเชียร์"