"แทค ภรัณยู" โอดเดินแบบเครื่องเพชร 150 ล้าน ไม่เข้ากับตนสักเท่าไหร่ แต่เกรงใจที่ถูกติดต่อมาหลายครั้งแล้ว เผยสักชื่อลูก แต่ไม่สักชื่อเมีย เพราะอนาคตไม่แน่นอน ลั่นโพสต์ลิเกเลิกแล้วไม่ได้เจาะจงใคร โวยทำไมต้องห้ามดาราวิพากษ์การเมือง จ่ายภาษีเหมือนกัน
น่าจะเป็นครั้งแรกที่เห็นหนุ่ม "แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม" มารับงานโชว์เครื่องเพชรมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ในงาน GEMS PEACE BY CHUCHAI LORD OF THE DIAMOND RING ณ ร้าน Gempeace by Chuchai ชั้น M ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน ยอมรับว่าลุคตนอาจจะไม่ค่อยเข้ากับเครื่องเพชรสักเท่าไหร่
"วันนี้มาอย่างมีคุณค่าเลยครับ เหมาะกับเศรษฐกิจตอนนี้มาก เราควรวิ่งหนีเลยไหม (หัวเราะ) จริงๆ ผมชอบดูเพชรนะ แต่ดูไม่ออกว่ากี่กะรัตนะครับ แต่ว่า 150 ล้าน ก็ทั้งชีวิตผมครับ (หัวเราะ) ก็เป็นครั้งแรกไหมที่ใส่อะไรที่มูลค่าเยอะแบบนี้ครับ ครั้งแรก อยากจะถอดเหมือนกัน กลัวจะหาย ถ้าเรื่องเพชรกับผู้ชายหลายคนอาจจะเข้า แต่สำหรับผม ผมว่าผมไม่เข้าครับ มาเป็นเกียรติให้พี่เขา ติดต่อมาหลายครั้งผมก็ไม่ว่าง แต่เขาให้เกียรติเรามาเดิน แล้วก็ได้สวมแหวนมูลค่า 150 ล้านครับ"
เผยเตรียมที่จะสักชื่อลูกเอาไว้นานแล้ว แต่จะไม่สักชื่อภรรยาแน่ๆ เพราะคิดว่าอนาคตเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอน"ลูกชื่อภารันครับ แล้วก็สักวันเดือนปีเกิดครับ แน่นอนว่าผมก็สักอะไรที่มีความหมาย ความชอบ ชื่อพ่อก็ไปแล้ว ชื่อลูกก็ไปแล้ว เป็นความตั้งใจครับ ว่าจะสักให้เขา ผมเตรียมให้เขาอยู่แล้วเป็นที่ข้อมือ ถ้ามีลูกผมสักข้อมือแน่นอน คือข้างซ้ายมันเหมือนเชื่อมโยงหัวใจ แล้วคิดว่าสักชื่อลูกดี เวลามองหรือคิดถึงก็มองชื่อเขาครับ ก็เอาไว้คอยเตือนว่าพ่อต้องทำงานเยอะๆ ให้ลูกนะครับ (หัวเราะ)"
"ถามว่าหายเห่อไหม ยังไม่หายครับ ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจอยู่ครับ อีกสักพักนึงครับ แต่ถามว่าจะสักชื่อภรรยาไหม คือผมจะไม่สักชื่อแฟนหรือภรรยา เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ชื่อพ่อเราสักได้ พ่ออยู่กับเราตลอดชีวิต ลูกเราสักได้อยู่กับเราตลอดชีวิต ภรรยาหรือแฟนผมไม่ครับ มีความคิดตั้งแต่ต้นแล้วครับ"
"ถามว่ากลัวภรรยาน้อยใจไหม ผมบอกเขาอยู่แล้วครับ เราพูดเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มคุยกันแล้ว เราชัดเจนอยู่แล้วครับ ถามว่าอีกข้างเหลือไว้สักชื่อลูกอีกคนไหม ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน ไว้ก่อนครับ เอาคนนี้ให้รอดดีกว่าครับ (หัวเราะ) ตอนนี้บอกตรงๆ ยังไม่กล้าอาบน้ำให้เขาเลย เพราะกลัว แต่แฮปปี้ครับ"
"ช่วงนี้ก็ทำงานค่อนข้างหนักครับ ก็ต้องเผื่ออนาคตเขาครับ อย่าลืมเวลามีลูกก็ต้องเตรียมค่าเทอม ค่าโน่นค่านี่ ต้องเตรียมเยอะเหมือนกัน แต่ผมทำงานหนักอยู่แล้ว ตอนนี้ก็อยากทำให้หนักกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาครับ ผมว่าพ่อทุกคนแหละ ทำงานหนักเพื่อลูก อยากให้ลูกสบายครับ แพลนธุรกิจใหม่ก็ยังไม่มี ผมว่าถ้าลงไปตอนนี้เจ๊งแน่นอน"
เผยกรณีโพสต์ "ลิเกเลิกแล้ว แยกย้ายกันทำมาหากินต่อไป" ไม่ได้เจาะจงใคร ยันโพสต์เรื่องการเมืองแต่ไม่เข้าฝ่ายไหน ขอเป็นกลาง "คือเรื่องการเมืองแน่นอนดาราทุกคนดู แต่เราเป็นกลางๆ ไว้ เราไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน ฝ่ายไหนดีก็ดี ฝ่ายไหนไม่ดีก็ดึงสตินิดนึง เพราะว่าเงินภาษีทุกบาทคือของเรานะครับ คือเวลาผมโพสต์ ผมโพสต์สนุกสนาน ผมไม่ได้เจาะจงใคร ถ้าเจาะจง ก็แปลว่าเจาะจง ก็ไม่ได้มีคนมาดรามากับผมนะ เขามาปลดปล่อยมากกว่า ก็ไม่เป็นไร อยากพูดอะไรพูดไป กลัวใครชักจูงไหม ก็ไม่ครับ ให้คนขำๆ ไป ไม่อยากให้คนเครียด"
"ถามว่ารู้สึกยังไงที่บอกว่าเป็นดาราไม่ควรแสดงความเห็นเรื่องการเมือง แน่นอนเราเป็นคนของประชาชน แล้วเสียภาษีเหมือนกัน บางครั้งก็มีจุดยืนของเรา บางครั้งก็อยากพูดอะไรบ้าง บางครั้งก็น่าเห็นใจ เราไม่อยากอยู่ฝั่งไหน แค่อยากให้ประเทศชาติดำเนินพัฒนาต่อไป ทุกคนต้องทำมาหากินต่อไป ผมก็ยังอยากแสดงความเห็นด้านนี้อยู่นะ อะไรที่เอาอีกแล้วน้า บางครั้งก็ต้องมีนิดนึง จะซื้ออะไรคิดถึงพวกเราด้วย เราเป็นคนหาเช้ากินค่ำครับผม (หัวเราะ)"
