"อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" เผยอาการดีขึ้น แต่ยังพูดไม่ชัด เดินไม่ค่อยได้ ต้องทำกายภาพบำบัดทุกวัน ลั่นต้องยิ้มกับมัน อย่าย้อนไปมองอดีต กำลังใจสำคัญที่สุด เตรียมกลับมาลุยละครอีกครั้ง บอกฟ้ากำหนดให้เกิดมาเพื่อทำละคร
แม้จะยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีขึ้นน่าชื่นใจ สำหรับ "อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" หลังเคยล้มป่วยจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ใช้เวลารักษาตัวมานาน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าทุกอย่างอยู่ที่กำลังใจ
"อาการก็เท่าเดิมครับ โรคนี้เป็นแล้วต้องรักษา มันไม่ได้ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน แต่มันจะค่อยๆ ดีขึ้น นี่ตัวผมเองก็ยังพูดไม่ชัดเลยและก็ยังเดินไม่ค่อยได้ ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะถามว่าผมหายดีหรือยัง ผมหายแล้วครับ แต่แค่ยังเป็นแบบนี้อยู่ เป็นอาการของโรค"
"ซึ่งก็ทำกายภาพทุกวันครับ ก็ทำในส่วนของทำแขนขาและก็ไปเดินลู่เดินอะไร คือเดินเยอะมากครับ ส่วนเรื่องการรับประทานอาหารก็คือต้องควบคุมตัวเอง อย่าทานหวาน อย่าทานมัน และอย่าทานเค็มมาก รวมถึงไม่ควรนอนดึก ซึ่งวันนี้ก็นอนดึกแล้วครับ (หัวเราะ)"
ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนเดิม ไม่ทำตัวเองให้เป็นภาระ
"และเวลาอยู่ที่บ้านทุกวันนี้ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ทำอะไรได้ก็ทำ กวาดบ้าน ทำความสะอาดบ้าน คือใช้ชีวิตประจำวันให้มันเหมือนเดิมที่สุด อาบน้ำเอง ทานข้าวเอง ไม่ทำตัวให้เป็นภาระ ทุกวันนี้ก็คิดแค่นั้น"
"เพราะคนที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่แล้วอาการไม่เท่ากัน บางคนรักษาตัวไม่กี่เดือนก็หาย บางคนก็รักษาเป็นปี อย่างรุ่นน้องผมที่เป็นโรคเดียวกันนี้ซึ่งเขาอ้วนมาก แต่เขารักษาตัวแค่ 3 เดือนก็หาย หายในที่นี้คือหายเป็นปกติ สามารถเดินได้วิ่งได้ แต่ผมอาจจะเป็นหนัก"
ต้องยิ้มให้กับมัน กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
"ส่วนกำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำคัญที่สุด มาจากคนรอบข้าง เพื่อนฝูง และก็กำลังใจของตัวเอง เราต้องยิ้มให้กับมัน เราต้องคิดถึงแต่ปัจจุบัน คิดถึงคนรอบข้าง ไม่ต้องไปคิดถึงอดีต ไม่ต้องไปคิดถึงอนาคต คิดถึงวันนี้ก็พอ ใช้ชีวิตเราให้เป็นปกติที่สุด"
"หลายคนที่เป็นแบบผมส่วนใหญ่จะเก็บตัว แต่ผมคิดว่าอย่าเก็บตัวเลย ถึงเราจะพูดไม่ชัดมันก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา มันเป็นปัญหาของคนฟัง (ยิ้ม) หรือเราเดินช้ามันก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่มันเป็นปัญหาของคนเดินเร็ว เราไม่ได้ลำบาก อย่าเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเลยครับ เราออกมาข้างนอกเถอะ"
เตรียมกลับมาทำละครอีกครั้ง เพราะเกิดมาเพื่อทำละคร
"เขากำหนดมาเพื่อให้เราทำ เราเกิดมาเพื่อทำละครก็ต้องทำ ทุกวันนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการแก้บทและก็คุยบทกับคนคุมบทอยู่ ถามว่าดูเองทั้งหมดเลยไหม ก็ดูครับ ทั้งดูบท ทั้งพูดคุย แต่จริงๆ การทำงานละครมันคือการรวมตัวของคนเก่งหลายๆ คน ไม่ได้มีแค่ผมทำงานคนเดียว และเชื่อไหมว่าผมทำงานแค่นิดเดียวจริงๆ เพราะทีมงานเขาพร้อมกันอยู่แล้ว"
"วันนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น ถ้าหากคิดเป็นตัวเลขเราก็แค่เพิ่งจะนับได้แค่ 1 หรือ 2 ยังไม่ได้นับถึง 100 ดังนั้นทุกวันนี้ของเราจึงมีแต่คำว่าเดินไปข้างหน้า ต้องโตกว่านี้ วันนี้เราอาจจะประสบความสำเร็จทุกคนชื่นชม แต่เรื่องหน้าคนดูอาจจะด่าเราก็ได้ เราต้องเตรียมใจเอาไว้ด้วยครับ"
แจงละคร "ลายกินรี" เปลี่ยนตัวจาก "ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี" เป็น "ณเดชน์-ญาญ่า" อยู่ที่ความเหมาะสม
"สาเหตุไม่มีเลยครับ คือเรายังในส่วนของโปรดักชั่น ส่วนแคสติ้งจะอยู่ในฝั่งของพี่แดง (ธัญญา วชิรบรรจง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความเหมาะสม วันเวลาที่เปลี่ยนไป มันก็สามารถที่จะเปลี่ยนได้ ไม่ใช่ว่าจะมีการวางแบบนั้นแบบนี้ดีกว่า ไม่มีครับ"