กลายเป็นดรามาขึ้นมาทันทีหลังจากที่คุณพ่อของ "น้องอินเตอร์ รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ" นักแสดงเด็กชื่อดังโพสต์ภาพลงไอจีของลูกสาวอวดรถคันใหม่ป้ายแดงที่เป็นรางวัลของครอบครัว งานนี้เจอสื่อบางสำนักโพสต์แขวะอิจฉาพ่อแม่ แถมชาวเน็ตไม่น่ารักก็กระหน่ำเข้ามาคอมเมนต์เหน็บแนมว่าใช้งานลูกสาววัยเพียง 7 ปีให้ทำงานหนักจนรวยมีเงินซื้อรถหรู ทำเอาคุณพ่อต้องขอชี้แจงยาวเหยียด ยืนยันว่าเป็นเงินของคุณพ่อเอง ส่วนเงินของน้องอินเตอร์เก็บเข้าบัญชีของน้องเองทุกบาท วอนทุกคนคิดก่อนพิมพ์
"ไม่คิดว่าจะดราม่า😓...แต่ก็ดราม่า😰
#คุณพ่อน้องอินเตอร์ ขอชี้แจงนะครับ
โพสต์ที่ลงในไอจี เรื่องซื้อรถคันใหม่ คุณพ่อเป็นคนโพสต์เอง คุณพ่อคุณแม่เป็นคนดูแลไอจีน้อง ตอบคำถามคอมเมนท์ เนื่องจาก #น้องอินเตอร์ไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัว เพราะน้องอายุแค่ 7 ขวบ ส่วนเรื่องซื้อรถใหม่ป้ายแดง เป็นเงินจากการทำงานส่วนตัวของคุณพ่อเองและเราก็รู้จักอดออม ซื้อของที่เหมาะสม ส่วนเรื่องการทำงานของน้อง เงินที่ได้ทุกบาท คุณพ่อคุณแม่ ก็เก็บแยกเป็นบัญชีของน้องอินเตอร์เอง ไม่เคยนำมาใช้อย่างที่คนบางคนคิด เพราะว่าเขาทำงาน เขามีความภูมิใจในตัวเองทุกครั้งที่เปิดสมุดบัญชีมาดูว่ามีเงินเก็บเท่าไหร่ 🙏ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชี้แจ้งในทางที่ดีเพราะพ่อก็เป็นคนสาธารณะที่ทำมาหากิน ตื่นเช้าทำงาน รับส่งเด็กๆ ดูแลครอบครัว เราก็ทำงานหนัก เพื่อคนที่เรารัก และมีลูกค้าที่รู้จักว่าเป็นคุณพ่อน้องอินเตอร์ เขามาทักทาย เป็นลูกค้าที่ดีเสมอมา วันนี้เป็นวันที่คุณพ่อรู้สึกภูมิใจและเห็นลูกๆทั้งสองคนมีความสุข ได้เห็นรอยยิ้ม แต่อาจมีความเข้าใจผิดทางด้านความคิด ที่ทำให้ใครหลายๆคนคิดว่าคุณพ่อนำเงินน้องมาใช้ แต่มันก็ไม่ผิดเพราะทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นได้ วันนี้เลยขอออกมาชี้แจ้งเพื่ออยากให้ทุกคนเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีใครไม่รักลูก ไม่มีใครไม่ห่วงลูก ไม่มีใครอยากให้ลูกทำงานหนัก เพราะทุกวันนี้เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เรามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และเราก็ปรึกษากันก่อนที่จะรับงานและน้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกครั้ง เพราะถ้ารับงานแล้วต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน เข้าใจหน้าที่ของตัวเอง ส่วนเรื่องเรียน ผลการเรียน น้องอินเตอร์ เกรดเฉลี่ย 4.00 ทั้งสองเทอมใน ป.1 ถึงแม้ว่าเราจะขาดเรียนแต่เราก็ไม่ทิ้งการเรียน เราทบทวนบทเรียน ทำการบ้าน ทำงานส่งคุณครูทุกครั้ง ตามเก็บคะแนน ขอบคุณทางโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้เด็กที่มีความฝัน มีทักษะ ความสามารถพิเศษในด้านกีฬา ดนตรี การแสดง และด้านอื่นๆและสนับสนุนให้เด็กสามารถทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพื่อหาประสบการณ์ และครอบครัวเราก็แบ่งเวลาวางแผน ตารางเรียนและงาน คุณแม่ก็ติดต่อประสานงานกับคุณครูประจำชั้น และผู้ปกครองที่น่ารักทั้งในห้องเรียนและที่คอยช่วยเหลือกัน เราติวหนังสือ แบบฝึกหัดที่กองถ่ายกันเสมอ วันหยุดเราไปเที่ยวไปดูหนังไปร้านหนังสือเราใช้ชีวิตในแบบของครอบครัวเรา บางคอมเมนท์ที่คุณพ่อได้อ่าน ไม่ค่อยน่ารักเพราะถ้าคุณไม่รู้จักครอบครัวเราดี อย่างพิมพ์อะไรที่ไม่ดี คิดก่อนพิมพ์ ใช้สติสักนิด และคุณพ่อขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้าใจ หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ บางทีเราก็ต้องออกมาปกป้องตัวเองบ้าง คิดดีทำดี ขอให้เจริญ เจริญ"