“บูม” โวคบ “กีฟ” 7 ปี ความรู้สึกยังเหมือนวันแรกที่ตกหลุมรักฝ่ายหญิง จีบทุกวัน ลั่นมีเสน่ห์ไม่น่าเบื่อ จะไม่ปล่อยให้หลุดมือ เล็งขอแต่งงานต่อหน้าคุณพ่อฝ่ายหญิง แพลนอีก 1-2 ปีแต่งงาน ขอสร้างเนื้อสร้างตัวให้เต็มที่ก่อน อนาคตครอบครัวไม่ซีเรียสเรื่องมีลูก ไม่ให้กีฟฝากไข่พึ่งหมอให้เจ็บตัว
รักหวานกันมา 7 ปีแล้วสำหรับคู่ของสาว “กีฟ ดราภดา โสตถิพิทักษ์” และหนุ่ม “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” เมื่อถามว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีลั่นระฆังวิวาห์ หนุ่มบูมก็เล่าให้ฟังว่าตอนนี้พร้อมกับชีวิตคู่แล้วแต่ขอเวลาสร้างเนื้อสร้างตัวอีก 1-2 ปี ค่อยแต่งงาน
บูม : “จริงๆเ รายังไม่ได้คุยกันเป็นจริงเป็นจังว่ามันจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่แล้วคอนเซปต์มันจะเป็นอย่างไร แต่เรามีการคุยกันคร่าวๆ ทุกครั้งเวลาเราไปไหน ไปทำอะไรแล้วเราเจอสิ่งที่เราชอบ ว่าแบบ...อยากให้อันนี้มันอยู่ในงานเราเนอะ หรือเวลาที่เราไปงานแต่งงานของรุ่นพี่หรือเพื่อนเราก็มาคุยกันว่าอันนี้ดี อันนี้ไม่ดียังไง”
กีฟ : “เป็นความคิดฟุ้งๆ กันมากกว่า ยังไม่ได้มีดีเทลว่าจะยังไง”
บูม : “เพราะว่ามันยังไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ ในปีนี้ ถามว่าบูมพร้อมมั้ยจริงๆ ก็พร้อมแล้วนะ แต่บูมอยากได้อีกสัก1-2ปี อยากให้เรื่องของระยะเวลามันพร้อมมากกว่านี้ อยากให้การงาน ธุรกิจอะไรต่างๆ มันมั่นคงที่สุดที่เราพอจะทำได้ อย่างธุรกิจเราก็สร้างกันมาด้วยกันก็อยากทำให้มันดีที่สุด”
กีฟ : “จริงๆ อายุเราก็เรียกว่าแต่งได้แล้วแหละ”
แย้มคาดว่าไม่มีโมเมนต์คุกเข่าขอแต่งงานสาว “กีฟ” แต่เป็นการพูดคุยต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
กีฟ : “ตัวเราไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องมีอะไรแบบนั้น แต่เขาเป็นคนที่ทำเซอร์ไพรส์ไม่ค่อยสำเร็จ”
บูม : “ถ้าบอกมันก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ(หัวเราะ) เรื่องเซอร์ไพรส์ผมก็รู้สึกว่าทุกคนก็ต้องอยากมีโมเมนต์นั้น”
กีฟ : “คือเวลาเขาเก็บอะไรเอาไว้ คิ้วเขาจะกระตุก เราก็จะรู้ว่าเขามีอะไรซ้อนไว้”
บูม : “เรื่องที่ซีเรียสน่าจะเป็นเรื่องของการให้เกียรติครอบครัวเขามากกว่า ถ้าเป็นวันที่บูมจะขอเขาจะคุยกับเขาจริงๆ คงให้ผู้ใหญ่ของเราทั้งคู่อยู่ด้วย ให้เป็นสักขีพยาน อย่างน้อยคุณพ่อเขาต้องเห็นด้วยว่ามันเหมาะสมแล้ว"
"เราคงไม่แอบขอกันสองคนโดยที่ผู้ใหญ่ไม่รับรู้ บูมขอเขาแต่งงานเขาตอบตกลงเสร็จ คุณพ่อเขายังไม่อยากให้แต่ง บูมก็คงไม่ทำแบบนั้น ก็คงรอให้ทุกอย่างมันพร้อม ให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ด้วยพร้อมๆกัน”
กีฟ : “พ่อไม่เร่งเลย พ่อชิลมาก”
บูม : “ท่านเข้าใจครับ จริงๆ พ่อก็ติดตามข่าว เขาก็รู้ทุกอย่างว่าเรายังไง แล้วผมเองก็เป็นคนที่พูดตรงๆ ตั้งแต่เริ่มคบกัน ขอเป็นแฟนผมก็ไปขอต่อหน้าคุณพ่อเขา เขาจะรู้อยู่แล้วว่าเราจะทำอะไรเราจะพูดจะขอกับเขาตรงๆอยู่แล้ว”
กีฟ : “แม่เขาเอ็นดูพี่บูมมากๆ”
บูม : “ครอบครัวผมก็ชอบกีฟ ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน”
เผยอนาคตครอบครัวไม่ซีเรียสเรื่องมีลูกหากธรรมชาติไม่จัดสรรคมาให้ เพราะไม่อยากให้สาว “กีฟ” ต้องมาเจ็บทรมานกับวิธีการต่างๆ ตามวิธีทางการแพทย์
บูม : “ก็ยอมรับว่าเคยคุยกัน ช่วงนี้พี่ๆ เพื่อนๆ ก็ทยอยแต่งงานกันเยอะ แล้วเขาก็มีลูกน่ารักๆ กันทั้งนั้นเลย เราก็คุยกันว่าคู่เราไม่ซีเรียสนะ ถ้าสมมติคู่เราแต่งงานกันไปแล้ว ถ้ามันจะมีเราโอเค ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ถ้าจะไม่มาหรือมันยากกับการที่จะมีก็จะไม่ไปฝืนธรรมชาติ"
"คงจะไม่ไปฝากไข่ พึ่งหมอ ผมไม่อยากให้เขาต้องเครียดเกินไป หรือต้องมาเจ็บตัว เราไม่ซีเรียสถ้าเขาไม่อยากเจ็บไม่อยากทำเราโอเค ถ้าเราสามารถมีธรรมชาติเองได้เราโอเค เราไม่ซีเรียส เพราะที่บ้านเราทั้งคู่มีหลานๆ มีเด็กๆ เยอะ ถ้าเขาไม่พร้อมจะมาเกิดเป็นลูกเรา เราก็เลี้ยงหลานไปเพราะเราเองก็รักเหมือนลูกอยู่แล้ว”
โวรัก 7 ปีที่ผ่านมาความรู้สึกทุกวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนวันแรกที่ตกหลุมรักฝ่ายหญิง ด้านสาว “กีฟ” เผยแฟนหนุ่มเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยมีช่วงโปรโมชั่น
บูม : “ผมว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมยังรู้สึกตกหลุมรักเขาเหมือนตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ก็ยังจีบเขาเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน”
กีฟ : “เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย อะไรที่เคยทำเขาก็ยังทำอยู่ ข้อดีของเขาคือเขาไม่มีช่วงโปรโมชั่น เขาเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นมาตลอด เราเองก็ยังเหมือนเดิม ด้วยเราเป็นคนที่ชัดเจน ตรงๆ เขาก็จะเห็นนิสัยจริงๆ ของเราแต่แรกว่าเราไม่ใช่คนที่จะมาประดิษฐ์ว่าดูหวาน ดูเป็นผู้หญิงทานน้อย”
บูม : “ทุกวันนี้เราเลยมีความสุขกันที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดโดยไม่ต้องมาเขินกัน เราก็ได้เห็นเสน่ห์ ความน่ารักของเขา ทำให้เราไม่เบื่อ ส่วนเรื่องมุมทะเลาะกันมันต้องมีอยู่แล้ว ด้วนสังคมที่เราเหมือนอยู่กันคนละโลก แต่เวลาที่เราทะเลาะกันทุกครั้งเพื่อที่เราจะเรียนรู้ จะปรับปรุง และแก้ไข เราจะไม่ยอมปล่อยมือกัน เราก็จะทะเลาะกันไปเรื่อยๆ เราก็จะทะเลาะกันแล้วจบ แล้วก็ทะเลาะกันใหม่เรื่อยๆ แต่ไม่มีการกลับไปทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ”