จบดรามาไปแบบมึนๆ "เดอะทอยส์" รับยังมีอารมณ์ไปกินข้าวต้มต่อ หลังถูกล็อกคอ จนเขวี้ยงกีต้าร์ลงพื้น เผยเพิ่งนึกขึ้นได้ยังเล่นไม่ครบ ติดต่อขอคืนเงินเจ้าภาพ ชื่นชมสปิริตเจ้าของผับคืนเงินลูกค้า วอนอย่าโจมตีใคร เป็นก้าวเล็กๆ ได้เรียนรู้
กลายเป็นประเด็นดรามาอยู่ไม่น้อย สำหรับ "เดอะทอยส์" ธันวา บุญสูงเนิน เหตุไปเล่นคอนเสิร์ตสถานบันเทิงที่ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ถูกชายคนหนึ่งเดินขึ้นเวทีล็อกคอ บังคับให้ดื่ม จนนักร้องดังเขวี้ยงกีต้าร์ทิ้งลงบนพื้น ยุติการแสดง ล่าสุดเจ้าตัวขอชี้แจงถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้ทั้งหมด แต่ไม่อยากให้โจมตีใคร พร้อมชื่นชมสปิริตเจ้าของร้านที่คืนเงินให้ลูกค้าทั้งหมด
"เท่าที่เห็นคือเขาขึ้นมาบนเวที ผมจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมด แต่ฟีลคือนั่งรถจากพิจิตร 8-9 ชม. นั่งรถไปเล่นดนตรีที่พม่า หลังจากนั้นก็เหมือนที่เห็นเลย คือเราอาจได้รับวัฒนธรรมการชมดนตรีที่แตกต่างกันออกไป ก็เป็นเรื่องดี ถามว่าตกใจไหมที่เขามาล็อกคอ จำไม่ได้ทั้งหมด แต่ฟีลคือกำลังจะร้องเพลงท่อนต่อไป รู้ตัวอีกทีคือเขาเข้ามาล็อกคอและผมหายใจไม่ออก ตอนนั้นไม่ได้พูดอะไรเลย ด้วยความที่บรรยากาศมันมืดๆ อยู่แล้ว เรามองอะไรไม่ค่อยเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น"
เผยเขวี้ยงกีต้าร์ทิ้งเพราะกลัวไม่ปลอดภัย
"ตอนนั้นคือกลัวความปลอดภัย กีต้าร์ตัวนี้รักมาก แต่ตอนทิ้งไม่ได้คิดอะไรเลย คือยังไงดี ผมไม่รู้จะเอาไง ไม่รู้จะต้องทำยังไงดี ถ้าสมมติเขามีมีดหรือมีปืนจะเป็นยังไง แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผมแต่มันเป็นกับทุกคน ไม่ต้องเป็นศิลปินก็ได้ สมมติถ้าผมเป็นเซลล์ขายรถ วันนึงกำลังคุยกับลูกค้าอยู่ แล้วมีคนเดินมาล็อกคอ คืออะไรตรงนี้มันเป็นวัฒนธรรมที่เราควรเรียนรู้ ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาผิดนะ เพียงแค่ว่าเราได้รับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป เลยเป็นอย่างที่เห็น"
ชื่นชมสปิริตเจ้าของร้านรับผิดชอบ คืนเงินลูกค้าทั้งหมด
"หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าของร้านได้มาคุยกับผู้จัดการครับ ผมถือว่าเขาค่อนข้างมีสปิริตเพราะว่าเขารับผิดชอบเงินของลูกค้าทั้งหมด คืนทั้งหมด อันนี้คือเรื่องที่ดี ซึ่งเขารับผิดชอบ จริงๆ เขาไม่ต้องทำก็ได้แต่ว่าเขาทำ"
"หลังจากลงจากเวทีก็ไม่มีการเล่นต่อ คือผมไปกินข้าวต้มกับมือกลองต่อครับ ผมคุยกับมือกลองว่าแถวนี้มีร้านข้าวเปิดไหม เขาบอกว่าข้าวต้มตรงนี้อร่อย เราก็เลยไป"
"จริงๆ เราควรรู้กันอยู่แล้ว คือไม่ใช่แค่ดนตรี แต่มันเป็นทุกเรื่องบนโลก เราควรรู้กันอยู่แล้วว่าไม่ควรจะไปแทรกแซงในการปฏิบัติงานของใครก็ตามแต่ อันนี้มันเป็นวัฒนธรรมของการเป็นผู้ใหญ่ พอเกิดเหตุการณ์นี้ ก็ไม่ได้ทำให้ระแวง ว่าจะซ้ำรอยเดิม เพราะมันเป็นหน้าที่ของทีมงานแล้วครับ"
นึกได้กลางร้านข้าวต้ม เล่นไม่ครบ ขอคืนเงินเจ้าภาพ
"ใช่ครับ ตอนที่ผมไปกินข้าวต้มกับมือกลอง ผมก็บอกว่า ตายแล้ว เราเล่นไม่ครบนี่ เพิ่งจะนึกได้ จังหวะนั้นผมเลยโทร.หาผู้จัดการ ซึ่งผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าขอคืนเงินทั้งหมด ส่วนเรื่องค่ารถค่าอะไรผมขออนุญาตออกเอง เราก็อยากรับผิดชอบส่วนนี้ เพราะถือว่าทางร้านเขารับผิดชอบกับลูกค้า อันนี้คือเรื่องที่ดีมาก"
ไม่แคร์ดรามา ถูกด่าไม่เป็นมืออาชีพ บอกเป็นมืออาชีพ 1 หมื่นวัน วันนั้นอาจใช้หมดพอดี
"ผมไม่ค่อยเข้าไปอ่านครับ ผมไม่แคร์ ไม่ค่อยสนใจ เราอาจจะเป็นมืออาชีพสักหนึ่งหมื่นวัน และวันนั้นผมอาจใช้มันหมดพอดี ก็เลยไปกินข้าวต้มดีกว่าครับ"
"เหตุการณ์นี้ก็ไม่โกรธครับ ทุกคนต้องเรียนรู้ เป็นเรื่องดี แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เหมือนกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้เรียนรู้ว่าเป็นประสบการณ์ของทุกๆ ฝ่าย รวมถึงผมด้วย เรื่องรับงานก็ไม่ซีเรียส เพราะสุดท้ายจะเป็นค่ายเท่านั้นที่รับงาน ไม่เกี่ยวกับผม หากที่นั่นติดต่อมาอีก ก็กลับไปเล่นได้อีก ไม่มีปัญหาอะไรเลย"
"มาตรการเซฟไม่มีอยู่ที่ผม อยู่ที่ทีมงาน เรื่องขอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มไม่ทราบเลยเพราะทางทีมงานจะเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง ผมไม่รู้ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเลยครับ"
วอนอย่าไปโจมตีใคร มองเป็นก้าวเล็กๆ ทำให้รู้จักและเรียนรู้
"ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ และไม่ต้องไปโจมตีใครเลย ไม่ว่าจะเป็นทางร้านหรืออะไรก็ตามครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเรียนรู้อยู่แล้ว เป็นก้าวเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้จัก เรียนรู้ และแก้ปัญหา ผมคิดแค่นั้นครับ”