เชื่อว่าคงมีหลายคนที่เคยดู “บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล” เวอร์ชั่นเก่าที่เปิดแสดงมาแล้วหลายรอบ คงไม่รู้สึกตื่นเต้นและอาจจะมีกำแพงในใจด้วยซ้ำว่า เวอร์ชั่น 2019 นี้จะซ้ำของเดิม เหมือนฉายหนังเรื่องเก่าหรือไม่? และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนลังเลที่จะตีตั๋วเข้าไปชมอีกครั้ง
“บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล 2019” สุดกว่าทุกเวอร์ชั่นที่เคยมีมา นี่คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังได้เข้าไปชมการแสดงในรอบพรีวิว เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา
บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล เวอร์ชั่น พ.ศ.นี้ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ในฐานะผู้กำกับการแสดง นำกลับมาตีความเรื่องราวใหม่เพื่อให้เข้ากับผู้ชมในปี 2019 มากขึ้น ผ่านการเล่าเรื่องของลูกๆ ทั้ง 4 คน ที่พูดถึงมุมมองความรักของแม่ แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างกลับพังทลาย ไม่เป็นอย่างที่หวัง ดั่งคำว่า “รักเกินรัก มักทำลาย” ที่ถือเป็นแกนหลักของเรื่อง ซึ่งกลายเป็นจุดกำเนิดของโศกนาฏกรรมชีวิตของปานรุ้งที่แสนโหดร้าย ครั้งนี้ “บอย ถกลเกียรติ” ขยี้อารมณ์คนดูด้วยการเพิ่มรายละเอียดของตัวละครให้ลึกซึ้งมากขึ้น มีการดีไซน์ฉากให้โมเดิรน์ทันสมัยไม่ซ้ำกับเวอร์ชั่นที่ผ่านมา ส่วนบทเพลงก็มีทั้งเพลงเก่าคุ้นหู และมีบทเพลงใหม่เข้ามาเติมเต็มเพื่อให้เรื่องราวเข้มข้นเข้าไปอีก และยังไพเราะทุกเพลง โดยเฉพาะการดำเนินเรื่องที่พีคขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รูดม่านเปิดการแสดงกระทั่งม่านปิด สุดทุกอรรถรสในทุกฉาก การเดินเรื่องสนุก บีบหัวใจ เรียกเสียงหัวเราะ และเสียน้ำตาร้องไห้ให้กับเรื่องราวของตัวละคร
ในส่วนของนักแสดงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยอดฝีมือทั้งนั้น “แพท สุธาสินี” ที่บินตรงจากอเมริกามารับบท “ปานรุ้ง” ด้วยประสบการณ์ที่เป็นตัวแม่ด้านละครเวที และความเป็นแม่ในชีวิตจริงทำให้แพทสวมบทปานรุ้ง แม่ผู้ทุ่มเทความรักให้กับลูกๆ ได้อย่างซาบซึ้ง สะกดอารมณ์ผู้ชมให้อินตามได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่ต้องปรบมือให้ แต่ละคนสามารถถ่ายทอดตัวละครได้เป็นอย่างดี ฝีมือไม่มีใครกดใคร มีแต่เก่งเจอเก่ง ทุกคนสามารถแสดงออกมาได้ดี ตั้งแต่นักแสดงหลักยันตัวประกอบ
เริ่มที่สามีทั้ง 3 คนของปานรุ้ง นำทีมโดย “ชาย ชาตโยดม” รับบทเป็น “เกื้อ” สามีผู้ต่ำต้อยเป็นแค่คนขับรถของครอบครัวปานรุ้ง ซึ่งชายได้โชว์ความเป็นสุดยอดนักแสดงได้อย่างไม่มีที่ติ โดยเฉพาะฉากที่เกื้อถูกพรากลูกรักไปจากอกนั้น เรียกน้ำตาคนดูได้ทั้งโรงละครรัชดาลัยฯ ด้านรุ่นใหญ่ “จิ๊บ วสุ” ที่รับบท “วาสุเทพ” นายทหารเรือหล่อรวย สามีผู้คอยเข้าใจ และอยู่เคียงข้างปานรุ้ง ซึ่งเจ้าตัวก็เล่นได้น่าประทับใจสมราคามืออาชีพ อีกหนึ่งสีสันของเรื่องก็คือคู่พ่อลูกขาแดนซ์ “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” รับบท “ชูนาม” สามีที่ทำให้ชีวิตปานรุ้งตกต่ำ ทั้งติดการพนันและเจ้าชู้ กับนักร้องหนุ่ม “ชิน ชินวุฒ” ที่รับบท “ปานเทพ” ลูกชายปานรุ้งกับชูนาม คู่นี้เคมีพ่อลูกเข้ากันสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นซีนที่ต้องแสดงความร้ายกาจ หรือแม้แต่การร้องแร็ปและเต้นแบทเทิลกัน ทำเอาคนดูกรี๊ดสนั่น เหมือนได้เห็นตัวพ่อขาแดนซ์สองยุคมาไฝว์!กัน โดยเฉพาะหนุ่ม “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” ที่สามารถดึงภาพทัชนักร้องเท้าไฟยุค 90 กลับมาให้เห็นอีกครั้ง
รวมไปถึงลูกอีก 3 คน นั่นก็คือ “ตั้ม วราวุธ” รับบท “ปรก” ลูกที่แม่รักน้อยที่สุด ซึ่งตั้มก็เอาอยู่ทั้งโหมดเศร้า และบทน่ารักสร้างรอยยิ้ม ด้านสาว “พินต้า ณัฐนิช” ที่พลิกบทบาทมาเป็น “ปานวาด” สาวใจแตกที่ไม่เชื่อฟังแม่ ก็ตีบทแตกกระจุย อีกทั้งยังโชว์พลังเสียงร้องขั้นเทพได้ตราตรึงใจเหมือนเคย และที่ทำเอาเซอร์ไพรส์ไม่น้อย คงเป็นนักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง “ตะวัน พันวา” ที่มารับบท “ปกรณ์” ลูกชายคนเล็กของปานรุ้ง หลายคนเคยเห็นหนุ่มคนนี้จาก “แฟนจ๋า เดอะมิวสิคัล” หรือ “Still On My Mind” แต่มาเรื่องนี้ต้องบอกว่าฝีมือการร้องและการแสดงของเจ้าตัวก้าวกระโดดข้ามขั้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งฉากที่ต้องปะทะอารมณ์กับ “แพท สุธาสินี” ตะวันก็แสดงได้อย่างเข้มข้นเดือดถึงอารมณ์ ไม่ใช่แค่ลูกปานรุ้งตอนโตที่เล่นได้ดี แต่เด็กน้อย 4 คนที่มาเล่นเป็นลูกตอนวัยเด็กก็แสดงได้น่ารักน่าเอ็นดู แถมร้องเพลงเพราะจนอดยิ้มตามไม่ได้ อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่ต้องพูดถึงก็คือ “ตู่ นันทิดา” ผู้รับบท “คมขวัญ” แม่ของปานรุ้ง ที่ยังคงโชว์ฟอร์มดีว่าของเมืองไทยได้ไม่มีตกหล่น
ดูจบ คุณจะได้คำตอบชีวิตหลายแง่มุมจาก “บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล 2019” ละครเวทีที่ให้มากกว่าความบันเทิง โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันหลักที่จะสร้างรากฐานที่ดีให้กับสังคม ลูก 4 คนของปานรุ้งคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกัน คนดูจะได้เห็นมุมมองชีวิตแง่มุมต่างๆ ผ่านตัวละครเหล่านี้ ไม่แน่ว่าหนึ่งในตัวละครในเรื่องอาจเหมือนคุณก็ได้ เรื่องนี้จะสอนคนเป็นแม่ว่าต้องเลี้ยงลูกอย่างไร สอนคนเป็นพ่อว่าพ่อที่ดีเป็นอย่างไร และสอนลูกว่าควรประพฤติตัวกับพ่อแม่อย่างไร คนเป็นแม่ต้องเคยเป็นลูกมาก่อน ต่อให้รักลูกมากแค่ไหนก็ต้องเข้าใจลูกด้วยเช่นกัน คนเป็นลูกก็ควรจะเชื่อฟังพ่อแม่เพราะท่านอาบน้ำร้อนมาก่อน และจำไว้ว่าพ่อแม่คือคนที่รักเราอย่างจริงใจที่สุด “เรียนรู้คำว่ารัก ให้พอดีและเข้าใจ” ดูละครแล้วย้อนดูตัวเอง เรื่องนี้กำลังบอกแบบนั้น
เป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีละครเวทีในตำนาน ใครอยากดูบัลลังก์เมฆฯในความรู้สึกใหม่ๆ ล็อคคิวได้เลยเพราะจะเปิดการแสดงวันที่ 26 มิถุนายน - 21 กรกฎาคม 2562 ณ “เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์” …แล้วพาตัวเองไปอิ่มเอมกับละครเวทีที่ดีที่สุดอีกหนึ่งเรื่องของเมืองไทย
