"ป้อง ณวัฒน์" เผยหยุดงานละครไปกว่าครึ่งปี หายไปรับงานอีเวนต์ที่เมืองจีน หลังจากที่เคยถูกเทมาก่อนหน้านั้น ลั่นดีใจแฟนคลับชาวจีนยังต้อนรับเหนียวแน่น บอกอารมณ์เหมือนที่คนไทยรู้จัก "หลิวเต๋อหัว" โอดการทำงานที่เมืองจีนยากขึ้น ผลกระทบจาก "ฟ่านปิงปิง" โดนจับคดีเลี่ยงภาษี ตอนนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปตามวันเวลา เชื่อถ้าจะเจอคู่ก็คงเจอเอง ไม่ต้องไปวิ่งหา
ถือเป็นช่วงพักแบบยาวๆ ครั้งแรกของพระเอกหนุ่ม "ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์" เลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวเพิ่งกลับมารับงานละครอีกครั้งในรอบครึ่งปี กับละครเรื่อง “เดจาวู รักย้อนเวลา” ซึ่งหนุ่มป้องเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ทิ้งห่างละครไปนานขนาดนี้ แต่ก็ไปรับงานอีเวนต์ที่ประเทศจีนแทน
“จริงๆ หยุดถ่ายละครไปนานเหมือนกันนะ ประมาณครึ่งปีได้หลังจากเมีย 2018 แล้วก็ไปจีนบ้าง ก็เปิดกล้องมาแรกๆ ก็ต้องมีเคาะสนิมกัน พอเราหยุดไปนานก็แอบฝืดเล็กน้อยครับ แต่ก็สนุกดี ได้กลับมาสัมผัสบรรยากาศกองถ่ายอีกครั้ง ได้เจอพี่ เจอน้อง เจอเพื่อน ที่คุ้นเคยก็ดีครับได้กลับมา อาจจะนานสุดเลยนะ จริงๆ มันมีโปรเจกต์ที่จะทำก่อนหน้านี้ร่วมกับทางจีน แล้วโดนทางจีนเท บางทีจีนเขาชอบเปลี่ยนกะทันหัน พอยกเลิกอันนั้นไป เลยเสียเวลา ถ้าใครได้ดูไอจีก็จะเห็นว่าเที่ยวด้วยแหละ เดินทางๆ ล่าสุดไปจีนมา โชคดีที่ผมได้เดินทางด้วยกึ่งทำงานด้วย ก็ถือโอกาสไปในตัว หยุดจนเคยตัว กลับมาก็ต้องปรับโหมดกันนิดหนึ่ง”
“ไปงานพรีเซ็นเตอร์ที่ผมรับเฉพาะที่จีน ไม่ใช่ในไทย ปกติพรีเซ็นเตอร์ก็ต้องออกอีเวนต์ เหมือนเมืองไทยนี่แหละ แต่อันนี้ไปออกที่เมืองจีนที่กวางโจว แฟนๆ ไปรอรับกันหนาแน่นครับ เพราะนานๆ ทีเจอมั้ง แล้วเราก็ไปนานแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เหยียบเมืองจีนถึงตอนนี้ก็เป็น 10 ปี แฟนๆ ก็ยังหน้าเดิมๆ ก็รู้สึกว่าเขาก็ยังมากัน แล้วเมืองจีนมันใหญ่ไม่เหมือนบ้านเรา บางทีเขามาจากเมืองไกลๆ คือเขายากที่จะมา"
"เราเลยรู้สึกว่าขอบคุณที่เขาอุตส่าห์มาเจอกัน ผมดีใจปนเกรงใจมากกว่า เพราะมาตั้งไกล เหนื่อย แล้วมาเจอเราแป๊บเดียวสนามบินแล้วก็ไป ก็แบบได้เหรอ พอเหรอ ที่นั่นตำรวจอะไรเขาก็โหดเหลือเกิน เราก็เกรงใจเขามากกว่า ก็โชคดีที่เราเหมือนเข้าไปเป็นคนแรกๆ เหมือนคนไทยรู้จักหลิวเต๋อหัว ไม่ใช่ผมดังกว่านะ หมายถึงว่า พี่หลิวเขามาเมืองไทยตั้งแต่แรก ต่อให้เขาไม่มีหนังออกมีละครออก แต่คนไทยก็ยังจำได้ ก็เหมือนเราไปเป็นคนแรกๆ บางทีงานละครเราอาจจะมีออนบ้างไม่ได้ออนบ้าง แต่คนก็ยังจำได้ว่าป้อง นี่แหละที่เป็นนักแสดงไทย ก็ดีที่เขายังจำกันได้ครับ”
“ผลงานที่จีนตอนนี้ส่วนมากจะเป็นโปรเจกต์ร่วมมากกว่า เพราะหลังจากเรื่องภาษีของฟ่านปิงปิงไป ก็จะมีข้อจำกัดเรื่องนักแสดงต่างประเทศ เรื่องภาษี เรื่องอะไรมากขึ้น บางทีถ้าเราจะไปจีนเต็มๆ อย่างบี้ (ธรรศภาคย์ ชี) ก็อีกแนวหนึ่ง เราก็ต้องเป็นโปรเจกต์กันไป เพราะมันยากขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน"
"อย่างนักแสดงจีนก็มีผลกระทบอยู่แล้วนะ เหมือนกับเขาคงเชือดให้ดู ใครที่ซิกแซ็กอะไรกันไว้ก็ต้องรีบเคลียร์ตัวเองครับ ก็ดูเป็นเรื่องใหญ่ของเขาเหมือนกัน ถามว่าทำให้การไปทำงานที่จีนยากขึ้นไหม ผมก็ไม่รู้ของคนอื่นนะครับ อาจจะไปง่ายๆ ก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่ายากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ก็เดี๋ยวนี้แข่งกันเยอะ ก็ตามกระแส ตามจังหวะของเรา ตัวเลขหายไปเยอะไหมเหรอ (หัวเราะ) ไม่เยอะครับ ถึงไม่ได้ไปถ่ายละคร ก็มีอีเวนต์ เพราะผมมีอีเวนต์ที่จีนมากกว่าที่ไทยอีก แล้วผมก็ชอบด้วย เพราะผมไปเที่ยวบ้างเดินทางบ้าง กึ่งทำงานกึ่งเที่ยว ก็สนุกดี ยังแน่นอยู่ไหม ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ไปเรื่อยๆ”
บอกมุมมองความรักเปลี่ยนไปตามเวลา โฟกัสที่ชีวิตปัจจุบันมากกว่า
“แวะที่ไหนบ้างเหรอ แวะก็ไม่บอกหรอก (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ ไม่หรอกครับ แก่แล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่วัยรุ่นแล้วสัมภาษณ์มาเป็นสิบปี ก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่รักๆ เลิกๆ เหมือนเมื่อก่อน ก็ว่ากันไป อยากให้มันเป็นตามธรรมชาติ ฟ้าคงขีดชะตามาแล้วมั้งว่าคนนี้แต่งเร็ว คนนี้แต่งตอนนี้ อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ"
"อย่างที่บอกแก่แล้ว เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้ รีบแต่งดีกว่า บางทีเรากังวลกับอนาคตมากจนเกินไปจนปัจจุบันไม่มีความสุข สมมุติเราอาจจะยังไม่พร้อมในเรื่องของจิตใจ หรืออะไร เดี๋ยวแก่ไปลูกไม่ทันใช้ ก็แต่งๆ ไปเลย จนปัจจุบันอาจจะไม่มีความสุขก็ได้ ผมว่าเอาให้เรามีความสุขในชีวิตปัจจุบัน โฟกัสที่ปัจจุบัน ถ้าเราแฮปปี้กับมัน ก็โอเค ถ้ามันจะมาก็มา“
ไม่ใช่หล่อแล้วจะเอาใครก็ได้ ถึงเวลาก็มาเอง
“มันก็มีเข้ามาบ้าง อย่างที่บอกว่าเราต้องบาลานซ์ ถ้าเขาชอบเรา เราก็ต้องชอบเขาด้วย หรือถ้าเราชอบเขา เขาก็ต้องชอบเราด้วย ก็ต้องการคนที่ใจตรงกัน ไม่ใช่ว่าหล่อจัดใครก็ได้หมด ไม่ใช่ขนาดนั้น ก็ต้องตรงกันด้วย ถามว่ายังมีความหวังว่าชีวิตนี้จะได้แต่งงานไหม ไม่หรอก ลองดูต่างประเทศล่าสุดยังมีนักแสดงญี่ปุ่นสวยๆ แต่งกับตลกอายุ 42 คือมันก็เกิดขึ้นได้กับทุกคน"
"ช่วงเวลาของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน เวลาใครเวลามัน อย่างที่บอกว่าถ้าเจอก็ให้เป็นไปตามกลไกความรู้สึก อย่าไปต้องแต่ง จะหาแล้ว ความรักยิ่งหายิ่งไกล เดี๋ยวมันเจอก็เจอเองแหละ หมายถึงทุกๆ คนด้วยนะ ไม่ต้องซีเรียส ผมว่าถึงเวลามาเอง อย่าไปเร่งรัดหรืออะไรจนผิดธรรมชาติ แล้วมันเหมือนกับฝืนๆ ไม่จริง วันหนึ่งก็เลิกอยู่ดี เรียกว่าโตขึ้น มุมมองก็เปลี่ยน เราสัมภาษณ์กันมาทุกๆ คนตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่อ้อนแต่ออก จนทุกวันนี้ก็ยังอยู่กัน ก็ต้องเปลี่ยนไปตามมุมมองครับ มันเป็นความจริง เด็กๆ ทุกคนโตมาก็จะเข้าใจครับ”ั