xs
xsm
sm
md
lg

"จั๊ก ชวิน" วอน "จอห์น รัชตะ" ยืดอกรับผิด ไม่ได้เป็นคนแต่งทำนองเพลงเจ้าปัญหา “ช.เอ ณ บางช้าง” จัดหนัก ฟ้อง 3 ข้อหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ช.เอ ณ บางช้าง” ฟ้อง “จอห์น รัชตะ” 3 ข้อหา ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง-ฉ้อโกง-ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แฉนอกจากนำทำนองเพลงเจ้าปัญหามาหลอกขายตนแล้วยังเอาทำนองเพลงดังกล่าวไปหลอกขายให้ค่ายอื่นอีกด้วย เริ่มกังวล 10 เพลงที่ซื้อมาจะเป็นของใคร แฉอีกฝ่ายร้อนเงิน ช่วยเพราะเห็นว่าลำบาก ด้าน "จั๊ก ชวิน" ยันเป็นเจ้าของทำนองเพลงตัวจริง วอนจอห์นยืดอกรับความจริง ไม่ใช่คนที่แต่งทำนองเพลงเจ้าปัญหา

วันนี้(14 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สน.โชคชัย "นายธัชชัย" หรือที่รู้จักกันในนาม “ช.เอ ณ บางช้าง” โปรดิวเซอร์ชื่อดังในวงการเพลง และบรรดาผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางมาพบ “พ.ต.ท. พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์” รอง ผกก.สน.โชคชัย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนาย “จอห์น รัชตะ” หรือ “จอห์น The voice” ที่นำทำนองเพลงติดลิขสิทธิ์ เพลงหวังเพียงรักจริง เพลงประกอบละครแรงเงา2 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มาหลอกขายตน ที่รับซื้อทำนองเพลงนี้แล้วจัดทำเป็นเพลงขึ้นมา ชื่อว่า ไม่เคยลืมเธอจากหัวใจ เป็นเพลงประกอบละครกุหลาบเกราะเพชร ให้กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งออกอากาศในวันเดียวกัน จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาขึ้น ซึ่งช.เอ ณ บางช้าง และเหล่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับเพลงดังกล่าวได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า....

ช. เอ ณ บางช้าง : "เรื่องราวเกิดขึ้นเกิดจากตัวผมรับจ้างผลิตเพลงให้กับทางค่ายของนายโอริเวอร์ บีเวอร์ ที่ผลิตละครให้กับทางช่องหนึ่ง ก็มีการตกลงกันว่าเราจะทำเพลงประกอบละครให้นายโอริเวอร์ ผมก็ได้เลือกเพลง เอาทำนองมาเพื่อจะมาทำเพลงประกอบ มีการเลือกเพลงกันระหว่างโอริเวอร์"

"พอเลือกเพลงได้ปุ๊บก็มาทำการดำเนินการ เขียนคำร้อง เรียบเรียงใหม่ แต่เพลงที่ถูกเลือกมานั้นเป็นเพลงของคุณจอห์น รัชตะ ที่นำทำนองมาขายให้ โดยที่ตอนนั้นที่นำมาขายให้ผมก็ประมาณปลายปี 2560 ซึ่งตอนนั้นผมก็ทำค่ายเพลงร่วมกับเพื่อน เรามีการซื้อขายโอนเงินกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเราซื้อทำนองมาเสร็จ เรียบเรียงมาเรียบร้อยแล้วเพื่อจะนำไปทำเพลงประกอบละคร นายบีเวอร์ก็นำไปตัดต่อเข้ากับละครทั้งหมด"

"จังหวะวันที่ละครแรงเงาทางช่อง 3 ออนแอร์วันแรก ซึ่งเป็นวันแรกที่ละครของนายบีเวอร์ออนแอร์ด้วย ออนแอร์พร้อมกัน วันนั้นผมก็ตรวจงานเพลงอื่นๆ อยู่ พอจบจากละครนายบีเวอร์ ผมก็มาตรวจเพลงแรงเงาดู ซึ่งเพลงไตเติ้ลของแรงเงา มันเหมือนกับเพลงที่เราได้ทำให้กับเพลงค่ายของนายบีเวอร์ ผมก็เอ๊ะ...ทำไมมันเหมือนกันขนาดนี้ เลยไปหาข้อมูลว่าใครเป็นคนร้อง ใครเป็นคนแต่ง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมมันถึงเหมือนกัน เลยได้ข้อมูลมาว่าเป็นเพลงที่คุณปีเตอร์ คอร์ป ร้องไว้ แต่งโดยคุณจั๊ก ชวิน"

"ทางเรากับนายบีเวอร์เองก็ช่วยกันหาข้อมูล เพราะเราต้องการความชัดเจน เลยมีการติดต่อประสานไปที่คุณจั๊ก ถามคุณจั๊กเพลงนี้ใครมาเอาขายคุณจั๊ก หรือว่าคุณจั๊กทำเอง แกก็บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่คุณจั๊กทำเองตั้งแต่ต้น มีข้อมูลดาต้าครบหมดทุกอย่าง ผมก็ถามต่อว่าถ้าคุณจั๊กทำเองแล้วเพลงนี้คุณจอห์นเอามาขายผมได้ยังไง คุณจั๊กก็บอกว่าคุณจั๊กไม่รู้จักคุณจอห์น รัชตะ ผมก็ถามต่ออีกว่าคุณจั๊กได้เอาเพลงนี้ไปให้ใครหรือเปล่า ก็บอกก็มีบ้าง ได้ส่งเพลงนี้ให้กับคุณศราวุธ แสงบุตร"

"ผมก็ถามต่อว่าคุณจอห์นเอามาขายให้ผมได้ยังไง ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องแจ้งกับบีเวอร์ไปก่อนว่ายังไงก็ตามเราจะต้องถอดเพลงนี้ออกก่อน ทางบีเวอร์ทำการถอดเลย มันเหมือนเป็นการให้เกียรติกันระหว่างผู้ทำละครทำสื่อด้วยกัน พอเราถอดเพลงแล้วเราก็มาสืบกันต่อว่ามันเกิดเรื่องราวแบบนี้ได้ยังไง ก่อนหน้านี้ผมได้มีการมาลงบันทึกประจำวันว่าผมซื้อทำนองเพลงมาจากจอห์น รัชตะ เรียบเรียงมาเรียบร้อย ซึ่งคุณจอห์นบอกว่าเขาทำเพลงร่วมกับคุณศราวุธ ผมก็ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าแบบนั้น”

เผยได้ทำการติดต่อนัดหมายพูดคุยกับ “จอห์น” ถึงเรื่องดังกล่าวแต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ผิดนัดจึงทำให้ตนต้องมาลงบันทึกประจำวันและดำเนินคดี
ช. เอ ณ บางช้าง : "ก่อนหน้าที่ผมจะไปลงบันทึกประจำวัน วันที่ 7 พ.ค. ตอน 2 ทุ่ม ผมโทร.บอกจอห์นว่าจอห์นปัญหาเพลงมันได้เกิดขึ้นแล้ว ทำนองมันไปซ้ำกับละครอีกช่องนึง มันเกิดอะไรขึ้น ไหนจอห์นบอกว่าจอห์นทำเพลงนี้ ถ้าจอห์นทำเพลงนี้แล้วเอามาขายพี่ ทำไมเพลงมันไปเหมือนกับทางนั้น จั๊กเขาบอกว่าเขาเป็นคนทำนะ แล้วถ้าไม่ใช่เพลงของจอห์นเอามาขายพี่ทำไม ทางบีเวอร์เขาก็บอกว่าเขาต้องการรู้ความจริง"

"คือเราก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องเขา เราไม่ได้อยากให้มันเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต เราก็บอกว่าให้จอห์นมาคุยกับบีเวอร์ เพราะบีเวอร์ต้องการรู้คำตอบที่แท้จริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาจะได้นำแจ้งนายทุนได้ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นปัญหามันจะได้ไม่เกิด"

"ก็นัดกัน เขาหลอกให้ผมไปนั่งรอเขาตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงตีหนึ่ง วันนั้นก็ได้คุยกับคุณติ๊ก อริยะ ที่เป็นคนเรียบเรียงเพลงนี้ และเป็นคนที่จอห์นเป็นคนจ้าง ผมไม่ได้รู้จักกับติ๊ก อริยะมาก่อน เพลงนี้จอห์นเอามาขายผมเสร็จ ผมจ้างจอห์นทำต่อในการเรียบเรียง เขียนเนื้อร้อง ซึ่งจอห์นก็เป็นคนแนะนำติ๊ก อริยะให้ผมรู้จัก ผมก็บอกให้ติ๊กมานั่งเป็นพยานด้วยจะได้ฟังจอห์นเขาพูดว่ายังไงจะได้ไปคุยกับบีเวอร์ด้วยกัน"

"ผมกับติ๊กก็นั่งรอจอห์นกันจนถึงตี1 แต่ก็ไม่มา ทุกวันนี้เขาก็รู้อยู่ว่าในทางสื่อพอเรื่องออกไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เขาก็ไม่มีการติดต่อผมมา แล้วเขายังเอาผมไปอ้างกับคนอื่นว่าถ้าจะจ้างผมทำงาน ให้มาจ้างกับเขาโดยตรงเลยก็ได้ เพราะเดี๋ยวผมก็ต้องไปจ้างจอห์นอีกที ซึ่งผมก็ให้อภัย ไม่เป็นไรผมเป็นคนใจดี แต่ผมก็ถามเขานะว่าทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง ผมไปทำอะไรให้ ผมไม่ดีกับเขาตรงไหน มาทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง เขาก็ไม่ตอบ เรื่องราวทั้งหมดที่ออกสื่อไปแล้วเขาก็รับรู้มาตลอด"

"เรื่องราวแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในวงการเพลงบ้านเรา รวมถึงวงการละครด้วย ในเรื่องลิขสิทธิ์ต้องบอกว่า พอเราสืบทราบเรื่องทั้งหมด ในหมู่ของนักทำเพลงเขาไม่ทำกันถ้ามีการซื้อขายกันแล้ว อย่างที่จั๊กบอกถ้าศราวุธบอกว่ามีการซื้อขายกันแล้ว เขาก็จะไม่มีการซื้อขายกับทางช่อง 3 ต่อ"

ด้าน "นายศราวุธ แสงบุตร" ได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเองว่าตนได้ส่งโปรเจกต์ทำนองเพลงดังกล่าวให้ "จอห์น รัชตะ" จริง เพื่อทำเพลง แต่สุดท้ายไม่มีเนื้อร้อง จึงล้มเลิกโปรเจกต์ไป แต่ไม่ได้บอกให้อีกฝ่ายทราบว่าจะไม่ทำแล้ว
ศราวุธ : "เท้าความไปเมื่อประมาณ 2559 ผมได้คุยกับจั๊กว่าให้ช่วยทำทำนองเพลงนี้ให้หน่อย ซึ่งทำนองเพลงนี้จะต้องถูกเขียนเนื้อร้องต่อ แต่คนเขียนเนื้อร้องไม่สามารถทำให้ได้ เลยส่งต่อให้จอห์น ให้จอห์นร้อง แล้วจอห์นเอาทำนองของจั๊กไป พอไม่มีเนื้อร้องผมก็ต้องยุติเพลงลง แต่ผมไม่ได้ติดต่อประสานงานกับใครไป เพิ่งจะมาทราบเมื่อไม่นานนี้เองว่าจอห์นได้เอาเพลงไปขายต่อเสียแล้ว"

ด้านหนุ่ม "จั๊ก ชวิน จิตรสมบูรณ์" ในฐานะคนแต่งทำนองเพลงที่ถูกละเมิดลิขสิทธ์ ลั่นไม่ติดใจเอาความแต่อยากให้ “จอห์น” ออกมายอมรับผิดต่อสังคม ส่วนหนุ่ม "ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล" ในฐานะนักร้องที่ร้องเพลง เพลงหวังเพียงรักจริง เพลงประกอบละครแรงเงา 2 ยอมรับรู้สึกเป็นห่วง แต่ตอนนี้เมื่อเรื่องถูกดำเนินคดีก็รู้สึกสบายใจขึ้น
จั๊ก : "ผมไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ด้วยผมไม่เคยรู้จักกับจอห์นเลย ก็คิดว่าไม่ได้คิดจะอะไรเพราะคนที่เสียหายน่าจะเป็นตัวจอห์นเองมากกว่า ผมอยากให้เขายอมรับว่าเขาไม่ได้เป็นคนแต่งเพลงนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้พี่ ช. เอ เป็นคนจัดการแล้วกัน"

ปีเตอร์ : "มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ผมเองตอนแรกก็รู้สึกเป็นห่วงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตัวผมทำเพลงกับทางจั๊ก ทางปิงปอง ศิรศักดิ์ด้วยกันมานานมากแล้วเป็นทีมโดยที่ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน บอกตรงๆ ว่าถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกว่ามันมีการเอาไปขายให้กับทางช่อง7 ก็คงเปลี่ยนไปทำเพลงอื่นด้วยอารมณ์เซ็งๆ กัน เพราะเราไม่อยากจะให้มันเป็นเรื่องกัน"

"แต่ก็ไม่มีใครรู้ ทุกคนเพิ่งมารู้หลังจากที่พี่เอติดต่อมาว่าลิขสิทธิ์เป็นของใครกันแน่ แต่ก็ต้องยกเครดิตให้กับทางช่องที่คุณบีเวอร์สืบไปสืบมาทำให้รู้เรื่องได้เร็วมาก แล้วก็ถอดเพลงออกไป ในมุมของศิลปินกับคนแต่งเพลง ผม จั๊ก และปิงปอง เราดูว่ามันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในเรื่องของการทำงานมากกว่า เป็นห่วงว่าถ้าทำอย่างนี้ได้แล้วต่อไปเขาจะไปอ้างอิงว่าเป็นของเขาอีกหรือเปล่า"

"วันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเรื่องทั้งหมดที่สร้างความเสียหายให้หลายๆ คน หลายๆ ฝ่าย รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 ช่อง เกิดขึ้นจากคนๆ เดียว ตอนแรกเป็นห่วงแต่ตอนนี้เริ่มสบายใจในความน่าเชื่อถือในฝ่ายของจั๊ก เขาทำเพลงมาเยอะ ก็สงสารทุกฝ่ายโดยเฉพาะพี่เอ ที่เป็นคนที่ถูกเพ่งเล็งตั้งแต่แรก ตัวผม ผมไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่ด้วยความที่สนิทกับจั๊กมากก็เป็นห่วง เขาเป็นคนไม่ค่อยอยากจะเอาเรื่องใคร อย่างที่บอกถ้ารู้ตั้งแต่แรกเราก็จะได้หันไปทำเพลงอื่น แต่เรื่องมันเกิดแล้ว เรื่องมันก็ชัดเจน จั๊กเขาก็คงไม่อะไรมาก ก็อยู่ที่พี่เอแล้วที่จะดำเนินการต่อ"

ช. เอ ณ บางช้าง : "ต้องบอกว่าเพลงนี้ลิขสิทธิ์ได้ถูกขายให้กับทางหนึ่ง (ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์)ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหนึ่งได้มอบอำนาจให้ผมเป็นคนดำเนินการฟ้องร้องในเรื่องของลิขสิทธิ์เพลง แล้วผมจะแต่งตั้งทนายขึ้นมา ให้ทนายเป็นคนดำเนินการในเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษในเรื่องของลิขสิทธิ์ต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นการเอาเยี่ยงอย่าง เพราะจริงๆ ส่วนตัวเราไม่ได้โกรธเขาขนาดนั้น แต่มันเป็นเรื่องที่มันต้องเป็นบรรทัดฐานเพื่อจะได้ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับในวงการเพลง วงการละครอีก"

ลั่นจะดำเนินคดีกับทาง "จอห์น" ในข้อหาฉ้อโกงและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง รวมทั้งยังได้อำนาจจาก "หนึ่ง ณรงค์วิทย์" ฟ้องร้องในคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง
ช.เอ ณ บางช้าง : “ทางบริษัทแชนเดอเลีย ของหนึ่ง ณรงค์วิทย์ คงจะเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ของผู้ประพันธ์เพลง ซึ่งตรงนั้นเป็นลิขสิทธิ์ของทางหนึ่งแล้ว ซึ่งเขาให้ผมช่วยดูแลคดีให้ ส่วนตัวผมจะเป็นเรื่องของทางอาญา ในทางฉ้อโกง เพราะเขาได้ทำสิ่งที่ไม่ได้เป็นของของเขามาหลอกขายให้ผม อีกข้อคือเรื่องที่ทำให้ผมเสียชื่อเสียง ทำให้ผมขาดรายได้ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต่อไปบริษัทอื่นๆ เขาจะให้รับความไว้วางใจในตัวผมหรือเปล่า ในการที่ผมจะแต่งเพลงหรือทำเพลงให้เขาต่อไป วันนั้นที่เกิดเรื่องหลังจากที่ทำการถอดเพลงผมก็ได้แจ้งกับทางบีเวอร์ไปว่าเดี๋ยวผมแต่งเพลงใหม่ให้เลย ทางช่องของบีเวอร์บอกไม่ต้อง เดี๋ยวเขาเอาเพลงจากส่วนอื่นมาดีกว่า เขาไม่อยากเสี่ยง"

บอกซื้อทำนองเพลงดังกล่าวมาจาก "จอห์น รัชตะ" ราคา 2 หมื่นบาท พ้อความเสียหายประเมินค่าไม่ได้กับชื่อเสียงของตน แล้วยังทำให้ชื่อเสียงของนามสกุลต้องมาเสื่อมเสียด้วย
ช.เอ ณ บางช้าง : "ยังไม่ได้คิดไว้ว่าค่าเสียหายจะเรียกเท่าไหร่ ต้องปรึกษากับทางทนายอีกที สำหรับผมมันประเมินค่าไม่ได้ ผมเองก็รับผิดชอบเป็นมิวสิกไดเรคเตอร์ ทำเพลงให้กับรายการ ละคร โฆษณามาค่อนข้างเยอะ เมื่อข่าวมันถูกออกไปอย่างนี้ ความไว้วางใจของผมมันก็เสียหายค่อนข้างเยอะมาก"

"สำหรับราคาซื้อขายเพลง เราให้เขาไป 2 หมื่น ด้วยตอนนั้นเขาเดือดร้อน เขากำลังมีปัญหารถกำลังจะถูกล็อก บ้านกำลังจะโดนยึดอะไรประมาณนี้ เขาเลยเอาเพลงมาขายให้เรา ซึ่งเขาส่งเพลงมาให้ผมเป็น 10 เพลงเลยมาให้เลือก ผมก็คุยกับทางหุ้นส่วนผมว่าเราจะเอาเพลงไหนดี สุดท้ายผมก็บอกไม่เป็นไรน้องมันเดือดร้อน โอนเงินไปให้มันก่อนเลยแล้วกัน 2 หมื่นแล้วเราค่อยมาเลือกว่าเราจะเอาเพลงไหน หลังจากนั้นเราก็เลือกกันว่าเราจะเอาเพลงนี้มาทำเพลงประกอบละครให้กับบีเวอร์ ในอัตราตรงนั้นคือ 1 หมื่นบาท เขาจะต้องทำเพลงให้ผมอีก 1 เพลง ซึ่งผมตกลงทำเพลงให้กับบีเวอร์ 2 เพลง ผมเองนอนไม่หลับมาเป็นอาทิตย์ รู้สึกว่าทำไมเรื่องแบบนี้จะต้องมาเกิดกับเราด้วย ทำให้นามสกุลเราต้องมาเสียชื่อเสียง"

ลั่นส่วนตัวไม่สนิทสนมกับ "จอห์น" แต่สงสารเพื่อนร่วมวงการที่กำลังลำบากแต่มีความสามารถจึงช่วยเหลือกันมา
ช.เอ ณ บางช้าง : "ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยมีเอาเพลงมาขาย แต่ว่าตอนที่ขายตอนนั้นเจ้าตัวคนที่แต่งเขาไม่อยู่ แต่ก่อนเป็นการคุยกันโดยตรงไม่มีการผ่านกันแบบนี้ อันนี้เราให้เขาไปทำเต็มตัวเลย หลังจากที่เราเอาเพลงไปให้บีเวอร์ดู แล้วบีเวอร์โอเคเรียบร้อย เราก็บอกจอห์นว่าทางนี้ซื้อแล้ว จอห์นรับผิดชอบต่อเลย เอาทีมทำนองมาทำเรียบเรียง เอาคนมาเขียนเนื้อให้เรียบร้อย"

"ซึ่งผมก็จ้างเขาไปต่างหาก ความไม่น่าไว้ใจมันก็เริ่มเกิดขึ้นมาหน่อยๆ เริ่มจากติ๊ก อริยะไม่ได้รู้จักกับผมมาก่อน เมื่อเรามีการทำงานร่วมกันแล้วเพลงนี้จริงๆ จอห์นเขาจะต้องเป็นคนร้อง เมื่อจอห์นไปร้องกับติ๊กเรียบร้อยแล้ว ติ๊กก็โทรมาแจ้งกับผมว่าเสียงจอห์นไม่ได้ ไม่เหมาะ จอห์นเขาออกเสียงไม่ชัด เราจะทำยังไงดี ผมก็บอกงั้นเราต้องหาคนร้องกันใหม่ ผมก็หาคนร้องใหม่แทนเขา ทำไปสักพักติ๊กก็มาเบิกเงินกับผม ผมก็บอกว่าเบิกไม่ได้เพราะผมคุยกับจอห์น เดี๋ยวผมจะให้ผ่านจอห์นไปแล้วพี่ไปคุยกับจอห์นเองแล้วกัน ติ๊กก็บอกว่าผมไม่ไว้ใจจอห์น เพราะถ้าพี่ไปให้จอห์น จอห์นไม่ให้ผม ผมไม่ให้ลิขสิทธิ์ในเรื่องการเรียบเรียงนะ ฉะนั้นพี่ต้องจ่ายผมในส่วนของผมที่ผมจะต้องได้"

"ผมก็เลยจ่ายเงินให้ติ๊กไปก่อน ผมติดต่อจอห์นไปแต่เขาก็ไม่รับโทรศัพท์เลย ถ้าเขามีเจตนาที่ชัดเจนที่อยากจะเคลียร์ตัวเอง เขาก็น่าจะต้องมาแล้ว เหมือนกับศราวุธ ผมไม่สามารถติดต่อกับศราวุธได้เลยนะ แต่เขาก็ไปหาเบอร์ติดต่อมาจนได้ เขาก็โทร.มาหาผมเมื่อเช้า ว่าเขาเห็นข่าว เขาอยากจะเข้ามาเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนเพราะเขากลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงและความไว้วางใจ ซึ่งจอห์นเองก็สามารถทำได้เช่นกัน มีเบอร์กันอยู่แล้วแต่จอห์นก็ไม่คิดจะทำ"

แฉนอกจาก "จอห์น" จะเอาทำนองเพลงเจ้าปัญหามาหลอกขายตนแล้ว ก็ทราบมาว่าอีกฝ่ายยังเอาเพลงดังกล่าวไปหลอกขายค่ายเพลงอื่นด้วย เชื่ออีกฝ่ายทำเพียงลำพังไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้อง
ช.เอ ณ บางช้าง : "มีอีกเรื่องคือหลังจากที่เขาตกลงทำเพลงให้กับทางละคนของบีเวอร์กับผมเรียบร้อยแล้ว ชื่อของไฟล์ที่ถูกทำที่เรียบเรียงโดยติ๊ก อริยะมันจะถูกเปลี่ยน เมื่อมีทำนอง เรียบเรียงเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นดนตรีเฉยๆ ที่ยังไม่มีเนื้อร้อง ติ๊กได้ส่งให้จอห์นไปซ้อมร้อง จอห์นกลับไปไฟล์นี้ไปขายให้อีกค่ายนึง เมื่อเกิดเป็นข่าวขึ้น ทางค่ายเพลงนั้นก็ส่งข้อมูลมาให้ บอกว่าพี่ผมเกือบซวยแล้ว เขาเอาเพลงนี้มาขายผมด้วย ผมเกือบจะซื้อไว้แล้ว"

"แล้วเขาก็ส่งคำที่จอห์นนำเสนอขายเขาในราคาเท่าไหร่ ยังไง พร้อมไฟล์เพลงที่ถูกทำเพื่อทำเป็นเพลงประกอบให้กับละครของบีเวอร์ไปให้อีกค่ายนึง เรามองเห็นเจตนาเขาแล้ว คิดว่าผมควรจะทำยังไงกับเขาดี เราควรจะทำยังไงกับคนแบบนี้ที่ทำให้วงการเราเสื่อมเสีย คือเราเป็นมนุษย์ มีผิดพลาดเราให้อภัยกันได้ ถ้าคุณไม่มีเจตนา ความตั้งใจจะทำ หรือคุณมารีแพร์ตัวเองได้นี่ว่าคุณจำเป็นอะไรยังไง มันก็คงจะให้อภัยกันได้ แต่นี่เจตนามันเลยเถิดไปมาก ผมยังไม่รู้เลยว่าในมือผมที่มีเพลงเขาอยู่ 10 เพลงนี่เป็นเพลงของใครบ้าง(หัวเราะ)"

"ผมว่าเขาเป็นของเขาคนเดียวนี่แหละ เมื่อข่าวได้ถูกออกไปก็จะมีคนในวงการก็ออกมาให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเขาในทางที่ไม่ดีทั้งนั้นเลย เขาค่อนข้างมีเนเจอร์เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ส่วนตัวผมเองไม่ได้สนิทกับเขา แต่ด้วยความเอ็นดู สงสารเพื่อนในวงการเดียวกัน เราก็รู้สึกว่าเราช่วยได้ถ้าน้องเดือดร้อน ลำบากอยู่ ในเมื่อเขามีความสามารถเราก็พยายามจะช่วยเหลือ เรื่องนี้มันไม่ได้เสียหายเฉพาะผม มันกระทบกระเทือนวงการเพลงทั้งหมด"

ด้าน "พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์" รอง ผกก.สน.โชคชัย เผยว่าจะดำเนินการในคดีนี้ให้เร็วที่สุด บอกเตรียมยื่นออกหมายเรียก "จอห์น" เพื่อมาสอบปากคำในเร็วๆ นี้
ตำรวจ : “ทางเราพร้อมที่จะดำเนินการในคดีนี้ให้เร็วและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เท่าที่ฟังก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายทั้งสองฝ่าย ผมว่าตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนวนหลักฐานพร้อมแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาคือคุณจอห์นมา ก็ต้องมาฟังทางผู้ถูกกล่าวหาด้วยว่าเขาจะให้การว่ายังไง 2 ครั้งไม่มาก็ออกหมายจับ”


กำลังโหลดความคิดเห็น