“ฟ้าใส” เผยคว้าตำแหน่ง “มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019” เป็นโมเมนต์ที่ฝันมานาน ยันปีนี้ไม่มีการล็อกมงกุฎ ไม่กดดันตัวเองเพราะไม่คิดแข่งกับใคร แค่อยากทำตามฝันของตัวเอง สัญญาจะพัฒนาตนเองอย่างสุดความสามารถ คว้ามงฯ ที่ 3 มิสยูนิเวิร์สให้ได้
ถือว่าเป็นการล้างอาถรรพ์ให้ตัวเองได้สำเร็จ สำหรับ "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 คนล่าสุด ซึ่งเจ้าตัวผ่านการประกวดมาหลายครั้ง หลายเวที แต่ไม่สามารถคว้าที่ 1 มาครองได้ แต่เพราะเป็นคนที่ไม่ท้อถอย และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้วันนี้ฝันของฟ้าใสเป็นจริง โดยสาวฟ้าใสเปิดใจสุดตื่นเต้น โมเมนต์ที่ได้รับการประกาศชื่อก็รู้สึกเหมือนความฝัน
"จะบอกว่าเวลาที่ประกาศชื่อของเรา จนถึงตอนนี้เรายังรู้สึกว่ามันเหมือนฝันอยู่เลย ดีใจมากๆ อยากจะขอบคุณทุกท่านที่เลือกฟ้าใสเป็นมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 ตอนนั้นที่เหลือกันอยู่สองคนก็รู้สึกตื่นเต้น มันเหมือนเป็นโมเมนต์ที่ฝันมานานว่าสักวันนึงจะได้ยินชื่นของเรา หมายเลยของเรา แล้ววันนี้ฝันนั้นก็เป็นจริง"
"ตอนที่เขาประกาศชื่อเราหูอื้อมาก ฟ้าใสเตรียมยินดีกับเพื่อนและเชื่อว่ายังไงเราก็มีตัวแทนที่ดีของประเทศ แต่ในใจตอนนั้นก็อยากได้ยินชื่อตัวเอง ภูมิใจกับวันนี้มากๆ เลยค่ะ ยังบอกกกับตัวเองว่านี่เรายังฝันอยู่ไหม เวลากลับบ้านไปสงสัยจะมองมงกุฏตลอด"
"ตอนตอบคำถามเราไม่ได้ยินคำถามของคนอื่น แต่เราเชื่อมั่นว่าเราจะทำให้ดีที่สุด ณ ตอนนั้น ตอนที่ได้ยินคำถาม เราแค่จำสิ่งที่ครูสอนมาว่าเราต้องจับประเด็นให้ถูก จะสังเกตได้เลยว่าเราไม่ได้ยิ้มแค่ฟังอย่างเดียวว่าเราจะได้ยินถูกไหม ถามว่าคำถามยากไหม ก็คือเด็กๆ เราเคยคิดว่าพ่อแม่อยู่ด้วยกันเพราะว่าเรา แต่จริงๆ แล้วมาเคลียร์กันก่อนหน้านี้ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ พ่อแม่ของเราอยู่เพราะอะไร แล้วปีนี้โชคดีที่เขาจัดให้มีการซ้อมตอบคำถามภายใน 30 วินาที ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะเกร็งเหมือนกันก็ได้ฝึกซ้อมพอสมควรมันก็เลยโอเค"
ยันปีนี้ไม่มีการล็อกมงกุฎ ตนจึงตั้งใจทำเต็มที่ ไม่กดดันตัวเอง สนุกกับทุกกิจกรรม ไม่คิดแข่งกับใครเพราะตนมีเป้าหมายเพื่อมาทำตามฝันขอตัวเองจนขอทำให้ดีที่สุด
"มันมีอะไรที่พลิกได้ตลอด ปีนี้ไม่มีการล็อกมงฯ เขาก็บอกกันตลอดว่าแฟนคลับไม่ได้มีเสียงอะไรต่อคะแนนอยู่แล้ว เราก็ทำเต็มที่ทุกอย่าง เรามีแรงบันดาลใจให้ตัวเองว่าขอให้เราเอ็นจอยกับทุกวัน เราก็ได้รับกำลังใจเยอะมาก ตั้งแต่วันพรีลิมฯ แล้ว ถามเพื่อนๆ ได้เลยว่าเราจะซ้อมไม่ได้ดีเท่าวันจริงเพราะวันจริงเราได้พลังบวกเยอะมากจากแฟนๆ อยากจะขอบคุณจริงๆ ที่คอยซัปพอร์ต เชียรฟ้าใส มาอยู่กันที่นี่ ขอบคุณทุกแรงเชียร์และพลังบวกจริงๆ อยากจะบอกพ่อแม่ว่าเราวันนี้หนูทำได้แล้วค่ะ"
“ถามว่าตลอดมากดดันตัวเองไหมต้องบอกว่าในครั้งนี้ฟ้าใสตัดสินใจว่าอยากจะเอ็นจอย มีความสุขกับทุกกิจกรรม การประกวดในครั้งนี้ฟ้าใสไม่ได้มองว่าฟ้าใสแข่งกับใคร มองว่าเราทำเพื่อความฝันของตัวเองและจะทำให้ดีที่สุด เลยไม่มีความกดดันอะไรทั้งสิ้น ทุกวันเป็นอะไรที่สร้างรอยยิ้ม เป็นอะไรที่แฮปปี้มากๆ ในการได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ”
แย้มหลังความตำแหน่งนอกจากที่จะต้องเตรียมตัวเพื่อเวทีมิสยูนิเวิร์ส ระดับโลกแล้ว ตนอยากจะปรับเปลี่ยนกฎและกติกาของกีฬาเพื่อให้เหมาะกับชีวิตของคนพิการ ซึ่งเป็นความรู้ที่ตนได้ร่ำเรียนมาจากแคนาดา
“มิสยูนิเวิร์ส มงฯ ที่ 3 มาแน่(ยิ้ม) หลังจากนี้จะต้องมีการเตรียมตัว ฝึกฝนเพิ่มเติม มันก็มีอะไรที่เราอยากทำเป็นของตัวเองด้วย ตอนที่ฟ้าใสเรียนอยู่ที่แคนาดา เรียนวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว ฟ้าใสได้มีโอกาสเป็นอาสาสมัครในโครงการที่เราจะปรับเปลี่ยนกฎและกติกาของกีฬาเพื่อให้เหมาะกับชีวิตของคนพิการ ถ้าเป็นไปได้ฟ้าใสก็อยากจะนำโครงการดีๆ มาที่ประเทศไทย สังเกตเลยเวลาที่เด็กๆ พิการเขาได้ทำกิจกรรม ความมั่นใจเขาจะมากขึ้น เขากล้าที่จะตัดสินใจ สามารถสร้างรอยยิ้มได้ ในฐานะที่ฟ้าใสเป็นนักกีฬาคนนึงด้วยก็รู้สึกอยากจะแบ่งความสุขให้กับน้องๆ”
สัญญาจะพัฒนาตนเองเพื่อเวที มิสยูนิเวิร์ส อย่างสุดความสามารถเพื่อเป็นความหวังให้คนไทย
"ก็ขอให้เฝ้าดูพัฒนาการของฟ้าใส สัญญาค่ะว่าจะทำให้ดีที่สุด สำหรับฟ้าใสอะไรที่รู้สึกว่าต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วนเลย อันนี้ขออนุญาตไปถามครูก่อนว่าวันนี้ฟ้าใสมีอะไรที่ผิดพลาดมากที่สุด แต่สำหรับเราคิดว่าน่าจะเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง เราจะได้อัปเดตตลอดเวลา"
"จุดเด่นของฟ้าใสนั้นฟ้าใสเชื่อในความพยายามของเรา เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน เวลาที่เราทำอะไรด้วยความหลงใหล แล้วสิ่งนี้เป็นเป้าหมายของเรามานานมาก เราเชื่อว่าไม่ว่าเราจะเจออะไรก็ตามเราจะเดินหน้าต่อไป แล้วเราจะเป็นความหวังให้กับคนไทยค่ะ ถ้าได้เห็นพัฒนาการของฟ้าใสตั้งแต่ปี2017 จนมาถึงวันนี้แล้ว คิดว่าไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย สัญญาเลยว่าจากวันนี้จนถึงวันที่จะบินไปประกวดมิสยูนิเวิร์สจะต้องเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น สัญญาค่ะ"
"ขอบคุณหลายๆ คนเลยที่ช่วยทำให้ฟ้าใสมาจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณครอบครัวที่ซัปพอร์ต ทีมงานเบื้องหลังที่ทำให้ฟ้าใสมีชุดสวยๆ ในการใส่ประกวด ขอบคุณแฟนๆ และคนเบื้องหลังทุกคน ไม่มีพวกเขาก็ไม่มีวันนี้ การได้เห็นแฟนๆ มาโบกมือ ถือป้ายชื่อฟ้าใส มันทำให้เราดีใจมากๆ"
