xs
xsm
sm
md
lg

10 เพลงดังอมตะ จากเทวดาเพลง “ชลธี ธารทอง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เพลงวาน : โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ชลธี ธารทอง เจ้าของฉายาเทวดาเพลง ในวัย 83 ปี
ข่าวการประกาศฟ้องหย่าของครูเพลงคนดัง “ชลธี ธารทอง” ในวัย 83 ปี กับภรรยา “ครูปุ้ม - นางศศิวิมล” ที่อยู่กินกันมาถึง 36 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวฮือฮาในวงการบันเทิงของบ้านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ส่วนจะมีเรื่องของบุคคลที่ 3 หญิงสาวอายุรุ่นราวคราวหลานตามที่ปรากฏเป็นข่าวหรือเปล่า งานนี้คงต้องตามดูกันต่อไป แต่หากใครอยากฟังเพลงใหม่เพราะ ๆ ของเทวดาเพลงคงต้องรอกันไปก่อน เพราะครูชลธีบอกว่าไม่ได้แต่งเพลงมาปีกว่าแล้ว เพราะจิตใจห่อเหี่ยว

สำหรับครูชลธี ธารทอง (ชื่อเดิม-สมนึก ทองมา) เป็นหนึ่งในยอดนักแต่งเพลง (ลูกทุ่ง) ระดับตำนานของเมืองไทย บทเพลงของครูชลธีมีจุดเด่นตรงการใช้ภาษาสวยงาม สื่ออกมาได้เห็นภาพ ขณะที่ท่วงทำนองก็สละสลวย ส่วนใหญ่แฝงเจือลีลาแบบไทยแท้ โดยเฉพาะการนำท่วงทำนองเพลงไทยเดิมมาประยุกต์ ทำให้ครูชลธีได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ในปี 2542

นอกจากนี้ครูชลธียังได้รับฉายาว่า “เทวดาเพลง” เพราะนอกจากจะจรดปากกาฝากผลงานเพลงดังอมตะเอาไว้มากมายกว่า 2,000 เพลงแล้ว เทวดาเพลงยังเป็นนักปั้นตัวยง ปั้นนักร้องลูกทุ่งมามากมาย รวมถึงเป็นผู้ปลุกชีพนักร้องดัง ๆ หลายคนที่เคยอับแสงให้กลับมาโด่งดังเจิดจรัสอีกครั้ง เพราะบทเพลงของท่านเมื่อแต่งให้ใครร้องมักโด่งดังไปหมด

และนี่ก็คือ 10 ผลงานเพลงดังอมตะ (จากผลงานเพลงดังมากมาย) จากปลายปากกาของเทวดาเพลง ชลธี ธารทอง ที่ไม่เคยตายไปจากใจคนฟัง

1.พอหรือยัง (ต้นฉบับ : ศรคีรี ศรีประจวบ ขับร้อง)

“พอหรือยัง” บทเพลง (ทางการ) เพลงแรกจากฝีมือการแต่งของครูชลธี ที่มากไปด้วยสีสันความเพริศแพร้ว เพลงนี้ครูชลธีแต่งเมื่อครั้งสมัยที่อยู่วง “รวมดาวกระจาย”(ของครูสำเนียง ม่วงทอง) ชนิดกลั่นมาจากหัวใจ เพราะดันไปแอบหลงรัก “มาริสา” นักร้องสาวของวงดาวกระจายเข้า แล้วอกหัก! จึงจับปากการ้อยรจนาออกมาเป็นบทเพลงสะทกสะท้อนความรู้สึกตัวเอง ชนิดแต่งป ร้องเพลงตามไป ซดเหล้าไป

เพลงพอหรือยังถูกขับร้องครั้งแรกโดย “ศรคีรี ศรีประจวบ” นักร้องคนดังในยุคนั้น ซึ่งก็ประสบความสำเร็จโด่งดังอย่างมาก แต่กลับไม่มีใครรู้ และไม่มีใครเชื่อว่าครูชลธีเป็นผู้แต่ง เนื่องจากมีการเข้าใจผิดกัน โดยศรคีรีคิดว่าผู้แต่งเพลงนี้คือหนุ่มนักร้องในวง (ศรคีรี) ที่เคยอยู่วงรวมดาวกระจายมาก่อน จึงขอเพลงจากนักร้องคนนั้นมาร้องอัดแผ่น โดยใช้ชื่อว่าตัวเอง (ศรคีรี) เป็นผู้แต่ง

สุดท้ายครูชลธีได้ออกมาทักท้วง และเคลียร์เรื่องนี้กับศรคีรีแบบจบลงด้วยดี ให้โลกได้บันทึกไว้ว่า “พอหรือยัง” เป็นบทเพลงแรกจากการแต่งของชายชื่อชลธี ธารทอง ที่ยังคงความอมตะมาจนถึงทุกวันนี้

2.ลูกสาวผู้การ (ต้นฉบับ : สายัณห์ สัญญา ขับร้อง)

ลูกสาวผู้การ” เติมเพลงนี้ครูชลธีจะแต่งให้ศรคีรี ศรีประจวบ ขับร้อง แต่ศรคีรีมาเสียชีวิตไปเสียก่อน จึงส่งต่อเพลงให้กับ “สายัณห์ สัญญา” (ผู้ล่วงลับ) ลูกศิษย์คนแรกที่ครูชลธีแต่งเพลงและมอบชื่อให้ใหม่ขับร้องจนโด่งดัง ถือเป็นเพลงอีกหนึ่งเพลงสร้างชื่อให้กับสายัณห์

สำหรับที่มาของเพลงนี้ครูชลธีเล่าว่า มาจากพลตำรวจประจำป้อมคนหนึ่งแอบมองลูกสาวนายตำรวจใหญ่ที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ทุกวัน ได้มาวานให้ครูชลธีช่วยแต่งเพลงแทนใจ นั่นจึงกลายเป็นเพลงลูกสาวผู้การอันลือลั่น

3.ล้นเกล้าเผ่าไทย (ต้นฉบับ : สายัณห์ สัญญา ขับร้อง)

ในบรรดา 2 พันกว่าเพลงที่แต่งนั้น ไม่มีเพลงไหนที่ครูชลธีไม่ประทับใจ แต่หนึ่งในบทเพลงที่ครูชลธีประทับใจเป็นพิเศษนั่นก็คือ “ล้นเกล้าเผ่าไทย” ที่เทวดาเพลงแต่งเพลงนี้ขึ้นจากใจด้วยความเทิดทูนในองค์ราชันย์ ในหลวง รัชกาลที่ ๙

ล้นเกล้าเผ่าไทย เป็นเพลงลูกทุ่งเทิดพระเกียรติที่เทวดาเพลงแต่งออกมาได้ไพเราะซาบซึ้งมาก ส่วนพี่เป้า-สายัณห์ สัญญานั้น ก็ร้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างสุดยอด จนกลายเป็นอีกหนึ่งบทเพลงประจำตัวของพี่เป้ามาทุกยุคทุกสมัย

4.พบรักที่ปากน้ำโพ (ต้นฉบับ : สายัณห์ สัญญา ขับร้อง)

ครูชลธีแต่งเพลงนี้ที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ โดยนำภาพของดวงตะวันคล้อยต่ำ มองเห็นเรือมอญล่องมา เรือมอญนั้นเป็นเรือเร่บรรทุกของกินของใช้ ล่องเรือขายไปตามลำน้ำแบบค่ำไหนนอนนั่น

เพลงพบรักที่ปากน้ำโพ เมื่อแต่งเสร็จก่อนจะให้พี่เป้า-สายัณห์ สัญญา ขับร้องจนโด่งดัง เทวดาเพลงได้นำเพลงนี้ไปร้องโชว์ก่อนในการประกวดร้องเพลง โดยยกเป็นตัวอย่างของการร้องเพลงที่ถูกต้องที่ร้องอย่างไรไม่ให้โดนตัดคะแนน เมื่อร้องจบนอกจากจะมีคนปรบมือเฮกันลั่นแล้ว ยังขอฟังเพลงนี้อีกรอบหนึ่งด้วย (หนู มิเตอร์ก็เป็นหนึ่งในนักร้องยุคหลังที่นำเพลงนี้มาร้องจนโด่งดังด้วยเช่นกัน)

5.เทพธิดาผ้าซิ่น (ต้นฉบับ : เสรี รุ่งสว่าง ขับร้อง)

เทพธิดาผ้าซิ่น” เป็น 1 ใน 3 บทเพลงที่ครูชลธีประทับใจเป็นพิเศษ (อีก 2 บทเพลงได้แก่ ล้นเกล้าเผ่าไทย และ คนกล่อมโลก) เพลงนี้เนื้อหาละเมียดละไม ฉายภาพวิถีชนบทของไทยออกมาได้เป็นอย่างดี ขณะที่ท่วงทำนองนั้นก็ฟังติดหูง่ายเพราะมีการนำทำนองเพลงไทยเดิมมาเป็นทำนองหลัก ที่ร้อยรับกับเนื้อร้องอันทรงเสน่ห์

เพลงนี้ต้นฉบับผู้ขับร้องคือ “เสรี รุ่งสว่าง” ที่ตอนนั้นชื่อเสียงเริ่มเงียบหายไป แต่เมื่อได้นำเพลงเทพธิดาผ้าซิ่นมาร้อง โดยเปิดผ่านวิทยุอาทิตย์เดียวก็โงดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาอีกครั้ง จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงอมตะ ลายเซ็นประจำตัวของเสรี รุ่งสว่าง มาจนทุกวันนี้

6.เรียกพี่ได้ไหม (ต้นฉบับ : เสรี รุ่งสว่าง ขับร้อง)

เสรี รุ่งสว่าง ถือเป็นนักร้องแมวเก้าชีวิตคนหนึ่ง และก็เป็นหนึ่งในนักร้องจากการปั้นของเทวดาเพลง (ถือเป็นนักร้องคู่บุญของครูชลธีคนหนึ่ง) โดยครูชลธีได้แต่งเพลง “ไอ้หนุ่มรถซุง” ให้เสรีร้องจนโด่งดัง จากนั้นในชุดที่ 2 ได้แต่งเพลง “จดหมายจากแม่” ให้เสรีร้องจนโด่งดังระเบิดระเบ้อ แล้วชื่อเสียงของเสรีก็เงียบหายไปอีก จนมาได้เพลง “เทพธิดาผ้าซิ่น” ปลุกชีพขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นชื่อของเสรีก็หายเข้ากลีบเมฆไปอีก

กระทั่งวันหนึ่งเสรีเดินทางไปหาครูชลธีขอให้แต่งเพลงให้ เพราะกำลังแย่เนื่องจากบ้านถูกไฟไหม้ ซึ่งครูชลธีก็จัดเพลง “เรียกพี่ได้ไหม” โดยกล่าวสำทับมาว่า “ถ้าเอ็งไม่เกิดเพลงนี้ก็ไปบวชได้เลย

สุดท้ายเพลงเรียกพี่ได้ไหมที่มีการนำท่วงทำนองเพลงไทยเดิมมาประยุกต์ ฟังติดหูง่าย มีเนื้อหาสนุกทันสมัย ถูกใจพระเดชพระคุณผู้ชาย ส.ว. (สูงวัย) ลุง น้า ตา ปู่ ทั้งหลาย ได้กลับมาสร้างชื่อให้กับเสรีอีกครั้ง กลายเป็นหนึ่งในเพลงคู่บุญของเสรี และเพลงนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงยอดนิยมที่มีคนนำมาขับร้องกันมากตามคาราโอเกะ โดยผู้ร้องส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นผู้ชาย ส.ว. นั่นเอง

7.ทหารอากาศขาดรัก (ต้นฉบับ : เสกศักดิ์ ภู่กันทอง ขับร้อง)

ทหารอากาศขาดรัก เป็นเพลงที่ตอนแรกครูชลธีคิดไม่ออกว่าจะเขียนเพลงอะไร แล้วมองเห็นจ่าทหารอากาศคนหนึ่งเดินผ่านหน้าต่างโรงแรมที่พักอย่างเดียวดายอ้างว้าง จึงเกิดเป็นเพลง “ทหารอากาศขาดรัก” อันโด่งดังขึ้นมา

ทหารอากาศขาดรัก เป็นเพลงที่สร้างชื่อสูงสุดให้กับเสกศักดิ์ ภู่กันทอง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในบทเพลงประจำลูกทัพฟ้าที่ยังคงขับร้องกันมาตลอดจนทุกวันนี้

8.จดหมายจากแนวหน้า (ต้นฉบับ : ยอดรัก สลักใจ ขับร้อง)

ที่มาของเพลงจดหมายจากนั้นหน้านั้น ครูชลธีได้เล่าว่า เขียนขึ้นในช่วงที่มีการสู้รบกันแถบห้วยโกร๋น (ชายแดนไทย-ลาว จ.น่าน) ช่วงนั้นสถานการณ์บ้านเมืองตึงเครียดมาก แล้วมีทีวีช่องหนึ่งนำทหาร 2 นายมาออกอากาศ เล่าสถานการณ์ความยากลำบากให้คนไทยรับรู้ พร้อมบอกว่าถ้ามีจดหมายจากแนวหลังสักฉบับส่งไปแนวหน้าจะแบ่งกันอ่านทั้งกองเลย

นั่นจึงเป็นที่มาของการหยิบปากกาขึ้นมาแต่งเพลงจดหมายจากแนวหน้าของครูชลธี ถูกบรรจุเป็นเพลงเอกในอัลบั้มชุดแรกของ “ยอดรัก สลักใจ” (อัลบั้ม จ.ม. จากแนวหน้า) ซึ่งถือเป็นบทเพลงแจ้งเกิดให้กับพี่แอ๊ว-ยอดรักอย่างเต็มตัว

9.ไอ้หนุ่มตังเก (ต้นฉบับ : ไพรวัลย์ ลูกเพชร ขับร้อง)

ครูชลธีเล่าที่มาของเพลงนี้ว่า วันหนึ่งเพื่อนสนิทคือ “ไพรวัลย์ ลูกเพชร” นักร้องผู้เคยโด่งดังจากเพลง “มนต์รักลูกทุ่ง” ก่อนที่ชื่อเสียงจะสร่างซาหายเข้ากลีบเมฆไป ได้เดินทางมาหาครูชลธีที่บ้านในขณะที่ครูกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ พร้อมกับบอกเพื่อนแบบตรงไปตรงมาว่า อยากให้เทวดาเพลงแต่งเพลงให้หน่อย เพราะอยากดังอีกรอบ

เรื่องนี้ทำให้ครูชลธีต้องคิดหนัก เพราะการจะแต่งเพลงให้กับนักร้องที่มีชื่อเสียงกลับมาโด่งดังอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย และเนื่องจากไม่มีเวลามากเพราะไพรวัลย์จะต้องเข้าห้องอัดในอีกไม่นานแล้ว ไพรวัลย์จึงขับรถพาเทวดาเพลงไปหาแรงบันดาลใจที่บางแสน แล้วเห็นภาพวิถีชีวิตของชาวตังเก ซึ่งขณะนั้นก็มีคนมาแซวว่า เพลงไอ้หนุ่มรถไถที่แต่งให้สายัณห์ร้องดังระเบิดระเบิด ทำไมไม่แต่งไอ้หนุ่มตังเกบ้าง

นั่นจึงเป็นที่มาของเพลงไอ้หนุ่มตังเก ซึ่งครูชลธีเมื่อเกิดพล็อตก็หยิบเอาซองบุหรี่ที่พกติดตัวมาเขียนเรียบเรียงเนื้อเพลงที่ลื่นไหลขึ้นมาทันที เกิดเป็นเพลง “ไอ้หนุ่มตังเก” ที่ใช้เวลาแต่งแค่ 45 นาที นับเป็น 1 ใน 2 บทเพลงที่ครูชลธีใช้เวลาแต่งสั้นที่สุด (อีกหนึ่งเพลงคืออีสาวทรานซิสเตอร์-ต้นฉบับขับร้องโดย อ้อยทิพย์ ปัญญาธร)

10.อีสาวทรานซิสเตอร์ (ต้นฉบับ : อ้อยทิพย์ ปัญญาธร ขับร้อง)

จากเพลงน้ำเสียงผู้ชาย มาฟังเพลงนักร้องลูกทุ่งหญิงกันบ้างกับ “อีสาวทรานซิสเตอร์” ที่ครูชลธีแต่งให้กับลูกศิษย์คนแรก โดยครูชลธีพูดถึงอ้อยทิพย์ว่า เป็นนักร้องเสียงอินโนเซนส์ มีน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา ฟังน่ารัก

สำหรับที่มาของเพลงนี้ครูชลธีเล่าว่า ได้ไอเดียมาจากตอนกลับบ้านนอก ระหว่างทางเจอเด็กสาวเลี้ยงควายกำลังไล่ควายข้ามถนน มีวิทยุทรานซิสเตอร์สะพานอยู่บนไหล่ นั่นจึงจุดประกายการเขียนเพลงของเทวดาเพลงขึ้นมา จึงจอดรถเขียนเพลงกันตรงนั้นเลย แล้วสุดท้ายก็กลายมาเป็นเพลงอีสาวทรานซิสเตอร์อันโด่งดังระเบิดเถิดเทิง ที่ใช้เวลาแต่งเพียง 45 นาทีเท่านั้น

และนี่ก็คือ 10 บทเพลงดังอมตะที่คัดสรรจากบทเพลงดังมากมายของศิลปินแห่งชาติ ชลธี ธารทอง หนึ่งในบุคคลที่มีคุณูปการต่อวงการเพลงไทย เป็นเทวดาเพลงที่อยู่คู่กับวงการลูกทุ่งไทยไปตลอดกาล
**************************************************

หมายเหตุ : ข้อมูลบางส่วน อ้างอิงจากหนังสือ “ชลธี ธารทอง เทวดาเพลง”


กำลังโหลดความคิดเห็น