"แอฟ ทักษอร" เผย "น้องปีใหม่" เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น ไม่ควรให้รับรู้อะไรที่ไม่ควรรับรู้ บังคับลูกไม่ได้ก็ต้องคอนโทรลตัวเอง ไม่สนเพจตัดต่อคำพูดตัดพ้อเรื่องรัก แต่ขอความกรุณาอย่าตัดต่อเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ ยันไม่เข็ดรัก แต่ไม่พร้อมมีใครในตอนนี้ ขำลูกยุให้มีแฟนใหม่ ถ้าลูกไม่ทิ้ง แม่พร้อมโสดตลอดไป รอผู้กล้ามาจีบ
กลายเป็นแม่ลูกที่สนิทกันมาก เหมือนเป็นเพื่อนกันไปแล้ว สำหรับ "แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" และ "น้องปีใหม่" โดยเจ้าตัวเปิดใจระหว่างมาร่วมงานทอล์กโชว์สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ และแถลงวิสัยทัศน์ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2562 ณ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 9 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เผยทริปล่าสุดมีความสุข
"แฮปปี้ค่ะ มีความสุขค่ะ ก็เรียกว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปพักผ่อนกับครอบครัว อันนี้เหมือนเป็นช่วงที่ลูกปิดเทอม เป็นทริปสุดท้ายก่อนเปิดเทอมค่ะ ปีใหม่แฮปปี้มากอันนี้ไปอยู่แบบสบายๆ ไม่ได้มีโปรแกรมเที่ยวเร่งรีบ"
"พอเขาโตก็เหมือนเพื่อนเที่ยวอีกคน ก็เลยมีความสุขไปอีกแบบ คิดว่าตอนนี้เขาเพิ่งอายุ 4 ขวบ บางจังหวะเรายังรู้สึกเหมือนไปกับเพื่อน เราไม่ได้รู้สึกเหงาว่าไปแล้วแบบคุณพ่อคุณแม่เขาอยู่คู่กัน แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าโดดเดี่ยวแล้วมีลูกไปอีกคน แต่รู้สึกว่าเหมือนเป็นเพื่อนกันค่ะ นี่ขนาด 4 ขวบนะถ้า 14 คงรู้สึกว่าเป็นเพื่อนแม่จริงๆ"
ไม่ต้องรอเที่ยวด้วยกันจนถึงบั้นปลายชีวิต
"ไม่รอบั้นปลายแล้วค่ะ ตอนนี้แล้วค่ะ ก็เดี๋ยวเร็วๆ นี้มีแพลนต่อไป ตอนนี้ถ้ามีเวลาถ้าเป็นไปได้ก็อยากใช้เวลาอยู่กับเขาเยอะๆ เวลาอยู่กรุงเทพฯ ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน นอนด้วยกันทุกคืน แต่มันไม่เหมือนเวลาที่เราไปอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะทริปนี้แอฟทิ้งมือถือเบอร์ที่ใช้ประจำเลย ใช้เบอร์ต่างประเทศเหมือนตัดโลกทุกอย่างเลย รู้สึกว่ามันเป็นเวลาของครอบครัวจริงๆ เลยยิ่งมีความสุข"
"ปีใหม่ชอบเที่ยวมากเลยค่ะ เขาชอบอยู่เอาท์ดอร์ ยิ่งเวลาไปต่างประเทศอาจจะดีอย่างหนึ่งที่อากาศมันดี ไม่มีมลพิษ เขาก็มีความสุขมาก"
เผยเริ่มชอบเลียนแบบ
"เหมือนเหรอ ไม่น่าเหมือนนะ คือเขาจะชอบล้อ เขาก็จะชอบฟัง ช่วงวัยนี้จะชอบฟัง เวลาคุณแม่พูดโทรศัพท์ก็จะมีประโยคเดิมๆ อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เขาก็เลยเลียนแบบเหมือนเป็นประโยคติดปากแม่ แต่เป็นในลีลาของเขาก็จะเยอะๆ หน่อย เลยกลายเป็นคลิปที่คนแชร์เยอะ เลยอ๋อ คนชอบสาวตลกนี่เอง"
เป็นวัยที่ผู้ใหญ่ต้องระวัง ไม่อยากให้รับรู้อะไรที่ไม่ควรพูด
"ก็ตกใจนิดนึง หลังๆ ก็จะเริ่มจับได้ว่าลูกชอบแอบฟัง ถึงบอกว่าถึงวัยนึงจะพูดอะไรต้องค่อนข้างระมัดระวัง ในช่วงวัยเด็กเล็กเราไปอะไรกับเขามันไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่อยากให้เขารับรู้เรื่องอะไรที่ไม่ควรจะรับรู้ เราไม่ได้ปิดกั้นที่เด็ก เราควรจะคอนโทรลที่เรา"
"เขาจะชอบฟังเวลาผู้ใหญ่คุยกัน เป็นวัยที่เขาอยากรู้อยากเห็น แล้วก็เลียนแบบ ก็ต้องระวังพวกโซเชียล ไม่ปล่อยให้ดูเอง อย่างไอจีถ้าเขาเล่นเอง หยิบมือถือไปเปิดดูเอง บางทีเราไม่ได้ฟอลโลว์ใครก็แล้วแต่ มันจะมีหน้ากลางๆซึ่งมันอาจจะมีภาพอะไรที่ไม่เหมาะสมกับเด็กเล็กได้ จะเป็นสิ่งที่สอนเขาไว้ตลอดเลยว่ามือถือคุณแม่ห้ามหยิบไปเล่นเอง เขาก็จะรู้ ไม่ใช่อยู่ๆ จะหยิบไปเล่นเองได้ เขาต้องขอก่อน"
"เขาต้องเคยหยิบโทรศัพท์มาเล่นอยู่แล้ว เขาก็ต้องทราบว่าอะไรควรหรือไม่ควร พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นก่อนเราถึงบอกเขาว่าไม่ได้นะ เพราะมันไม่ใช่ของเล่น ฉะนั้นห้ามเอาไปเล่นเอง ถ้าเอาไปถ่ายอะไร แอฟก็เปิดโหมดแอร์เพลนโหมดไว้เลย ถ้าเขาอยากถ่ายรูป"
หวั่นมีคนซื้อมือถือให้ อยากให้ใช้ช้าที่สุด ไม่ได้ก่อประโยชน์
"กลัวมากเลย กลัวคนอื่นซื้อให้ (หัวเราะ) แต่แอฟยังไม่ให้ใช้ ซึ่งแอฟเองก็ไม่แน่ใจว่าเด็กสมัยนี้เขาเริ่มใช้กันกี่ขวบ แน่นอนความเป็นแม่ก็อยากจะให้ลูกใช้ให้ช้าที่สุด เพราะรู้สึกว่ามันก็คงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร"
เมินเพจตัดต่อคำพูดตัดพ้อเรื่องความรัก
"อยู่ตรงนี้ก็คงต้องยอมรับมัน ถ้าไม่ทำได้ก็จะดีกว่า มันไม่ใช่คำพูดแอฟจริงๆ แต่ถ้ามันเป็นบทสัมภาษณ์ของแอฟจริงๆ ก็พร้อมยอมรับผิดชอบทุกๆ คำพูดที่ได้พูดออกไป แอฟรู้สึกว่าแอฟเองก็มีเหตุผลในทุกๆ ความเห็นที่ออกไป ถ้าไม่เข้าใจหรือเห็นต่างยังไงก็พร้อมยอมรับทุกความคิดเห็น"
ถ้าสะเทือนใจใครก็ขอโทษ แต่มั่นใจไม่เคยพาดพิง ที่ผ่านมาหลีกเลี่ยงที่สุดแล้ว
"ถ้าเป็นคำพูดของแอฟจริงๆ ส่วนใหญ่แอฟก็ระมัดระวังคำพูดอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้ายังกระทบกระเทือนจิตใจใครก็ต้องขอโทษ แต่แอฟคิดว่าทุกๆ ประโยคที่ออกไปแอฟไม่เคยพาดพิงถึงใคร แน่นอนตลอดมาพยายามหลีกเลี่ยงที่สุดด้วยซ้ำ แม้ว่าจะโดนโยงแค่ไหนก็พยายามจะหลีกเลี่ยง คือไม่ใช่อะไรนะ เราสามารถจะรับผิดชอบได้เฉพาะการกระทำและรับผิดชอบได้แค่คำพูดของแอฟเท่านั้น เลยไม่อยากออกความเห็นเกี่ยวกับคนอื่น"
ลั่นเพจตัดต่อคำพูด ถ้าไม่สร้างสรรค์อย่าทำดีกว่า
"ถึงจะเป็นคำพูดของแอฟเองแอฟก็ไม่ทราบเรื่องเลย ถ้าเกิดว่ามันไม่ได้ไปในทางสร้างสรรค์หรือว่ามันไม่ใช่คำพูดของแอฟ ถ้าจะกรุณาไม่ทำก็ดีค่ะ แอฟก็รู้ว่าเราไม่มีสิทธิ์บังคับใคร เอาเป็นว่าถ้าแฟนคลับเข้าใจนะคะ"
ไม่ปิดประตู แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ชี้ไม่เข็ด ทุกอย่างเป็นบทเรียน ดีขึ้นหรือซ้ำรอยเดิมแล้วแต่โชคชะตา
"ก็ต้องอัปเดตกันเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ความคิดเห็นของแอฟตอนนี้ก็คือเราไม่ได้ปฎิเสธ และไม่ได้รู้สึก ถามว่าเข็ดไหม ไม่เข็ด คนเรามันมีได้ทั้งประสบการณ์ด้านดีและไม่ดี ทุกอย่างถือเป็นประสบการณ์และบทเรียนชีวิต ฉะนั้นครั้งต่อๆ ไปมันก็ไม่ใช่ว่าจะลงเอยแบบนี้ หรือมันอาจจะซ้ำรอยเดิมอีกก็ได้ อันนี้มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจและโชคชะตา มันไม่มีอะไรไปควบคุมได้ แอฟก็เลยรู้สึกว่ายังไงแอฟไม่ได้จะปิดประตูเรื่องนั้น แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้นเอง"
"ถามว่ามีผู้กล้าเข้ามาไหม ต้องกล้าเลยใช่ไหม (หัวเราะ) ไม่ต้องกล้ามากก็ได้ เดี๋ยวจะไม่มีใครกล้าเข้ามาเลย ไม่กล้าคิดเลยว่าคนต่อไปต้องยังไง คือมันไม่ได้อยู่ในความสนใจตอนนี้ ภายใน 1-2 ปีนี้เรื่องตื่นเต้นสำหรับแอฟยังเป็นเรื่องของการดูแลลูก แล้วก็เรื่องงานว่าแอฟจะกลับมาเมื่อไหร่ ยังไงในรูปแบบไหนยังไงถึงจะดี อันนี้เป็นสิ่งที่โฟกัส ตอนนี้ก็ไม่มีเข้ามาค่ะ"
เผยปีใหม่เริ่มเชียร์ให้ดูหนุ่มๆ แค่ลูกไม่ทิ้งตน ไม่จำเป็นต้องมีใคร
"เขาก็ขำๆ ของเขา พฤติกรรมพวกนี้มันทำให้แอฟรู้สึกสบายใจว่าลูกเขาไม่ได้ดรามาอะไรพวกนี้ เขาก็โอเพ่นจริงๆ เขาอาจจะเห็นคุณตาคุณยายมีตั้ง 2 คู่ที่เขาสวีตกันเหลือเกิน ลูกก็อาจจะเห็นภาพอะไรแบบนั้จ แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเรื่องจริงเกิดขึ้นจะเป็นยังไง ตอนนี้เขาอารมณ์เหมือนเพื่อนเหมือนพี่สาวว่าหมามี๊ไม่มีเหรอ หนูยังมีแฟนแล้วเลย แต่ก็เด็ก 4 ขวบ ก็ขำๆ ไม่มีอะไร แค่เล่าให้ฟังตรงนี้ว่าแม่รู้สึกสบายใจว่าลูกเขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกหรือเรื่องไม่ดี ก็รู้สึกว่าลูกมีสุขภาพจิตที่ดี มีสภาพจิตใจดี แค่นี้แม่ก็แฮปปี้แล้ว คือถ้าลูกไม่ทิ้งแม่ไปไหนแม่ไม่ต้องมีใครก็ได้"
