“เดวิด กิลเมอร์” มือกีตาร์ และนักร้องนำของวงร็อก Pink Floyd สามารถหาเงินได้มากถึง 21.5 ล้านเหรียญฯ (660 ล้านบาท) จากการนำกีตาร์ส่วนตัวออกให้ผู้สนใจประมูล เพื่อนำเงินทั้งหมดมอบให้การกุศล
ศิลปินมากมายอาจจะหวงแหนเครื่องมือทำมาหากินของตัวเองชนิดไม่ให้ใครแตะต้อง แต่คงไม่ใช่สำหรับ เดวิด กิลเมอร์ แห่งวง Pink Floyd ที่ตัดสินใจนำกีตาร์ถึง 126 ตัวออกขาย รวมถึงกีตาร์ตัวสำคัญๆ ที่ กิลเมอร์ เคยใช้แสดงบนเวทีสำคัญๆ และอัดเสียงเพลงระดับตำนานเอาไว้มากมาย
โดยกีตาร์ยี่ห้อเฟนเดอร์ รุ่นสตราโตคาสเตอร์ สีดำ ปี 1969 คือของที่ถูกประมูลไปในราคาสูงที่สุดถึง 4 ล้านเหรียญฯ ส่วนกีตาร์อะคูสติก มาร์ติน บี-35 ก็มีคนซื้อไปด้วยราคาสูงถึง 1 ล้านเหรียญฯ เช่นเดียวกัน จนกลายเป็นกีตาร์มาร์ติน ที่ราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปโดยปริยาย
สรุปแล้วมีแฟนๆ 2,000 คน จาก 66 ประเทศที่มาร่วมเสนอราคาหวังครอบครองอาวุธคู่กายของกิลเมอร์ ส่วนเขาก็สามารถทำเงินเพื่อการกุศลถึง 21.5 ล้านเหรียญฯ โดย กิลเมอร์ จะมอบเงินทั้งหมดให้กับองค์การกุศลหลายๆ แห่งต่อไป
“ว้าว เหลือเชื่อเลย ผมตื่นเต้นมากๆ กับผลการประมูลกีตาร์พวกนี้ โดยเงินทั้งหมดจะถูกส่งมอบให้แก่องค์กรการกุศลเพื่อต่อสู้กับปัญหาวิกฤตเรื่องโลกร้อนต่อไป .... ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนมากครับที่ทั้งซื้อกีตาร์, ร่วมประมูล รวมถึงที่มาชมงานแสดงของทั้งหมดด้วย แล้วก็ขอบคุณทางคริสตี้ ผู้จัดประมูล กับ ฟิล เทย์เลอร์ เพื่อนผมที่ดูแลกีตาร์ทั้งหมดนี้มานานหลายปีด้วย ขอบคุณจริงๆ” กิลเมอร์บอก
โดยก่อนหน้านี้ อีริก แคลปตัน ก็เคยนำกีตาร์ที่เขาสะสมเอาไว้ออกประมูล และสร้างสถิติยอดเงินสูงถึง 12.5 ล้านเหรียญฯ มาแล้ว
Pink Floyd คือวงโปรเกรสสีฟร็อกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมดนตรี โดยอัลบั้มชุด Dark Side of the Moon ของพวกเขาสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 45 ล้านชุด อย่างไรก็ตาม Pink Floyd ได้ประกาศยุติบทบาทไปแล้ว แม้ตัวของ กิลเมอร์ จะออกตัวถึงโอกาสการกลับมารวมวงอีกครั้งว่าคงยาก แต่ก็เปรยเอาไว้ว่าสุดท้ายแล้ว “อะไรก็คงเกิดขึ้นได้”