"กรีน อัษฎาพร" น้ำตานอง ช็อกสูญเสียพ่อกะทันหัน จากไปไม่ทันได้ร่ำลา บอกมีหลายเรื่องติดค้าง - อยากเคลียร์ใจ เล่านาทีก่อนจากไป สำรอกอาหารก่อนฟุบ ส่งรพ.ที่ใกล้ที่สุด แพทย์ปั้มหัวใจยื้อ 40 นาที เสียงสั่นอยากบอกรัก อยากคุยแบบใกล้ชิด ไม่รับพวงหรีด แต่ขอเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค สมทบทุนนำไปทำบุญให้ศพไร้ญาติ
ต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต สำหรับนักแสดงสาว “กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” หลังสูญเสียคุณพ่อ “ฉัตรฏรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล” ไปอย่างกะทันหันด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 13 พ.ค.62 โดยเจ้าตัวได้บินไปรับศพคุณพ่อที่สมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมาทำพิธีทางศาสนา ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา 9 ซึ่งวันนี้ (15 พ.ค.62) มีพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมเป็นคืนแรก ตั้งใจสวดอภิธรรมศพ 15-17 พ.ค. และกำหนดฌาปณกิจในวันที่ 19 พ.ค. 62
บรรยากาศสวดอภิธรรมในวันนี้ มีครอบครัวและญาติสนิทเดินทางมาร่วมไว้อาลัยคุณพ่อฉัตรฏรัฐ แน่นศาลา 9 โดยพระเอกหนุ่ม “ธันวา สุริยจักร” แฟนของกรีนคอยเคียงข้างให้กำลังใจไม่ห่าง รวมถึงมีคนในวงการบันเทิงมาร่วมไว้อาลัย อาทิ ดวงดาว จารุจินดา, แก๊ป ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล, เวฟ สาริน บางยี่ขัน ที่มาพร้อมภรรยา บุ้ง สะธี ใบหยก ฯลฯ
ด้าน “กรีน” ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา รู้สึกช็อกที่พ่อจากไปโดยไม่ทันได้ร่ำลา เจอครั้งสุดท้ายก็เหลือเพียงร่างไร้วิญญาณแล้ว ยอมรับยังมีหลายเรื่องที่ติดค้างอยากเคลียร์ใจกัน สัญญาจะเข้มแข็งดูแลแม่และน้องให้ดีที่สุด
“วันนี้เป็นวันแรก วันรดน้ำศพของคุณพ่อนะคะ ก็ได้ทำพิธีไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็รอสวดพระอภิธรรมค่ะ คือวันที่เกิดเหตุคุณพ่อไปธุระที่สมุยค่ะ แล้วด้วยที่คุณพ่อมีโรงประจำตัวอยู่แล้ว เป็นโรคหัวใจและยังมีหลายๆ โรคอีก คิดว่าคนที่พอมีอายุเริ่มเข้าเลข 5 เลข 6 โรคก็จะค่อนข้างแสดงออกมาชัดเจนมากขึ้น เพราะมีความดันด้วย เขาก็ไปทำธุระที่นั่น แล้วหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันค่ะ”
“กรีนรู้ว่าป๊าเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว รู้อยู่แล้ว (เสียงสั่น) เราก็คอยดูแลเขา ให้ยาบำรุง หาอาหารเสริม และให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองมากๆ อยู่แล้วด้วยค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านี้เคยเข้าห้องฉุกเฉินหลายครั้ง แต่ว่ารอดค่ะ ก็รอดกลับมา แต่ว่าครั้งนี้เร็วแบบงง ถามว่ากรีนเข้าใจว่าโรคหัวใจมันมีโอกาสที่จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เราก็เคยเห็นข่าวกันทั่วๆ ไปอยู่แล้วค่ะ แต่พอมันเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเรา ซึ่งเป็นคนที่เรารักมันก็ค่อนข้างกะทันหันมากจริงๆ”
เผยไม่มีลางบอกเหตุอะไร แต่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวผิดปกติ
“มีเหตุการณ์อะไรบ่งบอกก่อนมั้ย ไม่มีเลยค่ะ วันนั้นกรีนทำงานด้วย ลางสังหรณ์ก็ไม่มีค่ะ มีแค่วันนั้นธันวาโทร.มาหากรีนเพราะได้รับข่าวนี้ แต่กรีนรู้สึกว่าครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าถึงขั้นร้ายแรงขนาดนี้ คือตอนนั้นกรีนทำธุระอยู่ ก็บอกให้ธันวาช่วยจัดการให้หน่อย จนธันวาโทร.มาหากรีนอีกครั้งแล้วบอกว่ารีบกลับบ้านมานะ เดี๋ยวแม่มีเรื่องจะบอก กรีนก็ถามว่าอะไรเหรอๆ เพราะปกติที่ผ่านมามีเรื่องก็จะคุยกันอยู่แล้ว แต่เขาไม่ยอมบอก เพราะกรีนขับรถอยู่แล้วฝนตกด้วย กลับบ้านมาแม่ก็บอกว่าป๊าเสียแล้วนะ (ร้องไห้) กรีนก็ยังบอกว่าไม่จริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่รอกรีนเลย แต่ว่ากรีนก็พยายามเข้าใจค่ะ ก็ร้องไห้กันยกใหญ่วันนั้นค่ะ แล้วก็หาวิธีกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำยังไง เราถึงได้มารู้ว่าป๊าไปเสียที่สมุยค่ะ”
“ตอนที่ป๊าเสียมีคนใกล้ชิดอยู่ด้วยค่ะ ก็มีเพื่อนป๊าอยู่ค่ะ คือป๊าทำงานที่ใต้ ก็จะมีเพื่อนเยอะอยู่แล้วค่ะที่นั่น เขาก็บอกเหตุการณ์ คือเหมือนกับด้วยความที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว แล้วป๊าไปทานอาหารและข้างในมันร้อน แล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อน เขาสำรอกออกมา แล้วเร็วมากค่ะ นับ 1 2 3 แล้วฟุบเลย ก็ส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดที่เกาะสมุย ก็ปั้มหัวใจอยู่ประมาณ 30 นาที แล้วหมอก็บอกว่าชีพจรอ่อนมากแล้ว แล้วก็ขอปั้มเพิ่มอีก 10 นาทีได้มั้ย เป็น 40 นาที หมอก็ปั้มให้ค่ะ แต่บอกว่าถ้าปั้มอีกเกินกว่านี้ซี่โครงจะหักเลยนะ เพราะว่าตรงหัวใจแดงหมดแล้ว ก็คือต้องปล่อยแล้ว ก็ไปเลยค่ะ (เสียงสั่น)”
บอกเสียใจยังไม่มีโอกาสได้ร่ำลากันเลย
“ก็ด้วยค่ะ เพราะว่า ณ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และมันก็มีหลายๆ เรื่องที่เราก็อยากคุย อยากนั่งคุยกัน แต่ด้วยความที่เป็นโรคนี้คือจะไปตอนไหนก็ได้ กรีนเคยคุยกับเขาแล้วว่าไปได้ทุกเมื่อถ้าเขาอยู่ห่างกับกรีน กรีนก็อยากให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองค่ะ”
“ก็อยากจะบอกทุกเรื่องค่ะ อยากบอกรักเขา อยากจะบอกเขาว่าไม่ต้องมากังวลเรื่องตรงนี้แล้ว อยากให้เขามีความสุขค่ะ อยากให้มาคุยกันพ่อลูกแบบใกล้ชิดกัน แบบเป็นพี่น้อง เป็นพ่อลูกกันชนิดที่คุยกันทุกเรื่องได้ เพราะป๊าเขาจะรู้สึกว่าเขาจะไม่ค่อยเอาเรื่องอะไรต่างๆ มาเล่าให้ลูกฟัง กรีนก็อยากให้เขาคุยแบบนั้น กรีนก็อยากนั่งคุยกับเขาแบบเปิดใจกัน แต่ผู้ใหญ่เขาก็จะมีมุมของเขา ก็ไม่ทันได้คุยกัน นี่คือสิ่งที่ทำให้เราเสียใจด้วยค่ะ คือทั้งกรีนและน้องสาวก็รู้สึกว่ามันเร็วมาก ไม่ได้บอกลา ไม่ได้บ๊าย บายกันเลย ไม่ได้ลากันเลย มาเห็นอีกทีคือเป็นศพแล้ว เราก็ไปไม่ทัน เพราะกรีนต้องเดินทางหลายต่อมาก ไปถึงคือบวมแล้ว (น้ำตาซึม)”
บอกตอนตนและน้องสาวก็คงต้องช่วยกันเป็นเสาหลักของครอบครัว
“ตอนที่คุยกับป๊าเมื่อกี้ก็เคาะโลงค่ะ แล้วก็บอกว่ากรีนมาแล้วนะ ทุกคนก็มา ครอบครัวทุกคนก็มา มาส่งป๋ะป๊าเป็นครั้งสุดท้าย ก็อยากให้ป๋ะป๊ามีความสุขค่ะ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเครียด เพราะตอนที่เขามีชีวิตอยู่เขาค่อนข้างเครียดมากในเรื่องของงาน กรีนอยากให้เขาไปแบบมีความสุขสบายจริงๆ เรื่องอะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นทางกรีนและน้องๆ จะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างเองค่ะ ถามว่าพร้อมเป็นเสาหลักของครอบครัวมั้ย ก็พร้อมค่ะ จริงๆ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของลูก และเสาหลักก็ไม่ได้มีแค่กรีนหรอกค่ะ ก็มีน้องสาวกรีนด้วยเหมือนกัน ซึ่งเราก็ช่วยเหลือกันอยู่ค่ะ”
“จริงๆ คุณแม่เข้มแข็งกว่ากรีนเยอะเลยค่ะ พอกรีนเข้ามาบ้าน แม่พูดก่อนเลยว่า ป๊าเสียแล้ว กรีนยังไม่ทันตั้งตัวเลย แม่เขาก็พูดกับกรีนว่าป๊าไปดีแล้ว ไม่เป็นไรๆ เราเข้มแข็ง แม่ร้องไห้น้อยมาก แต่กรีนร้องไห้เยอะมาก หลังจากนี้ก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ แล้วก็ทำให้ดีขึ้น มีอะไรที่เราต้องสะสางในเรื่องของป๊ะป๊าเราก็จะช่วยกันสะสางและรับผิดชอบ ซึ่งครอบครัวเราทุกคนวันนี้ก็มาแล้วก็จะมานั่งคุยกันหลังจากที่จบงานศพของป๊ะป๊า เผาเรียบร้อย เราก็จะมานั่งคุยกันว่าจะทำยังไงต่อไปเรื่องธุรกิจของเขาค่ะ”
เผยไม่ขอรับพวงหรีด แต่ขอรับเป็นเงินบริจาคเพื่อสมทบทุนนำไปทำบุญให้ศพไร้ญาติ
“ก็ด้วยกะทันหันค่ะ และด้วยกรีนที่มีงานลงตารางไว้แล้ว และน้องกรีนก็งานค่อนข้างแน่น ก็เลยตั้งศพไว้วันที่ 15-17 แล้วก็มีพิธีเผาวันที่ 19 พฤษภาคมค่ะ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขนค่ะ แล้วกรีนก็คุยกับทางครอบครัวว่าครั้งนี้เราไม่ขอรับพวงหรีดนะคะ แต่ขอรับเป็นเงินบริจาคเพื่อไปทำบุญให้ศพไร้ญาติค่ะ ก็เป็นความตั้งใจของครอบครัวค่ะ อันนี้เป็นความคิดของกรีนกับน้องค่ะ เพราะกรีนไม่อยากให้คนที่มาเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของพวงหรีดเยอะด้วยค่ะ อยากให้เป็นสมทบทุนแล้วช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่า นี่คือสิ่งที่ป๊าสอนมาตลอดว่าการเป็นผู้ให้ เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าที่เราจะเป็นผู้รับ เราต้องเป็นผู้ให้ก่อนที่จะเป็นผู้รับค่ะ”