"ผมอยากทำหนังอีสานดีๆ ขึ้นมาสักเรื่องหนึ่งที่สามารถสู้ได้กับหนังเมืองนอก..."
อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนักสำหรับคนดูหนังทั่วไปในบ้านเราแต่ในระดับระดับอินเตอร์แล้วว่ากันว่าชื่อของผู้กำกับหนุ่มจากภาคอีสานอย่าง "ลี ทองคำ" นั้นถือว่าพอจะมีโพรไฟล์อยู่เหมือนกัน
ตามข้อมูลระบุว่า "ลี ทองคำ" เป็นชาว อ.เซกา จ.หนองคาย (ปัจจุบันพื้นที่ อ.เซกา ถูกโอนไปเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด "บึงกาฬ") จากนั้นเจ้าตัวในวัย 7 ขวบก็ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับแม่ที่อเมริกา และด้วยความที่ชื่นชอบในเรื่องของงานภาพยนตร์เขาจึงตัดสินใจเข้าไปเรียนทางด้าน "ฟิล์ม โปรดักชั่น" ที่ ม.ฟูล แซล โอรานโด้ (Full Sail University) ในรัฐ ฟอริด้า
ในปี 2010 ผลงานภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกที่เขาเขียนบทและกำกับด้วยตนเองอย่าง "Shoot Her" สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ "ผู้กำกับยอดเยี่ยม" ในเทศกาลหนังของเมืองฟอริด้ามาครองได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะคว้ารางวัลเดียวกันอีกครั้งจากรายการละครเพลงยอดเยี่ยมที่มีชื่อ “Mixed Nuts” ในปีถัดมา
ที่ผ่านมาผู้กำกับหนุ่มสายเลือดอีสานคนนี้ผ่านประสบการณ์การทำงานอยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ดังๆ มาแล้ว ทั้ง The Fate of the Furious, Spiderman homecoming, Doctor strange, Guardians of the Galaxy Vol. 2, Avengers, Captain America civil war
เมื่อช่วงกลางปีที่แล้วชื่อของ "ลี ทองคำ" ปรากฏเป็นข่าวในบ้านเราพร้อมกับการมาของโปรเจ็กต์หนังเรื่อง "The Lake บึง/กาฬ" จากความร่วมมือกันของ บริษัท ฮอลลิวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท ไฟว์สตาร์เน็ทเวอร์ค จำกัด โดยเจ้าตัวระบุถึงที่มาที่ไปของการทำหนังเรื่องนี้ว่าเกิดจากแรงบันดาลใจระหว่างกลับมาที่บ้านเกิดแล้วเห็นว่าที่นี่กำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นมาจาก "ขยะ" และดูเหมือนนับวันเรื่องนี้จะยิ่งหาทางแก้ไขได้ยากขึ้นทุกที
ในหนัง “The Lake บึง/กาฬ" จะเล่าเรื่องของชาวบ้านแห่งหนึ่งที่ต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากทะเลสาบและบุกเข้าโจมตีหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่โดยไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ทิ้งความบาดหมาง ทิ้งความแค้นส่วนตัวเพื่อหันมาร่วมมือร่วมแรงกันต่อสู้กับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าวแล้ว พวกเขากลับต้องพบกับความจริงที่เลวร้ายยิ่งกว่าการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเสียอีก
ทั้งนี้ตามข่าวที่ออกมาในตอนแรกนั้นระบุว่านักแสดงที่จะมาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ก็มีทั้ง ชาคริต แย้มนาม, ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล, ลำใย ไหทองคำ, ออม สุชาร์ มานะยิ่ง และ ปู วิทยา ปานศรีงาม อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากการแถลงข่าวเมื่อปีที่แล้วความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็มีออกมาน้อยมาก
ไม่เพียงเท่านี้หากย้อนกลับไปถึงหนังอย่าง The Last One ที่ถูกระบุว่าเป็นผลงานหนังยาวเรื่องแรกของผู้กำกับคนนี้ซึ่งแม้จะมีข้อมูลให้สืบค้นอยู่บ้าง แต่กระนั้นก็แทบจะไม่มีรายละเอียดเลยว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉายที่ไหนเมื่อไหร่ มีรายได้หรือมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางใดออกมาเลย
อันที่จริงถ้าไม่คิดมากต่อความรู้สึกคลุมเครือ ความไม่ชัดเจน ในบางส่วน รวมไปถึงคำที่ใช้ในการเขียนข่าวเพื่อโปรโมทหนังเรื่องนี้ประเภทที่ว่า ได้นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์มาแสดง, เป็นผลงานของผู้กำกับระดับอินเตอร์, มีสุดยอดทีมงานผู้สร้างจากฮอลลีวูดมาดูแล, ได้รับการตอบรับที่ดีจากนายทุนถูกจ่อคิวซื้อไปแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ฯลฯ ซึ่งฟังอย่างไรก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นการโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าดูเป็นมืออาชีพแล้ว โปรเจ็กต์ "The Lake บึง/กาฬ" ของผู้กำกับสายเลือดอีสานคนนี้ต้องถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ในตัวของมันเองที่ชวนตื่นเต้นไม่น้อย
ต้องยอมรับว่าการทำหนังแนวนี้ให้ออกมาถูกใจคนดูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ขนาดหนังเมืองนอกเองมีทุนหนาๆ บางทียังทำออกมาได้ห่วยแตก บางเรื่องโปรดักชันส์อย่างดีก็มาตกม้าตายเรื่องบท บางเรื่องก็บทดีแต่มาตายเรื่องของเอฟเฟ็กต์ ก็มี
ยิ่งในบ้านเราไม่ต้องพูดถึง จะด้วยทุนไม่ถึงหรืออะไรก็ตามแต่ ที่ผ่านมาบ้านเราแทบจะไม่มีหนังสัตว์ประหลาดแนวแอ็กชันระทึกขวัญที่มีตัวสัตว์ประหลาดแท้ๆ เท่ๆ โปรดักชันส์เจ๋งๆ เอฟเฟกต์เยี่ยมๆ ออกมาให้เห็นเลย ซึ่งหาก "The Lake บึง/กาฬ" สามารถทำออกมาได้สมกับราคาโปรโมตเชื่อว่าเสียงตอบรับจะต้องเป็นไปในทิศทางบวกอย่างแน่นอน
สำหรับ "The Lake บึง/กาฬ" มีกำหนดเข้าฉายบ้านเราปีนี้ ส่วนผลงานที่ออกมาจะเป็นอย่างไร? จะคุ้มค่ากับความตื่นเต้นของคอหนังหรือไม่? คงต้องติดตามกันต่อไป