"อองตวน" เป็นลูกผู้ชายพอ ยืดอกรับนอกใจ รับความผิดไว้คนเดียว อยากให้เรื่องจบ ไม่อยากให้โยงคนอื่น ลั่นยังรักและคิดถึง "ชิปปี้ ศิรินทร์" อยู่ คบ 5 ปีเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลียดกัน ลั่นมีความสุขมาตลอด 5 ปี เป็นความรักที่ไม่มีวันลืม แต่จะยังไม่กลับไป เข็ดกระแสบานปลาย ไม่พร้อมเปิดใจ
แม้จะเลิกรากันไป แต่ดรามาก็ยังไม่จบ เพราะมีการโยงคนที่อาจเป็นสาเหตุ ทำให้ "อองตวน ปินโต" เลิกรากับนางเอก "ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์" ไม่ว่าจะเป็นสาว "ชมพู เดอะเฟซ 5" ชุติมณฑน์ ประสานวรรณ หรือนางงาม "นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์" มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2561 ซึ่งฝ่ายหลังโดนโจมตีหนักจากกรณีที่สาวชิปปี้โพสต์ "แกงกะหรี่ควรเป็นชื่อแกง ไม่ใช่ชื่อเรียกคน" ถึงขนาดหนุ่มอองตวน ต้องออกมาโพสต์ยอมรับว่านอกใจดับกระแสข่าวที่กำลังร้อนแรง
ล่าสุดออนตวงมาร่วมงานเปิดรัสมิ์ภูมิ คลินิก ซึ่งอยู่ด้านหลังเซ็นทรัลอีสวิลล์ ยอมรับออกมาโพสต์เพราะอยากให้ทุกอย่างจบ เป็นลูกผู้ชายพอ
"ก็ตามที่ผมโพสต์ครับ ที่ออกมากล้าโพสต์ผมว่าส่วนของผมรู้สึกกว่า กระแสโซเชียลมันค่อนข้างมาเรื่อยๆ แล้วก็มีคนปั่นเรื่องนี้เรื่องโน้นเรื่องนั้น มีผลกระทบกับคนมากมาย ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดมันไม่ได้ผิดที่ใคร ผิดที่ตัวผมเอง ผมก็รู้สึกว่าเราเป็นลูกผู้ชาย หน้าที่ของเราก็คือออกมายอมรับผิดให้เรื่องมันจบลงไป ตรงนั้นมันจะได้เสร็จสักที"
"ส่วนที่บอกว่าสิ่งที่โพสต์ดูย้อนแยง อย่างที่บอกเราไม่ได้มีปัญหาคบซ้อนหรือว่าอะไร แต่ว่าปัญหาทั้งหมดเราก็รู้กันอยู่สองคน มันก็เป็นไปตามที่ผมโพสต์ ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างตามนั้นครับ"
"จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่ประเด็นของนิโคลีน ก่อนหน้านี้ก็มีของน้องคนอื่นๆ อะไรอย่างนี้ แล้วผมรู้สึกว่ามันจะไม่จบตรงนั้น มันจะมีมาเรื่อยๆ ผมเข้าไปดูอ่านคอมเมนต์ก็จะมีคนโยงไปคนนี้คนโน้นคนนั้น ผมรู้สึกว่าหลายคนต้องได้รับผลกระทบ ถามว่าผมนอกใจจริงไหม เป็นไปตามที่ผมโพสต์ครับ ผมเชื่อว่าทุกคนอ่านไปแล้วครับ เรื่องฟีดแบ็กเป็นเรื่องปกติครับ มันก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำอะไรอย่างนี้"
ลั่นลดสถานะ เป็นการตัดสินใจร่วมงาน
"ที่เราพูดไปตั้งแต่แรกว่ามันเป็นการตัดสินใจร่วมกัน เป็นการคุยกัน แล้วก็อย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่สัมภาษณ์ครั้งแรกว่าเราตัดสินใจร่วมกันที่จะลดสถานะให้เป็นแบบนี้ดีกว่า ส่วนที่น้องเหมือนไม่พอใจ ออกมาโพสต์ค่อนข้างแรง อันนั้นผมไม่รู้ต้องถามเขานะครับว่าเขาเป็นยังไง"
งงคนอินไปกับข่าว ทำให้บานปลายใหญ่โต อยากให้จบ
"หลังจากวันนั้นก็มีคุยบ้างครับ ก็อย่างที่บอกผมเชื่อว่า เราสองคนยังคงสนิทกัน ยังคุยกันได้ แต่ว่าแน่นอนเวลามันมีกระแสโซเชียลมาเยอะ มันได้รับความกดดันเยอะ เพื่อนๆ ทุกคนก็จะอินไปกับเรื่อง มันอาจจะไม่ได้ใหญ่เท่านี้ แต่ว่ากระแสพาเรื่องไปให้มันเป็นประเด็นที่ใหญ่เกินความเป็นจริง ก็เลยรู้สึกว่าเราอยากให้มันจบลงไปสักที ผมก็ไม่ได้มีอะไรมายืนยันไปมากกว่าสิ่งที่ผมโพสต์ลงไป"
ยังรักและคิดถึง "ชิปปี้" คบมานานเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลียด เป็นความรักที่ไม่มีวันลืม
"จริงๆ ผมเชื่อว่า เราสองคนก็ยังคงมีความคิดถึงกัน ผมเองก็ยังรักน้องอยู่ เราเองก็คบกันนานขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเกลียดกันเลย ถึงแม้เราจะมีปัญหาอย่างนั้น มันเป็นเรื่องปกติ มันก็เกิดขึ้นบ้างปัญหาระหว่างคนสองคน แต่เมื่อเราตัดสินใจที่จะทำแบบนี้ ก็ให้เป็นแบบนี้ ข้างหน้าเป็นยังไงอันนี้ผมยังไม่ทราบ"
"ถามว่าเสียดายเวลาไหม ไม่เสียดายเวลา เรามีความสุขตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เขาสอนอะไรเรามาหลายอย่าง แล้วมันเป็นความรักที่ไม่มีวันลืม"
เข็ดกระแส ไม่พร้อมมีรักใหม่
"ตอนนี้ยังครับ เข็ดในระดับหนึ่ง เข็ดกระแสนะครับ ไม่ได้เข็ดความรัก คนต่อไปจะเป็นนางเอกไหม ก็ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับ มันไม่ใช่ว่ากลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดอะไร เราต่างคนต่างรู้ว่าปัญหามันคืออะไร ที่เราพูดไปตั้งแต่แรกว่าพอคนสองคนมันจะเลิกกัน มันไม่ได้มีคนเดียวที่ผิดที่ถูก มันจะต้องมีการคุยกันระหว่างสองฝ่าย ว่าทั้งสองคนมีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่ เราโอเค เขาไม่โอเค มันมีบ้างแต่ว่าในเรื่องที่ต้องชี้แจงก็ต้องเป็นไปตามนั้น"
เมินคนตีความเป็นฝ่ายนอกใจ ยันรักและคิดถึง แต่จะยังไม่กลับไป
"ผมเชื่อว่าสำหรับผมและเขาสองคน มันชัดเจนแล้วก็แค่นั้นผมก็โอเค ไม่กลัวสาวๆ หายครับ ลูกผู้ชายเราทำอะไร เราต้องยอมรับในสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราเป็น (ณ วันนี้อยากกลับไปคบกับชิปปี้ไหม?) ผมก็ยังคิดถึงเขา ก็ยังรักเขา แต่ว่าถ้าถามว่าในวันนี้ จะกลับไปคบไหม ตอนนี้คงจะยังครับ”
