"นาตาลี" เตรียมแต่งนักการทูตเดือนก.ย. ไม่มีโมเมนต์ขอวิวาห์ เรียบๆ หวือหวา สู่ขอพ่อแม่ ชีวิตไม่เพ้อฝัน ไม่เข้าคอร์สเจ้าสาว แต่ตั้งเป้ารีดหุ่น 8 กิโล เผยอาจต้องเสียสละสิ่งที่เป็นมาตลอดชีวิตเพื่อรักษาสถาบันครอบครัว ลูกจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่เป็นไร ชิลๆ
กำลังจะมีข่าวดี เข้าประตูวิวาห์กับว่าที่เจ้าบ่าวนักการทูต "ณะ อิทธิกร" คบหาดูใจกันมานาน 5 ปี สำหรับ "นาตาลี เดวิส" ล่าสุดเจ้าตัวเผยระหว่างมาร่วมงาน "Back to School จุนเจือเพื่อน้อง" ณ ห้องจามจุรี A ชั้น Mโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ เผยชุดที่อวดในอินสตาแกรม ไม่ใช่ชุดที่ใช้จริง ไม่ตื่นเต้น ออกกำลังกายรองานมงคล
"จริงๆ ชุดที่ลองไม่ใช่ชุดที่จะใช้วันงานนะคะ เราแค่ไปลองโครงข้างในเฉยๆ เพิ่งไปลองมาแค่ครั้งเดียวเองด้วย ยังไม่เห็นเลยว่าชุดตัวเองจริงๆ จะเป็นยังไง ยังอีกยาวไกลค่ะ ตอนนี้เพิ่งเริ่มทำโน่นทำนี่ ก็ดูไว้ชุดเดียวค่ะ ชุดขาวชุดเดียวพอแล้ว (หัวเราะ) แต่งานเช้าก็น่าจะเป็นชุดไทย จริงๆ ตื่นเต้นกับชุดไทยนะ เพราะนานๆ ทีเราจะได้ใส่ ชุดขาวก็ลุ้นว่าจะออกมาเป็นยังไง"
"เป็นความชอบตั้งแต่เด็กเลยค่ะ อย่างตอนเด็กๆ คนอื่นเขาจะแย่งกันเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นดรัมเมเยอร์ แต่เราจะรอจะได้ถือป้ายสี เพราะจะได้ใส่ชุดไทย เป็นคนชอบชุดไทยมากค่ะ อาจจะเพราะมีความเป็นฝรั่งหรือเปล่าไม่รู้ เพราะฝรั่งก็จะชอบชุดไทย"
ฤกษ์วิวาห์เดือนก.ย. เลือกสถานที่ไม่ทำให้แขกลำบาก
"เดือนกันยายนนี้ค่ะ หลายคนก็บอกใกล้แล้ว แต่จริงๆ มันก็อีกหลายเดือนนะ (หัวเราะ) ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่ามันใกล้มาก ค่อยๆ ทำไป ยังไม่เสร็จอะไรสักอย่างเลย คือมันมีรายละเอียดเยอะที่จะต้องทำ แล้วหนูไม่ได้มีแพลนเนอร์จริงจังด้วย ชอบทำเอง คุยเอง มันก็สนุกดี ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการลิสต์ชื่อแขกค่ะ ยังไม่เสร็จ"
"ไม่กังวลว่าจะไม่ทันเลยค่ะ เพราะว่าพี่เขาก็ช่วยด้วย เขาเป็นคนค่อนข้างมีระเบียบแบบแผน เขาก็จะมีตารางของเขาทำมาให้ เราก็แผนกคิด แต่ความเป็นระเบียบเรียบร้อยเขาจะเป็นระเบียบมากกว่าเยอะ (หัวเราะ) เขาก็จะคอยเตือนอะไรต่างๆ แต่สถานที่ก็น่าจะในโรงแรม ในกรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ เพราะด้วยความที่อากาศบ้านเราด้วย จริงๆ ก็อยากจัดเอาท์ดอร์นะ มันก็ได้อีกฟีลนึง แต่คาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมค่ะ เพราะด้วยสภาพอากาศที่เราไม่อยากลุ้นในวันนั้น กลัวเดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดร้อนขึ้นมา จริงๆ หลักๆ ในการที่จะทำทุกอย่างคือคิดว่าให้แขกไม่ต้องลำบาก เอาที่แขกสะดวกสบายมากกว่าค่ะ"
"แจกการ์ดก็ไม่ถึงกับเยอะมากค่ะ เพราะด้วยห้องที่เล็งไว้จำนวนมันค่อนข้างจำกัด และด้วยช่วงเวลาที่เล็งกันไว้ มันไม่ใช่คืนวันศุกร์-เสาร์ด้วย มันก็คงไม่ได้เยอะมากขนาดนั้น ก็พยายามจะเชิญคนที่ใกล้ชิดและสนิทจริงๆ เพราะเอาจริงๆ งานแต่งงานมันก็ไม่ใช่เฉพาะแขกเราเนอะ มีแขกผู้ใหญ่คุณพ่อคุณแม่ด้วย เหมือนทุกคนที่เขารักเราก็มารวมอยู่ในงานที่เป็นความสุขของเรา ก็รอคอนเฟิร์มค่ะ จริงๆ ก็ได้หลายอย่างแล้วล่ะ ก็เหลือคอนเฟิร์ม แก้นั่นนี่ สรุปแบบอะไรต่างๆ"
ไม่ตื่นเต้น ออกกำลังกายรอ
"ไม่เลย คือตอนนี้อาจจะยัง แต่พอใกล้วันคงตื่นเต้นแหละ แต่ที่กังวลตอนนี้คือคงต้องตื่นเช้ามาก แล้วไม่ใช่เช้าธรรมดาเหมือนออกกองนะ แต่มันเช้ามืด (หัวเราะ) ก็พยายามออกกำลัง พักผ่อนให้พอ"
พิธีรวบตึงในวันเดียว
"ก็รวบในวันเดียวเลยค่ะ รดน้ำสังข์ก็ตอนเช้า ส่วนตอนเย็นก็งานเลี้ยง แต่อาจจะเป็นงานกลางวันก็ได้นะ หมายถึงว่าติดกันไปเลย ก็รอสรุป นี่ก็ยังไม่ได้สรุปเหมือนกัน ชิลมั้ยล่ะ (หัวเราะ)"
เผยว่าที่เจ้าบ่าวไม่ตื่นเต้น มีทุกอย่างให้สะดวก
"เขาก็ไม่ได้ออกอาการว่าตื่นเต้นนะ แล้วเขาเป็นคนจัดระบบความคิดดีด้วยแหละ เขาก็จะไม่ค่อยล่กเท่าไหร่ เขาจะมีลิสต์ มีตารางเอาไว้ เขาก็ปริ้นต์เอามาให้เรา เราก็กรองอย่างเดียว ก็สะดวกดี โชคดีที่มีเขาช่วยค่ะ (ยิ้ม)"
"ตอนนี้เขากลับมาประจำที่กรุงเทพฯ แล้ว อนาคตถึงค่อยเดินทาง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะคิวยังอีกยาวเหมือนกัน ก็ไม่เป็นไร ไปไหนก็ได้ เราก็มีหน้าที่ซัปพอร์ตเขามากกว่า"
ไม่งดรับงาน
"ไม่ค่ะ ก็รับปกติ ช่วงนี้จะเยอะด้วยพวกรายการค่ะ แต่ละครเพิ่งมีติดต่อมาเมื่อไม่กี่อาทิตย์ เดี๋ยวคงรอเสนอช่องอะไรอีก ก็ยังไม่ชัวร์ค่ะ"
ไม่เข้าคอร์สเจ้าสาวแต่ลดหุ่น ตั้งเป้า 8 กิโล ไม่อยากทรมานลด 10 กิโล รู้ตัวทำไม่ได้
"ไม่เข้า ไม่มีอะไรให้เข้า (หัวเราะ) ก็อาจจะมีดูแลผิวพรรณ ไปนวดไปอะไรบ้าง เอาจริงๆ เขาต้องเข้าคอร์สอะไรกันก็ไม่รู้เนอะ อันนี้หนูก็ไม่รู้จริงๆ (หัวเราะ) แต่ถ้าเรื่องลดหุ่น ก็ลดไปเรื่อยๆ ค่ะ ออกกำลังด้วย คงไม่ได้หายไป 10 กว่ากิโลอะไรขนาดนั้น หนูทำไม่ได้หรอก คือชีวิตนี้ก็ไม่เคยผอมแบบผอมเลยนะ ก็เอาให้มันเฮลท์ตี้ดีกว่า ไม่ใช่ว่าผอมโกรกวันงานแล้วหลังจากนั้นทรมาน ก็คงจะไม่ แต่ทำให้เราดูดี เพราะมันก็วันนึงของเรา จะปล่อยให้ดูไม่ดีก็คงไม่ได้ แต่คงทำอะไรที่เราแฮปปี้ เรามีความสุขดีกว่า ก็ออกกำลังกาย คุมอาหารไปเรื่อยๆ แต่จะให้ถึง 10-15 โลก็คงไม่ได้ขนาดนั้น อย่างดีก็ 6-8 โลแค่นั้นแหละ"
ไม่มีโมเมนต์ขอแต่งงาน โปรดักชั่นล้านแปด มีแค่กินข้าวกันกรุบกริบ
"ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) คือคบหากันมาก็นานแล้ว ประมาณ 5 ปีครึ่ง ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องมี ต้องทำ เพราะเราก็คุยเรื่องอนาคต การวางแผนชีวิตกันมาตลอด แล้วเขาก็เป็นคนไม่ชอบเซอร์ไพรส์ เขาเป็นคนไม่ชอบคนเยอะๆ คือเขาโตมาคนละแบบกับเรา งานเขาก็คนละแบบกับเรา จริงๆ กว่าจะจูนกันได้ คุยกันรู้เรื่องก็ใช้เวลาเป็นปีค่ะ เราจะให้เขามาเหมือนเรา 100% ก็เป็นไปไม่ได้ เราจะไปเหมือนเขา 100% ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีจุดกึ่งกลางว่าเราทำแบบแล้วเขาสบายใจ เราทำแบบนี้แล้วเขาสบายใจ แล้วสามารถเดินหน้าต่อไปกันได้ ฉะนั้นประเภทเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน โปรดักชั่นล้านแปดก็คงไม่ได้อยู่ในโหมดนั้น ซึ่งหนูก็เฉยๆ นะ อาจจะมีแค่ไปกินข้าวกรุบกริบแค่นั้น"
บอกด้วยความสัตย์ ฝ่ายชายไม่พูดขอแต่งงาน คบกันเรียบๆ ไม่หวือหวา
"ไม่เคยมีการพูดขอแต่งงานเลย ด้วยความสัตย์จริงเลยค่ะ คือไม่เคย มีแต่พูดกันว่าปีหน้าเราแพลนกันมั้ย คือด้วยการทำงานของเขาด้วย การทำงานของเราด้วย บางทีของอย่างนี้มันต้องแพลนกันยาวครึ่งปี ปีนึง แล้วด้วยเวลาที่ค่อนข้างเหมาะสมแล้ว ก็เริ่มมาดูว่าเขาต้องทำยังไงกันบ้าง คุยกับคุณแม่บ้าง แต่คำพูดขอแต่งงานหวานเจี๊ยบนี่ไม่มี หนูก็เฉยๆ จริงๆ เพราะว่าเขาเป็นคนเรียบๆ ธรรมดา ไม่ได้หวือหวาอะไร อยู่ด้วยความสบายใจ แล้วพอเราโตมาจุดหนึ่งก็รู้สึกว่าอะไรที่มันเรียบๆ มันก็มีความสุขดี"
"ถามว่าคาดหวังมั้ย ไม่เคยแต่งตัวเตรียมเลย ก็มีบอกเขาเหมือนกันนะว่าถ้าวันไหนจะมีก็บอกก่อนนะ ฉันจะได้แต่งตัวให้ดูดีหน่อย หรืออย่างน้อยก็ทาเล็บให้สวยหน่อย (หัวเราะ) คือคุยกันขำๆ ไม่ได้ซีเรียส เขาก็บอกว่าไม่มี อย่างดีก็แค่ไปกินข้าว ก็ไม่ได้แอบลุ้นอะไรนะคะ เฉยๆ เพราะเราคุยกันมานานแล้วด้วยแหละ เขาเป็นคนวางแผนในชีวิตดีค่ะ เขาก็จะคอยมาพูดคุยกับเรา เขาเป็นคนไม่เพ้อฝัน ไม่ใช่คนขายของ แต่ถ้าเขารับปากหรือสัญญา เขาก็สามารถทำได้แน่นอน แต่ไม่เคยมีมาบอกว่าปีหน้าฉันจะแต่งงานกับเธอนะ เราจะมาสร้างครอบครัวด้วยกัน เขาจะไม่ใช่สไตล์แบบนั้น เขาจะเป็นคนเรียบๆ เขาจะคุยว่าปีหน้าพี่จะทำอย่างนั้นอย่างนี้นะ ประมาณนี้มากกว่า"
"แต่เขาคุยกับครอบครัวฝั่งเราและฝั่งเขาเรียบร้อย เขาค่อนข้างสนิทกับคุณแม่หนูด้วย ไปทานข้าว ไปเที่ยวด้วยกันค่อนข้างบ่อย คุณแม่ก็ไม่เคยเร่งอะไร เพราะอยู่ที่คนสองคนเนอะ การแต่งงานหรือการใช้ชีวิตร่วมกันมันอยู่ที่ความลงตัวของคนสองคนมากกว่า เพราะพอแต่งงานกันไปมันก็คือเราที่จะต้องมาใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คิดว่าจะพยายามทำให้เต็มที่"
ชีวิตลงตัว พร้อมมีครอบครัว
"มันก็พร้อมด้วยวัยและช่วงเวลาที่คบหากันมา มันก็โอเค ถือว่าก็น่าจะพร้อมแล้วแหละ ปัจจัยมันหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ คิดว่าฉันพร้อม แต่มันก็มีปัจจัยแวดล้อมหลายๆ อย่าง อาจจะด้วยงานเรา งานเขา มันก็ต้องรอช่วงที่ลงตัว"
อาจต้องเสียสละสิ่งที่เป็นมาตลอดชีวิตเพื่อรักษาสถาบันครอบครัว
"ส่วนเรื่องบินตามเขาไป ถ้าเขาต้องไปเราก็คงต้องไปด้วยค่ะ เพราะถ้าเป็นครอบครัวและมีลูกขึ้นมา เราก็ต้องเสียสละอย่างหนึ่งเพื่อไปรับผิดชอบอีกอย่างหนึ่งที่มันเป็นตลอดชีวิตของเรา เราแต่งงานไปเราก็ต้องรักษาสถาบันครอบครัวเรา เดี๋ยวเขาจะเหงา (หัวเราะ)"
ลูกจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่เป็นไร ชิลๆ
"จริงๆ เป็นคนชอบเด็กนะ แต่ของอย่างนี้มันก็ธรรมชาติแหละ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นค่ะ ไม่ได้รีบมาก ถ้ามาก็มา ยังไม่มาก็ไม่เป็นไร ไม่ได้คาดหวัง ชิลๆ ไม่ต้องเครียด ตอนนี้เอาเรื่องแต่งงานให้รอดก่อน (หัวเราะ) เพราะทุกคนก็บอกว่าใกล้แล้ว แต่หนูก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ขนาดนั้นนะ ก็เลยยังไม่ได้บอกอะไรกับใครเยอะ แต่พอคนเห็นรูปนั้นก็มีแสดงความยินดีกันเข้ามาเยอะค่ะ ก็ต้องฝากขอบคุณด้วย เพราะมันก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีในชีวิตเนอะ คนอื่นแต่งงานเราก็ดีใจด้วย พอถึงงานเราคนเขาก็มาแสดงความยินดี ก็ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ"