xs
xsm
sm
md
lg

ดรามาชีวิต “บริทนีย์ สเปียร์ส” ดั่งถูกจองจำหาเงินเยี่ยงทาสแต่แทบไม่ได้ใช้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหากาพย์ชีวิตของ “บริทนีย์ สเปียร์ส” นักร้องดังที่เคยมีชีวิตที่โชติช่วงที่สุดในยุค 90 และดิ่งลงเหวได้แบบสุดๆในปี 2007 ที่พยายามฟื้นฟูสภาพจิตใจจนกลับมายืนบนเวทีได้อีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน...

แต่รู้กันหรือไม่ว่ามีการกล่าวหาว่าเบื้องหลังการกลับคืนเวทีครั้งนี้ของอดีตสาวที่เคยขึ้นชื่อว่า “ราชินีเพลงป็อป” ( Queen of Pop ) นั้นเป็นเพราะเธอถูกจองจำและแสวงหาผลประโยชน์จากคนใกล้ตัว โดยเฉพาะคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “พ่อ”
...
บำบัดอีกครั้ง?
บริทนีย์ สเปียร์ส ที่ห่างหายจากวงการไปนานได้กลับมาเปิดการแสดง Piece of Me ที่ แพลเน็ต ฮอลลีวูด ในเวกัสนานกว่า 4 ปี โดยเสร็จสิ้นตารางโชว์ลงในปี 2017 พร้อมกับการออกเดินสายทัวร์โชว์ดังกล่าวไปในหลายๆที่ทั่วโลก ซึ่งหลังตารางงานจบลง บริทนีย์ ตั้งใจจะพักผ่อนร่างกายและจิตใจโดยไม่ขอรับงานอีก

แต่ทาง พ่อ และ ผู้จัดการ มองว่าบริทนีย์ จะสูญเสียรายได้มหาศาลจึงขอให้เธอเซ็นสัญญาต่อทันที พร้อมเตรียมแสดงโชว์ชุดใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Domination ที่ พาร์ค เธียเตอร์ ในลาสเวกัส โดยมีกำหนดแสดง 35 รอบและเริ่มโชว์วันแรกในวันที่ 13 ก.พ.2019 แต่แล้วทุกอย่างกลับต้องถูกประกาศยกเลิกการแสดงไปเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ท่ามกลางความงุนงงของแฟนๆว่าเกิดอะไรขึ้น

โดยเวลานั้นสิ่งที่อยู่ตามหน้าสื่อได้รายงานอย่างพร้อมเพรียงกันว่าเหตุที่ บริทนีย์ ยกเลิกการแสดงเพราะต้องการใช้เวลากับครอบครัวเนื่องจาก เจมี สเปียร์ส พ่อของ บริทนีย์ ป่วยหนักเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากอาการลำไส้แตก จนทาง MGM ที่ลงทุนกับโชว์ครั้งนี้ของ บริทนีย์ ไปหมดแล้ว ยังต้องออกมาแถลงขอให้ เจมี ฟื้นตัวไวๆและเคารพการตัดสินใจของ บริทนีย์ สเปียร์ส ที่เลือกครอบครัวเป็นหลัก

จนกระทั่งเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แฟนคลับของบริทนีย์ สเปียร์ส ต้องตกใจไปตามๆกันเมื่อนักร้องสาวออกมาเปิดเผยว่าเธอเข้ารักษาในสถานบริการรักษาผู้ป่วยทางจิต โดยเธอไม่ได้บอกเล่าถึงรายละเอียดใดๆ มีแต่แถลงการณ์ที่เผยเพียงว่า เธอแค่อยากใช้เวลาส่วนตัวเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจเท่านั้น จึงมีการคาดเดาจากแฟนๆว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้โชว์ที่ลาสเวกัสอันเป็นรายได้มหาศาลของ บริทนีย์ ต้องถูกยกเลิกไปอย่างไม่มีกำหนด

การออกมาให้สัมภาษณ์ของคนใกล้ชิดก็ทำให้แฟนๆ ยิ่งเชื่อเข้าไปอีกว่า บริทนีย์ น่าจะอยู่ในอาการที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยคนที่ออกมายืนยันข่าวการเข้าบำบัดครั้งนี้ก็คือ ลาร์รี ลูดอร์ฟ ผู้จัดการส่วนตัวที่โดนจ้างแบบเข้าๆ ออกๆ ให้มาทำหน้าที่นี้นับตั้งแต่ปี 1999 โดยเขาเผยกับทาง TMZ เองว่า “ในฐานะคนที่คอยดูแลงานให้บริทนีย์มาตลอด ผมและทุกคนที่ร่วมงานกับบริทนีย์ ได้รับการแจ้งข่าวไม่สู้ดี ซึ่งสิ่งที่ผมรู้ชัดๆมีอยู่อย่างหนึ่งคือ บริทนีย์จะไม่กลับไปโชว์ที่เวกัสแล้ว และไม่ใช่เร็วๆนี้ คือเป็นไปได้ว่าอาจไม่กลับไปอีกเลย”

สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เองที่ทำให้แฟนๆและสื่อทั่วโลกต่างพากันตั้งคำถามว่า สภาพจิตใจของ บริทนีย์ อยู่ในภาวะวิกฤติเช่นนั้นเลยหรือ?? ถึงกับยอมปฏิเสธรายได้หลักพันล้านบาทต่อปีกับการแสดงที่เวกัส ทั้งๆที่โชว์ของบริทนีย์ มีสถิติเป็นโชว์ที่ดีที่สุดในเวกัสถึง 3 ปีซ้อน และค่าตัวของเธอแซงหน้า ซีลีน ดิออน เจ้าแม่ที่เคยกวาดรายได้มหาศาลในลาสเวกัส จนขึ้นไปสู่อันดับ 1 ศิลปินที่มีค่าตัวต่อการโชว์หนึ่งครั้งแพงที่สุด


2007 จุดเริ่มต้นแห่งความตกต่ำ
ถ้าดูจากอดีตที่ผ่านมาของ บริทนีย์ ความบอบช้ำทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อปี 2007 ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกที่ยากจะลืมได้เช่นกัน เพราะตอนนั้นเธอต้องหย่าขาดกับ เควิน เฟเดอร์ไลน์ ซึ่งทำให้เธอถึงกับเสียศูนย์ และสูญเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกชาย 2 คนให้กับอดีตสามีพร้อมกับจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ทั้งลูกและอดีตสามีอีกจำนวนมหาศาล

เรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นช่วงที่ดำดิ่งที่สุดในชีวิตของนักร้องสาว ถึงขนาดเป็นเหตุให้ บริทนีย์ ถูกจัดอยู่ในประเภทบุคคลที่ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่างๆทั้งเรื่องกฏหมาย, การเงิน, การแพทย์ และการทำงานเองได้ ส่งให้ เจมี สเปรียส์ พ่อของเธอต้องเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์คอยดูแลทรัพย์สินและตัดสินใจแทนทั้งหมด

จึงเกิดเป็นคำถามว่า หรือสิ่งเหล่านี้ยังคงกระทบจิตใจของบริทนีย์เลยทำให้อาการป่วยของเธอยังไม่หายไป?

อย่างไรก็ตาม การเข้าบำบัดครั้งนี้ของนักร้องสาวดูค่อนข้างจะย้อนแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตปัจจุบันของ บริทนีย์ เสียเหลือเกิน เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริทนีย์ เดินหน้ามีความรักครั้งใหม่หลายต่อหลายครั้ง และยังใช้เวลาออกไปเที่ยวพักผ่อนกับลูกๆและแฟนหนุ่มอยู่บ่อยๆ แถมยังทำงานของตนเองได้เป็นอย่างดีจนกลับมารุ่งเรืองและลบคำสบประมาทที่เคยมีคนดูถูกว่าชีวิตในวงการบันเทิงของบริทนีย์ได้จบเห่ไปแล้วลงได้

แต่ถึงชีวิตดูจะแฮปปี้ดี ที่ผ่านมาศาลยังคงให้พ่อของบริทนีย์ดูแลมรดกลูกสาวต่อไป และศาลยังตัดสินไม่ให้เธอได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกแบบเต็มที่แม้แต่สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกแบบ 50-50 กับอดีตสามีก็ยังไม่ได้รับอนุญาตจากศาลเช่นกัน

พ่อผู้ต้องสงสัย?
ด้วยเหตุผลดังกล่าวและหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดจากเหล่าแฟนเพลงของบริทนีย์ขึ้น โดยระบุว่า "เจมี สเปียร์ส" นี่แหละคือคนที่บังคับกักขังให้เธอเข้าไปรักษาอาการจิตเวช ไม่ใช่เกิดจากความเต็มใจของเธอเอง

เมื่อเธอปฏิเสธ เจมี ก็เลยจัดการยกเลิกการแสดงที่เวกัสและจับเธอเข้าสถานบำบัดเพื่อกักบริเวณ พร้อมกับฟันธงด้วยว่าเขาน่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างแยบยลที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทางกฎหมายและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ตัดสินให้ บริทนีย์ ยังคงเป็นผู้ไร้ความสามารถต่อไป

ไม่เพียงเท่านั้น ว่ากันว่าแม้แต่แถลงการณ์ต่างๆ ของบริทนีย์ที่ออกผ่านทางต้นสังกัดหรือตัวแทนของเธอที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่น่าจะใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของนักร้องสาวแต่ถูกเขียนโดยบุคคลอื่นทั้งสิ้น และนั่นเองที่ทำให้เกิดกระแส FREE Britney ขึ้น

ทั้งนี้เหตุผลที่ทำให้พ่อของนักร้องหญิงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย เมื่อมีรายงานว่าแม้ปัจจุบันบริทนีย์จะทำรายได้เข้ากระเป๋าหลักพันล้านบาทต่อปี แต่เธอใช้เงินต่อปีได้เพียง 2.3 ล้านบาทเท่านั้น เพราะเจมีได้เข้าควบคุมการเงินโดย บริทนีย์ มีสิทธิ์ใช้เงินได้เพียงแค่ 1,500 เหรียญสหรัฐฯต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 49,500 บาทเท่านั้น

นอกจากนี้หากใครมีโอกาสได้ชมคลิปเกี่ยวกับสารคดีชีวิตของนักร้องหญิงเองก็จะพบว่าเธอให้สัมภาษณ์ไว้อย่างชัดเจนว่าชีวิตเธอเอง "เธอถูกควบคุมมาโดยตลอด" (ชมจากคลิป)

ที่สำคัญเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริทนีย์ ได้ไปขึ้นศาลพร้อมร้องขอให้ยกเลิกสิทธิ์ในการเข้าควบคุมของผู้พิทักษ์ที่ผู้เป็นพ่อของเธอมีอำนาจเต็มในการจัดการทรัพย์สินและชีวิตเธออยู่ในเวลานี้ พร้อมกล่าวว่าพ่อของเธอนี่แหละคือคนที่บังคับให้เธอต้องใช้ยารักษาทั้งๆ ที่ยาเหล่านั้นไม่จำเป็นกับร่างกายของเธอเลย

ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วัน "เจมี สเปรียส์" ผู้เป็นพ่อของเธอก็ไปยื่นร้องต่อศาลให้ตนมีอำนาจเพิ่มในการควบคุม บริทนีย์ ในพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งในฟลอริดา, ไมอามี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน หลุยส์เซียนา ที่เป็นบ้านเกิดของเธอเองก็ต้องถูกควบคุมด้วยเช่นกัน

คงต้องติดตามกันว่าเรื่องราวชีวิตของ Queen of Pop คนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป?





กำลังโหลดความคิดเห็น