xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ได้เพี้ยน "เปิ้ล ไอริณ" สาบาน วิญญาณออกจากร่าง 3 ครั้ง ไปหาแฟนเก่าที่ลอนดอน ร้อนมากเหมือนตกนรก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"เปิ้ล ไอริณ" สาบาน วิญญาณหลุดร่าง 3 ครั้ง ครั้งหนึ่งเคยไปหาแฟนเก่าถึงลอนดอน ร้อนมากเหมือนตกนรก ออกตัวอย่ามองเพี้ยน ไม่ได้ดูละครมา โร่เขียนพินัยกรรมสั่งเสีย เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน ตัวคนเดียว หวั่นกระเป๋าหรูมูลค่าหลักล้านจะเป็นของไม่มีราคา อยากให้ประมูลเพื่อ 4 มูลนิธิ



ทำเอาชาวฟอลโลเวอร์ตกใจกับแคปชั่นใต้ภาพของสาว “เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว” ที่ออกมาโพสต์ข้อความสั่งเสียประดุจพินัยกรรม ว่าขอบริจาคทรัพย์สิน ร่างกายตนเพื่อจะได้ไปทำประโยชน์ต่างๆ ต่อไปหากตนเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อมีโอกาสเจอสาวเปิ้ล จึงถามถึงเรื่องนี้ เจ้าตัวเผยว่าตนได้ทำพินัยกรรมไว้แล้วแต่ที่ออกมาโพสต์เพราะตนตัวคนเดียวกลัวจะไม่มีใครจัดการสิ่งที่เป็นเจตนารมณ์ที่ตนตั้งใจไว้

“จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย คนที่ตามไอจีเปิ้ลปกติจะเห็นเปิ้ลแชร์แบ่งปันสิ่งของอยู่แล้ว แจกของใช้ต่างๆ ของเปิ้ล คือเรามีความรู้สึกว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะเห็นคุณค่าของของทุกอย่างที่เราซื้อมา ตัวเปิ้ลเองก็หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา มันเลยรู้สึกว่ามันมีค่าสำหรับเรา วันนึงเปิ้ลเดินเข้าไปในห้องเก็บกระเป๋า มองไปมองมาเราก็รวบรวมราคาดู รวมไปรวมมามันซื้อรถได้เลยนะ”

“เราเลยมาคิดว่าทำยังไงถ้าสมมติว่าเราไม่อยู่บนโลกนี้แล้วของพวกนี้มันอาจจะเป็นของที่ไร้คุณค่าไปเลยก็ได้ เพราะคนที่อยู่รอบๆ ตัวเราเขาไม่ได้ใส่ใจกับของพวกนี้อยู่แล้ว เลยคิดว่าเราอยากจะแบ่งปันให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีกว่า"

"เปิ้ลเห็นญาติเปิ้ลทุกคนเขาจากไปกันง่ายๆ อย่างคุณตา วันนึงเปิ้ลเปิดประตูเข้าไปหาแกก็หลับและจากไปเลย น้องสาวเปิ้ล แม่เปิ้ล คุณยายเปิ้ลอยู่ๆ วันนึงเขาก็จากไปโดนไม่ได้ร่ำลาอะไรกันเลย แล้วทิ้งสมบัติ ทิ้งมรดกเอาไว้เต็มเลย เราเลยรู้สึกว่าวันนึงเราอยากจะฝากเพื่อนๆ เพราะตัวเปิ้ลเองบนโลกนี้ เปิ้ลมีตัวเปิ้ลอยู่คนเดียวในโลกจริงๆ เรายังไม่รู้เลยว่าใครจะมาดูแลหมาแมวเรา เลยคิดว่าอยากจัดสรรสมบัติที่เราหามาทั้งหมดทั้งชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้นเอง”

เผยมูลค่ากระเป๋าและของต่างๆ ที่ตนมีอยู่ตอนนี้ร่วม 2 ล้านบาท หากตนเสียชีวิตไปแล้วช่วยเอาของพวกนี้ไปประมูลเพื่อนำเงินมาใช้ประโยชน์ต่อไป
วันนั้นที่นับรวมๆ กันแล้วเกือบ 2 ล้าน ชาแนล 6 ใบ แอร์เมส 2 ใบ ซึ่งมันซื้อบ้านได้เลยนะ แต่เพื่อนเปิ้ลที่เปิ้ลคบอยู่รอบตัวไม่มีใครเห็นว่ามันมีประโยชน์เลย เลยคิดว่าถ้าวันนึงมันเป็นของที่มีมูลค่ากับใครหลายๆ คนแล้วเอาไปประมูลกันแล้วได้เงินก้อนนั้น เปิ้ลอยากให้พี่ๆ นักข่าวช่วยจัดการเลย ฝากทุกคนไว้เลยนะคะ พินัยกรรมจริงๆ เปิ้ลได้ติดต่อทนายไปแล้วหลังจากโพสต์ข้อความนั้นลงไอจี ก็คุยกับทนายว่าเปิ้ลมีเจตนารมณ์แบบนี้ช่วยจัดการให้เปิ้ลด้วย”

“ที่เลือกประมูลของมันมาจากตอนนี้เปิ้ลมาลองไลฟ์สดขายเสื้อผ้าดู มันเกิดจากการที่ของเราแน่นตู้มาก ไลฟ์เล่นๆครั้งแรกเปิ้ลได้เงินมาประมาณเกือบแสนเลยรู้สึกสนุก ไปๆ มาๆ บางชิ้นของเราที่มันแพง มีมูลค่าพอจะขายหลายคนก็บอกประมูลเถอะพี่ทุกคนอยากร่วมสนุก เราก็เลยมองว่าวันนึงที่เราไม่อยู่แล้วทุกคนจะได้ร่วมสนุกกันอีก”

เล่าสาเหตุที่คิดทำเรื่องพวกนี้เพราะตนเคยวิญญาณออกจากร่างมาแล้วถึง 3 ครั้ง จึงมองว่าการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน
“คิดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่างการที่จะซื้อกระเป๋าแต่ละใบมูลค่ามันสูง ทุกครั้งที่จะจ่ายเงินเราก็จะคิดว่าใบไหนที่มันขายได้ราคา เผื่อวันนึงที่เราไม่อยู่แล้วจะได้เอาไปสร้างประโยชน์ได้ คือคิดตั้งแต่เริ่มซื้อเลย เราคิดอย่างนี้ของเรามาตลอดจริงๆ"

"เอาจริงๆ เปิ้ลกลัวคนจะว่าเปิ้ลเพี้ยนนะคะ ตัวเปิ้ลเองเคยมีประสบการณ์ถอดกายละเอียดออกจากกายหยาบของตัวเองมาแล้ว 3 ครั้ง เปิ้ลเคยไปทอล์กโชว์รายการนึงมาด้วย เราเคยถอดจิตขนาดที่ว่าเราไปหาผู้จัดการเราที่ตอนนั้นเราอยู่โรงพยาบาล แล้วตอนนั้นเราก็เอ๊ะทำไมเราถึงอยู่ที่โรงพยาบาล 3 ครั้งมาแล้วที่เปิ้ลหลับไปเฉยๆ แล้วเปิ้ลก็ตื่นขึ้นมา เลยรู้สึกว่าจริงๆ คนเราการตายมันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องที่มันไม่ปกติก็คือเราสร้างสินทรัพย์ที่มันฟุ่มเฟือยเยอะแยะมากมายเลย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะจัดการมันยังไงเวลาที่เราไม่อยู่แล้วเท่านั้นเอง”

ยันตนไม่ได้ฝันหรือคิดไปเอง และไม่ได้จำมาจากในละคร ย้ำหากตนหลับไปไม่ตื่นก็ขอฝากเจตนารมณ์นี้กับทุกคนด้วย
“มันเกิดขึ้นจริงๆ ถึง 3 ครั้งมาแล้วในชีวิต สาบานได้ เปิ้ลไม่ได้โกหก ครั้งแรกเปิ้ลหลับไป ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นตัวเองนอนอยู่ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ปราณบุรี เปิ้ลไปทำบุญและโชว์ตัว ตอนประมาณตี 3-4 เรารู้สึกว่าตัวเราลอยขึ้นไปจนติดเพดานเราก็ตกใจ ก็เลยได้เห็นตัวเราเองตอนอยู่ที่เตียง เราก็ตกใจ เราก็พยายามดันตัวเองเพื่อกลับมาที่ตัวเองใหม่ พอกลับมาได้เราก็ตกใจ รีบลงไปที่ล็อบบี้"

"เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ประมาณช่วงตี 5 เขาสแตนบายนักแสดงเพราะจะมีการตักบาตรพระ 100 รูปเนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ ผู้จัดการเปิ้ลก็อยู่ เราก็ถามว่าทำไมเรามารอตั้งแต่ 03.30 น. ก็บอกเขาว่าเรารู้สึกเหมือนถอดออกมาจากของตัวเองได้”

“ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในวันปีใหม่ในปีถัดไป แล้วยังมามีครั้งที่ 3 อีก จนเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกตินะกับการที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราต้องการคือเราอยากจะฝากฝังสิ่งที่เรามีอยู่เท่านั้นเอง เปิ้ลมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปิ้ลมันปกติ ด้วยเปิ้ลเป็นคนสวดมนต์ไหว้พระทุกคืนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว นั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันไม่เคยเว้นสักคืนเลย เราปฎิบัติมาอย่างนี้แล้วเราก็ศึกษามาอย่างละเอียดว่าคนเราแยกกายละเอียด กายหยาบได้มันเป็นเรื่องปกติ”

“เราไม่ได้ดูละครเยอะไปนะ เราอ่านและศึกษาเรื่องนี้มาจนละเอียดแล้ว พอมันเกิดขึ้นกับเราครั้งที่ 3 แล้วด้วย การที่กายละเอียดแยกจากกายหยาบได้เราสามารถจะไปที่ไหนก็ได้ ครั้งที่ 3 เปิ้ลกลับกลางวันอยู่แล้วเปิ้ลก็ยกแขนขึ้นมา ปรากฎว่าแขนเรามันยังอยู่ที่เดิม เรามีความรู้และเรามีประสบการณ์มา 2 ครั้งแล้ว เราก็เลยคิดว่าครั้งนี้เราจะลองไปที่ไหนดู"

"ก็เลยอยากไปหาแฟนเก่าเรา ตอนนั้นเราอยู่ที่ลอนดอน เราก็นึกภาพว่าเราไปลอนดอนดีกว่าแล้วก็หลับตาลง บริเวณตรงที่เขาเรียกกันว่าตาที่ 3 บริเวณหน้าผากมันก็จี๊ดๆ แล้วเราก็ได้ไปยืนอยู่หน้าบิ๊กเบนจริงๆ แต่มันเป็นช่วงกลางวันแล้วในตอนนั้นมีคนเดินไปมาเยอะแยะเลย สักพักเราก็รู้สึกว่าตัวร้อน แสบตัวมากเหมือนตัวจะไหม้เลย ขอกลับดีกว่า ความคิดตอนนั้นเราคิดว่าเราตกนรกหรือเปล่า”

“แล้วก็คิดว่าก่อนกลับเราขอไปหาผู้จัดการเราก่อนดีกว่า เราก็นึกถึงหน้าเขา ตรงหน้าผากก็แสบอีก ปรากฎว่าลืมตามามันเป็นโรงพยาบาล เห็นทุกอย่างเป็นสีเขียวหมดเลย เราก็ตกใจอุ๊ย หรือว่าเรามาห้องดับจิต เราคงไม่เล่นแล้ว เรากลัว กลับดีกว่า แล้วพอเปิ้ลตื่นมาปุ๊บเปิ้ลก็โทร.หาแฟนเก่าเปิ้ลบอกว่าเมื่อกี้ออกมาจากร่างได้อีกแล้ว แล้วก็ไปลอนดอนด้วย รู้สึกร้อนแสบตัวมาก"

"แฟนเก่าเปิ้ลก็บอกว่าตอนนี้ที่ลอนดอนอากาศร้อนมาก ตัวเขายังเป็นสีน้ำตาลเลยเพราะว่าแดดจัดมาก เราไม่ได้ว่าอยากจะถอดหรือไม่ถอด เรามองว่าทุกอย่างมันเป็นอนิจจัง อะไรก็เกิดขึ้นได้ เกิดวันนึงถ้าเปิดหลับไปแล้วไม่ตื่น ก็ขอฝากประมูลของเปิ้ลด้วยก็แล้วกันนะคะ”

บอกอนาคตไม่ได้กะเกณฑ์ว่าจะไม่มีสามี-ลูก แต่แม้จะมีทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ตนตั้งใจไว้ ไม่มองการทำเช่นนี้เหมือนเป็นลาง ตามความเชื่อคนโบราณ ลั่นนี่คือการสั่งดีไม่ใช่การสั่งเสีย
ใครบอกว่าเปิ้ลโสดคะ ก็มีคุยๆ กันบ้างไม่ได้โสดสนิท 100 เปอร์เซ็นต์ เปิ้ลไม่ได้กะเกณฑ์อะไรในชีวิตทั้งสิ้น คิดว่าอยากทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็โอเคแล้ว ถึงแม้จะมีสามี สามีเปิ้ลก็ต้องดูแลเปิ้ลได้ แล้วของเปิ้ลจะต้องไม่ขยับไปไหน ต้องอยู่ตรงนั้น"

"มันเป็นสิ่งที่เปิ้ลตั้งใจไว้แล้ว มีคนพูดว่าทำแบบนี้มันเป็นลาง มันเหมือนการสั่งเสียเลย เขาถือกัน สำหรับเปิ้ลมองว่ามันเป็นการสั่งในเรื่องที่ดี เจตนารมณ์ของเปิ้ลต้องการนำเงินไปช่วยเหลือ 4 มูลนิธิ ได้แก้มูลนิธิสิทธิสตรี เด็กกำพร้า สัตว์จรจัด-พิการ แล้วก็โรงพยาบาลสงฆ์ เปิ้ลจำได้ขึ้นใจเพราะเปิ้ลมักจะพูดสั่งดีเรื่องนี้ไว้กับคนรอบข้างเปิ้ลเสมอ ไม่ใช่การสั่งเสียแต่เป็นการสั่งดีค่ะ แล้วตอนนี้ก็ได้ทำพินัยกรรมที่เขียนเป็นรูปร่างไว้เรียบร้อยแล้วฝากทนายความไว้ แต่เปิ้ลกลัวว่าจะไม่มีคนจัดการเรื่องให้เปิ้ลเลยบอกผ่านช่องทางของเปิ้ลด้วยก็เท่านั้นเอง”




กำลังโหลดความคิดเห็น