“แอม เสาวลักษณ์” เผยถูกด่าขึ้นอี ไล่ให้ออกจากประเทศ อยากบอกว่า “ไม่ใช่กูค่ะ กูไม่ได้ไล่ใคร” ไม่ใช่ “อุ๊ หฤทัย” รักสงบ เผยอยู่มาจนหัวหงอกเพิ่งถูกด่าอี ท้อใจจนอยากเกษียณ ทำมานานแต่ไม่มีชื่อเสียง
ก่อนหน้านี้เรื่องการเมืองระอุ ทำเอา “แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” ก็โดนหางเลขไปด้วย เหตุถูกนำภาพใบหน้าไปใช้ประกอบข่าวที่ นักร้องสาว “อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี” โพสต์ด่า ปิยบุตร แสงกนกกุล พรรคอนาคตใหม่ ยกย่องทรราชย์และไล่ให้ออกไปนอกประเทศ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนแอมต้องออกโรงชี้แจงและไปลงบันทึกประจำวันเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี
ล่าสุด แอมเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่ารู้สึกงง เพราะตนกับอุ๊หน้าไม่เหมือนกันเลย วอนนักข่าวรุ่นใหม่เกิดไม่ทันก็อย่าจิ้มมั่วๆ ขอให้เช็กข่าวด้วย เพราะตนได้รับฟีดแบ็กไม่ดี ถูกคอมเมนต์ด่าจิกเรียกอีในไอจีกระจาย
“จริงๆ แอมกับอุ๊ (หฤทัย) หน้าไม่ได้เหมือนกันเลย (หัวเราะ) จำง่ายๆ ว่าแอมมีเขี้ยวเวลายิ้มนะคะ อุ๊ไม่ได้มีเขี้ยวนะคะ เพียงแต่ว่ามันเป็นไปได้ตรงที่ว่าออกอัลบั้มด้วยกัน เป็นนักร้องผมสั้นเหมือนกัน ซึ่งเป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่เขาจะไว้ผมยาวกัน ก็จะมีผมสั้นที่แนวทอมๆ แมนๆ อยู่สองคน ก็อาจจะจำผิดได้
อย่างรุ่นแม่เราก็เจอมาบ่อยแล้วที่คนจำสลับกันระหว่างแม่เม้าส์ (สุดา ชื่นบาน) กับแม่แดง (ฉันทนา กิติยพันธ์) เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องไม่แปลกประหลาด เพียงแต่ว่าสำหรับเราปัจจุบันนี้มันมีโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อก่อนรุ่นแม่ไม่มี
แล้วสมัยนี้คนดุเดือดเหลือเกิน กับคอมเมนต์ต่างๆ นานา เราเลยรู้สึกว่าถ้าอยากจะเขียนข่าวถึงใคร อยากให้เช็กนิดนึงว่าคนที่เราเขียนถึงหน้าตาเขาเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าเกิดไม่ทันแล้วจิ้มมั่วไป ครั้งแรกก็ไม่อะไร ต่อมามีครั้งที่สองเราก็คิดว่ามันจะมีมาอีกไหม ซึ่งเรารู้สึกว่าคนเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เราไม่อยากถูกจำสลับกับเพื่อน ทำไมทักทีไรทักฉันเป็นคนอื่นทุกทีหรือทักคนอื่นเป็นฉัน
เราอยู่วงการมาตั้งแต่เด็ก แล้วเราเองก็แก่กว่าอุ๊ตั้ง 10 ปี เราเข้าวงการมาก่อน ทำมาตั้งแต่ สาว สาว สาว จนมาเป็นศิลปินเดี่ยวตั้งนานก่อนที่จะมาทำอัลบั้มแอมอุ๊ พอมีครั้งที่สองที่เขาเขียนผิดก็มีนอยด์ๆ บ้าง เขาไม่รู้จักเราจริงๆ เหรอ ที่ทำมาทั้งหมดไม่มีชื่อเสียง (หัวเราะ) วันนั้นที่โพสต์ พอดีทำงานมาเหนื่อยๆ ยอมรับในฐานะปุถุชนว่าเราก็หงุดหงิด เช็กหน่อยดีมั้ยก่อนจะลงอะไร”
ท้อใจ จนอยากเกษียณตัวเอง
“พอดีเป็นช่วงที่เราทำงานเยอะ บางวันเราภูมิต้านทานสูงเราก็ไม่ได้สนใจว่ามันเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร แต่บางวันที่เราเหนื่อยมันจะหงุดหงิดง่ายเป็นธรรมดา พอเราเหนื่อยในบางครั้งบอกตัวเองว่าพอแล้ว ฉันไม่อยากทำงานนี้แล้ว ฉันเหนื่อย ฉันน่าจะเกษียณแล้วไหม แต่มันยังมีการตอบรับต้อนรับของแฟนเพลงที่ยังมีอยู่เสมอ ให้กำลังใจเราตลอด สื่อยังรักเราอยู่ มันก็เลยไม่ได้เกษียณสักที ยังรู้สึกว่าตรงนี้มันยังน่าอยู่ แต่พอมาเจออะไรแบบนี้คล้ายมันไปสะกิดความคิดของเราที่อยากจะเกษียณว่าไม่ทำดีกว่าแล้วไหม ท้อใจ”
“ไม่ใช่นอยด์ว่าจำเราไม่ได้ การจำเราไม่ได้ไม่เป็นไรนะ เป็นธรรมดาเด็กเกิดรุ่นหลังก็จำไม่ได้เป็นธรรมดา จุดของเราที่รู้สึกนิดเดียว ก่อนที่เราจะเขียนข่าวถึงใครเช็กนิดนึงว่าคนที่เราเขียนถึงเขาหน้าตาเป็นยังไงแค่นั้นเอง ถ้าไม่งั้นก็เขียนถึงคนที่คุณรู้จักหน้าดีกว่าไหม คือรับคำสั่งจากหัวหน้ามา แต่น้องไม่รู้ว่าคนที่เขียนถึงหน้าตาเป็นยังไง มันเป็นธรรมดาที่ไม่ใช่แค่เราคนเดียวว่ามาเขียนถึงเราแล้วทำไมใส่รูปคนอื่น หรือบางทีเขียนเรื่องของคนอื่นแต่มาใส่รูปเรา (หัวเราะ)”
การเมืองก็ระอุ และตนก็ไม่ได้โผงผาง ต่างจาก “อุ๊ หฤทัย” รักสงบ ไม่ด่าใคร
“ช่วงนั้นการเมืองก็ค่อนข้างระอุอยู่นะ เราก็แตกต่างจากอุ๊ เราไม่ได้คิดเหมือนกันนะคะ ไม่ได้แปลว่าใครเลือกพรรคไหนนะ ไม่ได้เลือกข้างแต่ว่าวิธีการแสดงออกต่อสื่อของเราแตกต่างกัน เพราะแอมจะเป็นคนไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือถ้าจะแสดงคือเราเป็นนักเขียน เราก็มักจะมีวิธีเขียนอะไรที่มันอ้อมๆ แต่อุ๊เขาจะเป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ซึ่งวิธีการคิดวิธีการสื่อของเราก็ต่างกันอยู่แล้ว
มันไม่ใช่เข้าใจผิด แอมไม่ได้กลัวว่าแฟนคลับใครจะมาตีหัว เพียงแต่ว่าถ้ากลัวเข้าใจผิดก็จะกลัวการเข้าใจสลับกันมากกว่าว่าวิธีการแสดงออกของเรา ตรงนี้ที่เรามายด์มากกว่าเพราะเราเป็นคนรักสงบ ไม่ด่าใคร ไม่อยากยุ่งกับใคร”
เผยต้องชี้แจงเพราะโดนคอมเมนต์ถล่ม อยากบอกว่าไม่ใช่กู กูไม่ได้ไล่ใคร
“อันนี้คือโดนไงคะ ก็เลยต้องแถลงกันหน่อย ช่วงนั้นที่อุ๊เขาโพสต์ว่าถ้าใครเป็นแบบนี้ก็อย่าอยู่ประเทศไทยเลย ในไอจีของเรามันก็มีคนเข้ามา อีแอม ออกไป ก็อยากจะบอกว่าไม่ใช่กู (หัวเราะ) กูไม่ได้ไล่ใคร”
ลงบันทึกประจำวัน ปกป้องชื่อเสียง แต่ไม่เอาเรื่องใคร
“ก็ไปลงบันทึกประจำวัน แต่ไม่ได้ว่าจะเอาเรื่องเอาราวกับใครนะ แต่เราต้องแสดงความชัดเจน ชี้แจงให้ทราบว่าดิฉันเสาวลักษณ์ ลีละบุตร ดิฉันไม่เคยขับไล่ใคร คืออุ๊ก็มีสิทธิในการแสดงออก เขาก็ไม่ได้ผิด แต่แอมก็มีสิทธิเหมือนกันในการที่จะปกป้องชื่อเสียงของตัวเองเหมือนกัน ต่างคนต่างมีสิทธิเท่าๆ กัน คือเราอยู่วงการมาจนหัวหงอกแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาโดนเรียกอีแอม (หัวเราะ) อีแอม มึงสิออกไป ไม่ใช่กู”
“คือเราจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคอมเมนต์เลยนะคะ เราจะเฉยๆ ไม่เป็นไร แต่แอมจะชี้แจงกับสื่อเอาให้มันชัดเจน จะไปต่อล้อต่อเถียงกับพวกนั้นซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้นั่งอยู่หน้าคีย์บอร์ด เราก็โพสต์ชี้แจงของเราไปว่าวิธีการแสดงความคิดแบบนี้ไม่ใช่เรานะ เราไม่ได้ทำอย่างนี้ ถ้าเป็นเราจะเขียนอย่างอื่น แต่ถ้าเป็นอุ๊ทำก็ไม่ได้ผิดเพียงแต่มันเป็นคนละคนเท่านั้นเอง ลงก็ลงให้ถูก”
