Dispatch สื่อจอมแฉของเกาหลี ที่ตอนนี้บรรดาค่ายเพลงและเหล่าไอดอลพากันขยาดไปตามๆกัน ได้ออกมาเผยข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับบทสนทนาของ "ฮันโซฮี" สาวที่เคยออกเดตและร่วมเสพยากับ "ท็อป บิ๊กแบง" มาแล้วกับ "ยางฮยอนซอก" ประธานค่าย YG Ent. พร้อมกันนั้นยังแฉข้อความแชทของ "ซองฮุน" นักร้องหนุ่มจากวง Winner ที่แชทหา ฮันโซฮี ถามเรื่องการพบกันระหว่างเธอกับ "บี.ไอ" อดีตสมาชิกวง IKON ด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2016 กับข่าวดังที่ว่า ฮันโซฮี อดีตแฟนสาวและผู้ติดต่อหายาเสพติดมาเสพกับ ท็อป BigBang เวลานั้น ฮันโซฮี ถูกจับและตั้งข้อหาจากเจ้าหน้าที่องค์กรปารบปรามยาเสพติด และเรียกตัวเธอสอบสวนเพิ่มเติมจากเหตุการณ์เสพกัญชา ในเวลานั้นเธอได้ยอมรับว่ามีการเสพจริง เมื่อมีการโชว์ข้อความแชทจาก Kakaotalk ที่เป็นหลักฐานชั้นดีเธอก็ได้ก้มศรีษะพร้อมกล่าวขอโทษ และสารภาพเพิ่มเติมว่า บี.ไอ อดีตแร๊ปเปอร์หนุ่มจากวง IKON ก็มีส่วนร่วมกับการใช้ยาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามนี่คือการทำผิดกฏหมายครั้งแรกของฮันโซฮี และเธอก็ได้ยอมรับข้อกล่าวหา และให้การที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ และไม่กลัวที่จะทำลายหลักฐานหรือคิดจะหลบหนีแต่อย่างใด เธอจึงถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการควบคุมตัวใดๆทั้งสิ้น เธอจึงได้ออกจากสถานีตำรวจเวลา 22.14 น.ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลีใต้ ของวันที่ 22 ส.ค. 2016
หลังออกจากสถานีตำรวจ ฮันโซฮี ได้โทรหา K ซึ่งเป็นพนักงานในค่าย YG Ent.ทันที ซึ่ง K คือคนเดียวกันกับที่บอก ฮันโซฮี ว่าให้โทรหาเขาทันทีเมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2016
ฮันโซฮี จึงโทรหา K พร้อมกล่าวว่า "ฉันเพิ่งออกจากสถานีตำรวจ และเพิ่งบอกพวกเขาเรื่อง บี.ไอ"
หลังจากที่ K ได้ยินคำพูดดังกล่าว ก็รีบไปหา ฮันโซฮี ที่บ้านทันทีและรอเธออยู่ที่นั่น โดย K ได้ถามฮันโซฮีว่าเธอได้บอกอะไรกับตำรวจบ้างระหว่างที่โดนสืบสวน จากนั้นเขาได้ไปหาฮันโซฮีที่บ้านอีกครั้งในวันต่อมา คือ 23 ส.ค. 2016 ก่อนจะพาเธอขึ้นรถ และขับรถพาเธอไปที่ตึก YG โดยทันที
ในวันที่ 23 มิย. 2016 ฮันโซฮี ถูกส่งตัวขึ้นไปยังชั้น 7 ของตึก YG Entertainment ซึ่งชั้นนั้นคือออฟฟิศของยางฮยอนซอก ประธานค่าย YG Ent. จากนั้น ยางฮยอนซอก ได้ขอโทรศัพท์มือถือจาก ฮันโซฮี และถามคำถาม เพื่อให้เธอพยายามตอบออกมา และยังมีการขู่บังคับเธอด้วย ทั้งคู่ได้ใช้เวลาในการเจรจากันนานถึง 1.30 ชั่วโมง
"ฉันปิดมือถือแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องปิดด้วยเหมือนกัน ห้ามบันทึกเสียงสนทนาใดๆทั้งสิ้นระหว่างที่เราคุยกัน" ฮยางยองซอก กล่าว
รายงานระบุว่า ฮันโซฮี ทั้งสั่นและกลัวและสิ่งที่เธอคิดอยู่ในเวลานั้นคือเธอจะหนีออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร จนในที่สุดเธอได้มือถือคืนมา หลังจากที่เธอบอกกับพวกเขาว่าเธอต้องโทรหาแม่ และนั่นก็เป็นโอกาสให้เธอได้ถ่ายรูปของ YG มา นั่นคือรูปโปสเตอร์ที่ติดอยู่ในห้องน้ำตึก YG Entertainment
"ฉันได้โทรศัพท์คืนมาเพื่อโทรหาแม่ ฉันเลยเดินออกไปห้องน้ำ ฉันเห็นโปสเตอร์ YG เลยตัดสินใจถ่ายรูปไว้ เพราะฉันคิดว่ามันคงมีสักวันที่ฉันเปิดเผยเรื่องนี้ได้"
ส่วนการมีชื่อของ อีซองฮุน สมาชิกจากวง WINNER เข้ามาเกี่ยวข้องนั้น เพราะเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2016 เขาได้ส่งข้อความหา ฮันโซฮี โดยเขาได้ส่งข้อความถึงเธอเข้าห้องแชทลับ พร้อมกับถามเธอว่า เมื่อไม่นานมานี้เธอได้พบกับ บี.ไอ หรือไม่ พร้อมบอกให่เธอโทรหาเขาเข้าเบอร์ใหม่ทันที
อีซองฮุน : ตอนนี้อยู่ไหน?
ฮันโซฮี : อยู่บ้าน
อีซองฮุน : ไม่นานนี้ได้เจอกับ คิมฮันบิน (บี.ไอ) บ้างป่าว?
ฮันโซฮี : คิมฮันบินเหรอ? ประมาณเดือนนึงที่ผ่านมาเหรอ? นั่นคือไม่นานใช่เปล่า? ถ้าไงก็ ฉันได้เจอเขาประมาณเดือนนึงได้
อีซองฮุน : เฮ้ย ตอนนี้ทำอะไรอยู่
ฮันโซฮี : ตอนนี้กำลังกินแล้วก็ดูทีวี มีอะไรถึงต้องส่งเป็นข้อความส่วนตัวเหรอ?
อีซองฮุน : ฉันกำลังจะบอกอะไรเธอบางอย่าง ที่มันสำคัญมากจริงๆ ตั้งใจฟังแล้วตอบมาให้ไวเลย
ฮันโซฮี : โอเค จะพยายาม
อีซองฮุน : เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวฉันให้เบอร์
ฮันโซฮี : โอเค ได้แล้ว
อีซองฮุน : 01xxxxxxxx โทรมาที
ฮันโซฮี ยังบอกด้วยว่า น้ำเสียงของ ฮันซอฮุน ชัดเจนว่าดูมีเรื่องด่วน โดยซอฮุนบอกเธอว่าผลตรวจของ บี.ไอ.ออกมาเป็นบวก ซึ่งเป็นกาาจัดตรวจหาสารเสพติดที่ทางค่ายเป็นคนจัดขึ้น
"บี.ไอ ถูกจับได้เรื่องเสพยา ซองฮุน บอกว่าบี.ไอ เสพกัญชากับฉัน ฉันเลยบอกว่าเราควรเจอกันด่วนที่สุด เรานัดเจอกันใกล้ๆออฟฟิศ YG Ent. "
ฮันโซฮี ขับรถไปยังจุดที่นัดเจอ และรอ อีซองฮุน แต่พอประตูข้างคนขับเปิด ก็มีคนที่ไม่ใช่ซองฮุนโผล่เข้ามา คนนั้นคือ K เขาจัดการปิดกล่องดำในรถ และยึดโทรศัพท์ฉันไว้
"ผมมาแทนซองฮุน นี่คือความลับที่เกี่ยวข้องกับบี.ไอ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้รีบบอกผมทันที" K กล่าว
Dispatch เอง ยังมีโอกาสได้คุยกับ ยางฮยอนซอก เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ส.ค. 2016 ด้วย
"มันคือเรื่องจิงที่ผมเอาโทรศัพท์เธอไป เพราะผมไม่อยากให่เธอบันทึกเสียงอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนั้นผมค่อนข้างระวังคำพูดตัวเองมากนะ ผมบอกเธอว่า เราตรวจสารเสพติดศิลปินเรา 2 ครั้งต่อเดือน และบี.ไอก็ไม่เคยมีผลออกมาเป็นบวกเลยสักครั้ง ผมบอกเธอว่าถ้าบี.ไอไปพบตำรวจ และผลออกมาไม่เป็นบวก เธอจะโดนโทษหนักเพราะเป็นการใส่ร้าย นั่นเลยเป็นเหตุให้เธอกลัวและจัดการเปลี่ยนคำให้การกับตำรวจ บี.ไอ มีผลตรวจออกมาเป็นลบ 100% แน่นอน ไม่มีทางตรวจเจอสารเสพติดแน่ๆ" ยางฮยอนซอก กล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวจากปากของฮันโซฮีเกี่ยวกับการเจอกันระหว่าง เธอ กับ ยางฮยอนซอก กลับต่างออกไป เธอบอกว่า ยางฮยอนซอก พูดถึงขนาดที่ว่าเขาสามารถกำจัดเบาะแสทุกอย่างเกี่ยวกับยาเสพติดได้ และยังขู่ที่จะทำลายชีวิตเธอด้วย
"ยางฮยอนซอก ยึดมือถือฉันไป แล้วปิดเครื่อง เขาถามฉันว่าฉันพูดอะไรที่โรงพักบ้าง ฉันเลยบอกว่า บี.ไอ เสพกัญชาแล้วก็พยายามซื้อ LSD ยางฮยอนซอกบอกว่า เขาไม่ชอบเลยที่เด็กในค่ายของเขาต้องมาโดนสืบสวน เขาบอกว่าเขาสามารถกำจัดร่องรอยยาเสพติดทุกอย่างในตัวบี.ไอได้ ซึ่งนั่นทำให้ไม่มีทางตรวจเจอสารเสพติดในตัวเขา
ฉันยังจำได้เลยว่า เขาบอกฉันว่า 'เฮ้ ฮันโซฮี! เธอต้องเป็นเด็กดีสิ จะมาเป็นผู้หญิงแย่ๆไม่ได้ ถูกต้องไหม? เธอฝันอยากเป็นนักร้องไม่ใช่เหรอ? งั้นเธอก็ต้องอยู่ในวงการบันเทิง แต่รู้ไหม สำหรับฉันมันง่ายมากเลยที่จะทำลายชีวิตเธอน่ะ'
เขาบอกให้ฉันเปลี่ยนคำให้การ เขาบอกว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่สามารถเห็นรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทั้งหมด เขาบอกฉันว่าเขาควรจะหาทนายให้ฉัน และจ่ายค่าทนายให้ด้วย ฉันกลัวมาก ฉันไม่มีทางเลือก"
ในวันที่ 30 ส.ค. 2016 ฮันโซฮี โดนเรียกเข้าสืบสวนอีกครั้ง และเธอได้เปลี่ยนคำให้การ และเมื่อตำรวจถามเธอเกี่ยวกับบทสนทนา KakaoTalk กับ อีซองฮุน เธอก็ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องยา เธอยังบอกตำรวจด้วยว่า อีซองฮุน ไม่รู้เรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
"บี.ไอ ถูกตรวจพบว่ามีสารเสพติดจากการตรวจหาสารเสพติดที่ YG ได้จัดขึ้น อีซองฮุน เลยมาถามฉันว่าฉันได้เจอกับ บี.ไอ บ้างไหม มันมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ฉันเลยบอกว่าเขาถูกจับได้เรื่องเสพกัญชาแน่ๆ ซึ่งนั่นไม่เกี่ยวกับฉัน"
รายงานระบุว่า ระหว่างที่เธอถูกเรียกสอบสวนอีกครั้ง ทนายที่มาด้วย คือทนายที่ YG จัดหามาให้ ทนายจะคอยห้ามนักสืบไม่ให้ถามในบางคำถาม และเขียนคำตอบของ ฮันโซฮี ใส่กระดาษโชว์ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนดูแทนการปล่อยให้เธอพูดเอง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2019 ที่ผ่านมา ฮันโซฮี ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรม ชี้แจงถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยขอร้องชาวเน็ตอย่างมุ่งโจมตีเธออย่างเดียว แต่ให้แยกแยะให้ออกระหว่างเรื่องคดีกับตัวตนของเธอที่ทำให้หลายๆคนอาจไม่ชอบ
"ตอนนี้ฉันอยู่ต่างประเทศค่ะ ฉันสบายดี ฉันจะกลับเกาหลีในอีก 2 วัน ไม่ต้องห่วง จริงๆแล้ว ฉันไม่รู้เลยว่าชื่อของฉันจะถูกเฉลยออกมาเร็วขนาดนี้ ฉันไม่ได้มาปฏิเสธ แต่ฉันแค่ประหลาดใจแล้วก็กลัว ถึงอย่างนั้น ฉันได้ตัดสินใจทำไปแล้ว เพราะงั้นทุกคนไม่ต้องห่วง แล้วก็ ฉันอยากพูดอีกอย่างคือ จริงอยู่ที่ฉันใช้ชีวิตในแบบที่ฉันต้องการ ทำตัวไปตามความรู้สึกและพูดแย่ๆใส่คนอื่น ฉันเข้าใจเรื่องนี้ดีและก็กำลังสำนึกในการกระทำของตัวเองอยู่ แต่ฉันอยากจะขอให้พวกคุณมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แบบแยกแยะจากตัวตนของฉัน ฉันรู้ดีว่าทุกคนไม่ได้คิดอะไรดีๆกับฉัน และฉันก็รู้ว่ามันเป็นภาพลักษณ์ที่ฉันสร้างตัวตนของฉันขึ้นมาเอง แต่พวกคุณต้องแยกแยะเหตุการณ์นี้ให้ออกสิ อย่ามาโฟกัสที่ฉัน ขอร้องล่ะ"
ฮันโซฮี ยังได้เขียนคอมเมนต์ใต้ภาพเพิ่มเติม ก่อนที่จะลบออกไปว่า
"เพิ่มเติม ฉันไม่ได้มาขอร้องให้ทุกคนช่วยลดโทษให้กับฉัน ฉันพร้อมได้รับบทลงโทษ ทั้งจากเรื่องที่เสพกัญชาและใช้ LSD เมื่อเดือน ส.ค. 2016 รวมถึงเคสเสพกัญชากับ ท็อป BigBang ในเดือน ต.ค. 2016 ที่โดนแฉนั่นด้วย
ฉันไม่ได้เป๋นคนขาย ฉันแค่เป็นคนส่งยา ฉันจ่ายเงินตัวเองซื้อยาจากดีลเลอร์ C ด้วยเงินของฉันเองตามราคาที่เขาแจ้งมา แล้วฉันก็ส่งให้กับคิมฮันบิน (บี.ไอ) ด้วยราคาที่เท่ากัน คนอาจเรียกฉันว่าคนค้ายาแต่ในความเป็นจริงแล้วฉันไม่ใช่ ฉันไม่ได้บวกเพิ่มอะไรเลย ทุกอย่างจะเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ที่ถูกต้องเหมาะสมในภายหลัง
ถ้าการเรียกสืบสวนอีกครั้งเป็นเรื่องของการส่งยาฉันก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและให้ปากคำอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ ยางฮยอนซอก เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้โดยตรงได้ยังไง แถมมาขู่ฉัน และสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งนี่คือกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ แต่เพราะฉันคือคนให้ข้อมูลคนสำคัญ ฉันก็เลยกลัวว่าทุกคนจะพุ่งโฟกัสมาที่ฉันแทน นี่คือสิ่งที่ฉันขอให้ทุกคนมองเคสนี้แบยแยกแยะออกจากประเด็นที่เกลียดชังตัวฉัน
อีกอย่าง ไม่รู้ว่าสำคัญไหม ที่ฉันมาพูดเอาตอนนี้ แต่ฉันจะบอกว่าฉันพยายามห้าม คิมฮันบินมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ...เพื่อบอกเขาไม่ให้เสพ"