xs
xsm
sm
md
lg

"ก้อย" ขอนะคะ ไม่อยากตอบคดีเมจิกสกินแล้ว แฮปปี้ถูก "พี่ตูน" ป้ายยาชวนวิ่งมาราธอน 100 กิโล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ก้อย รัชวิน” ขอร้อง ไม่อยากตอบเรื่องคดี “เมจิกสกิน” เพราะทุกอย่างเรียบร้อยไปแล้ว แฮปปี้ลงมาราธอนที่ประเทศญี่ปุ่นกับแฟนหนุ่ม โววิ่งไปร้องเพลงไป โอดถูกแฟนหนุ่มป้ายยา ให้ลองวิ่งมาราธอน 100 กิโล ไม่รู้จะทำได้หรือไม่




หลังเจอเรื่องหนักๆ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหา ขึ้นศาลคดีรีวิวเมจิกสกิน ศาลพิพากษาให้จำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่เนื่องจาก "ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ" ให้การรับสารภาพจึงลดโทษลงเหลือกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท และเนื่องจากไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษเป็นเวลา 1 ปี ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอก้อย รัชวิน เจ้าตัวก็ออกตัวว่าวันนี้ขอไม่ตอบเรื่องคดีแล้ว เพราะมันผ่านไปแล้ว

“ขออนุญาตจริงๆ นะคะ ขออนุญาตจริงๆ ขอร้องจริงๆ ค่ะ ทุกอย่างมันก็เรียบร้อยไปแล้ว ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ"

ฟุ้งลงมาราธอนที่ประเทศญี่ปุ่นกับหนุ่ม "ตูน บอดี้สแลม" อาทิวราห์ คงมาลัย แต่ตนลงวิ่งแค่ 50 กิโลเมตร ส่วนแฟนหนุ่มลง 100 กิโลเมตร
"มันเป็นงานวิ่งระยะ 100 กิโล ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก้อยลงระยะ 50 กิโล ครึ่งนึงของพี่ตูน เป็นระยะที่ก้อยวิ่งได้ยาวที่สุดแล้ว ปีที่แล้วก้อยไปเชียร์พี่ตูน พี่ตูนวิ่งจบ 100 กิโล ก็โดนป้ายยาว่าก้อยต้องลอง อยากให้รู้ว่าการวิ่ง 100 กิโลมันเป็นยังไง ไม่แน่ใจว่าอยากให้เราทรมานหรือเปล่า"

"เราก็รู้สึกว่าการจะไปวิ่ง 100 กิโลมันต้องอาศัยการฝึกซ้อมมากๆ ที่ก้อยทำได้มันคือฟูลมาราธอนที่ 42 กิโล เลยนึกภาพไม่ออกว่าถ้าจะไปถึง 100 กิโล จะเป็นยังไง เลยขอมาลงที่ 50 กิโลก่อน ดูว่าร่างกายเราไหวไหม แล้วเราถึงจะจินตนาการออกว่าอีก 50 กิโลที่เหลือเราจะสามารถวิ่งต่อไปได้ไหม 50 กิโลของเราก็ไหวค่ะ โอเคอยู่ จบเวลาก็โอเค 5 ชั่วโมง 5 นาที ไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย"

"การวิ่งสนามนี้มันมีความสุขมากนะ อากาศดีแม้จะแดดร้อนพอๆ กับเมืองไทย มันจะมีช่วงที่ต้องวิ่งขึ้นไปบนภูเขา เราก็จะต้องต่อสู้กับตัวเองค่อนข้างเยอะ เพราะมันเป็นระยะที่ไกลขึ้นกว่าเดิมที่เราทำไว้ แต่มันก็ผ่านมาได้ด้วยดี ก็ติดใจนะ ปีนี้ก้อยวิ่งแบบไม่ได้กดดันตัวเองมาก ที่ผ่านมาเราอาจจะกดดันตัวเอง อยากทำเวลา อยากได้เวลาที่ดีๆ เหมือนครั้งนี้เราปล่อยวาง วิ่งด้วยเวลาที่สนุก แค่ออกไปวิ่ง ไม่ได้คิดไม่ได้กังวลอะไร มันก็เลยมีความสุขตลอดที่วิ่ง"

โวเป็นมาราธอนที่ตนวิ่งแล้วมีความสุขมาก วิ่งไปร้องเพลงไป ลุ้นปีหน้าจะลงวิ่ง 100 กิโลเมตรหรือไม่ ลั่นทุกอย่างอยู่ที่ใจมากกว่า
"ส่วนคลิปที่ลงมันเป็นจังหวะที่นักวิ่ง 100 กิโล กับนักวิ่ง 50 กิโล จะต้องมาสวนทางกันตรงบริเวณนั้น หลังจากที่เราวิ่งมา 40 กิโลแล้ว แล้วเขาวิ่งมา 86 กิโลแล้วมาบรรจบกันในช่วงนั้น พี่ตูนก็บอกว่าวิ่งให้สนุก ทำได้อยู่แล้ว เขาจะบอกแค่นี้ ซึ่งการวิ่งครั้งนี้มันก็สนุกมาจริงๆ วิ่งไปร้องเพลงไป"

"100 กิโล ก้อยว่ามันอยู่ที่ใจ ถามว่าร่างกายเรามันไปได้ไหมก้อยเชื่อว่าก้อยทำได้ แต่อย่างที่บอกว่ามันอยู่ที่ใจเลย ที่เรายังไม่ตัดสินใจวิ่ง 100 กิโล เหมือนใจเรามันยังไม่ถึง แต่ครั้งนี้พอลองมาวิ่ง 50 กิโล เราเริ่มรู้ร่างกายตัวเองแล้วว่าเราอาจจะไปถึงในจุดนั้นได้ แต่ก็ต้องอาศัยพลังใจอีกนิดนึงว่าเราจะทำได้ไหม คือรู้แหละว่าทำได้ มันเหมือนเราจะต้องหาชาเลนช์อะไรบางอย่างที่ว่าเราไปวิ่งตรงนั้นเราจะได้อะไรกับมัน"

"เราจะค้นพบตัวเองในอีกแบบนึงที่เราไม่เคยเจอรึเปล่า เพราะระยะที่ผ่านๆ มาเราพอจะรู้ตัวเองว่าเราจะไหวไหม แต่ 100 กิโล ลองคิดดูว่าตอนเราวิ่งไปช่วง 80-90 กิโล เอาง่ายๆ พี่ตูนวิ่ง 10 ชั่วโมงกว่าเกือบ 11 ชั่วโมง ให้เรายืนอยู่เฉยๆ 11 ชั่วโมงเรายังไม่ทำเลย นี่เราต้องวิ่งไปเรื่อยๆ เลยแบบโอเค เราขอใช้เวลาคิดอีกนิดนึงว่าอะไรคือจุดที่อยากจะทำให้เราไปสู่ 100 กิโลนี้ ก็ติดตามได้ปีหน้า(หัวเราะ)"





กำลังโหลดความคิดเห็น