มีบรรดาแฟนหนังจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ต่างก็พากันสงสัยว่าภายหลังจากที่หนังรวมพลซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Avengers: Endgame เข้าฉายไปแล้ว ค่ายหนัง "มาร์เวล" เองจะสร้างจักรวาลอะไรออกมาอีกด้วยความรู้สึกว่าการมารวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีไร่ทั้งหลายใน Avengers นั้นคือที่สุดแล้ว
ประมาณว่าต่อให้มีภาคแยกของแต่ละตัวออกมาความสนุกจะเท่ากับก่อนหน้านี้ได้หรือไม่? และการเล่าเรื่องจะสอดคล้องหรือมีอะไรให้เชื่อมโยงกันหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม พลันการลงโรงของ Avengers: Endgame และล่าสุดกับการมาของตัวอย่าง Spider-Man: Far From Home ไม่เพียงแต่แฟนหนังมาร์เวลเท่านั้นที่จะรู้สึกสบายใจว่าหนังค่ายนี้ยังมี "เรื่องเล่า" ให้เล่นอีกเพียบแล้ว แม้แต่ตัวของผู้กำกับ Spider-Man: Far From Home อย่าง "จอน วัตต์ส" (Jon Watts) เองก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเขาเองรู้สึกสบายใจมากๆ เพราะจะได้ไม่ต้องทนแบกบางส่วนที่เป็น "ความลับ" ของหนังอีกต่อไปแล้วนั่นเอง
ต้องยอมรับว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลดูสนุกก็เพราะทุกตัวฮีโร่ หรือแต่ละเหตุการณ์ต่างมีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว คำถามที่หลายคนให้ความสนใจก็คือการมาของ Spider-Man: Far From Home จะเป็นไปในทิศทางใด ห้วงเวลาของเหตุการณ์จะเป็นช่วงไหน? เรื่องจะสานต่อจาก Avengers: Endgame หรือไม่?
สำหรับคำตอบตรงนี้จากการให้สัมภาษณ์ของ "จอน วัตต์ส" (Jon Watts) ผ่านเวบไซต์ FANDANGO ที่เรียบเรียงโดย ERIK DAVIS สรุปได้คร่าวๆ ก็คือ เหตุการณ์ของ Spider-Man: Far From Home จะเป็นเรื่องราวที่ต่อจากเหตุการณ์ใน Endgame โดยที่เจ้าตัวได้ระบุไว้ว่า...
"เราคงระบุไม่ได้ว่าไกลแค่ไหนหลังจากเกิดเรื่อง แต่มันแทบจะทันทีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์จาก Endgame ดังนั้นเราจะได้เห็นสภาพแวดล้อมต่างๆ จากหนังเรื่องแรกที่เกิดจากผลกระทบจากความสูญเสียที่แสนจะบ้าคลั่งของ Endgame และ คุณรู้มั้ย ในความคลาสสิคของนิวยอร์กสไตล์ก็คือ ทุกคนก็แค่ก้าวเดินต่อไปและใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขา ใช่แล้วครึ่งหนึ่งของผู้คนที่หายไปกลับมาดังนั้นเราจะเดินหน้าต่อไป (หัวเราะ)"
ถัดมาก็คือตัวละครอย่าง "นิก ฟิวรี" (Nick Fury) ซึ่ง "จอน วัตต์ส" เผยว่า..."มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมมากๆ เพราะนี่คือ Nick Fury ในเวอร์ชันที่ผมคิดว่าพวกเราเคยเห็นมาก่อน เป็น Nick Fury ที่พยายามไล่ตามให้ทัน เขาหายไปเป็นเวลา 5 ปีและโลกเปลี่ยนไปมากในช่วงที่เค้าไม่อยู่ และที่นี่เขากำลังรวบรวมทีมขึ้นมาอีกครั้ง"
ส่วนทางด้าน "ป้าเมย์" ที่ไม่มีเลยในหนังตัวอย่าง Spider-Man: Far From Home นั้น ทางผู้กำกับชื่อดังพูดถึงไว้เช่นกันว่า..."เธอหายไปและกลับมา"
ทั้งนี้ที่น่าสนใจมากๆ ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็คือการตอบคำถามที่ผู้สัมภาษณ์ถามคำถามสำคัญไปยังผู้กำกับคนดังว่าสรุปแล้ว Spider-Man: Far From Home เป็นการแนะนำ Multiverse ไปยังแฟรนไชส์ของมาร์เวลใช่หรือไม่ (Let's get to the most important question: Does Far From Home introduce the Multiverse to the MCU?)
โดยที่ทางด้านของ "จอน วัตต์ส" ได้ตอบคำถามนี้ว่า..."ดี ผมหมายถึง ใช่ เราต้องมองไปในแง่ของขอบเขตว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากตอนจบของ Endgame มองไปทุกๆ สิ่งของความบ้าคลั่งที่พวกเขาทำไว้และคำถามทั้งหมดที่เกิดขึ้น ดังนั้นเราพยายามที่จะตอบคำถามจากคำถามหนึ่งที่ใหญ่มาก มันคือช่วงเวลาแห่งทางเลือก (Alternate Timeline) มันมีความเป็นไปได้เยอะมากที่เกิดขึ้นจากตอนสุดท้ายของ Endgame และ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังอยู่และต้องติดต่อกับพวกเขาเหล่านั้น"
ขณะที่ในตัวอย่าง Spider-Man: Far From Home เราจะพบว่าทางด้านของ "นิก ฟิวรี" ก็ได้บอกกับปาร์คเกอร์ด้วยว่าตัวของ Mysterio นั้นมาจาก "จักรวาลอื่น" ที่เกิดอาการแปรปรวนอันเนื่องมาจากการดีดนิ้ว(ของ "ธานอส")นั่นเอง
คำถามก็คือแล้วไอ้เจ้า Multiverse มันคืออะไร?
ตรงนี้หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คงต้องตัดกลับไปที่การ์ตูน Spider-Man: Into the Spider-verse ที่แสดงให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าใน "มิติ" หรือ "จักรวาลอื่น" ต่างก็มี "สไปเดอร์แมน" อยู่ด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าในแต่ละมิตินั้นตัวสไปเดอร์แมนแต่ละตัวต่างก็เป็นสไปเดอร์แมนที่ไม่เหมือนกันเลยนั่นเอง
สำหรับคอการ์ตูนมาร์เวลแล้วน่าจะคุ้นเคยกับ Multiverse เป็นอย่างดี แต่สำหรับคอหนังตรงนี้ถือเป็นของใหม่และน่าสนใจไม้น้อยที่มาร์เวลหันมาใช้มุกนี้ในการเล่าเรื่อง จนบางคนพากันคิดไปไกลว่านี่คือการเปิดจักรวาลหนังใหม่ของมาร์เวลที่ไม่แน่ว่าอาจจะมีฮีโร่จากจักรวาลอื่นๆ เช่น X Men มาเจอกันในแบบที่หลายคนไม่คาดคิดว่าจะมารวมกันก็เป็นไปได้
แต่ทั้งหมดล้วนมาจากการคาดเดาจากบทสัมภาษณ์และตัวอย่างหนัง ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนังจะออกมาในรูปแบบทิศทางใด
สำหรับ Spider-Man: Far From Home จะเล่าเรื่องที่ "ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์" และเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวซัมเมอร์ที่ยุโรปก่อนเข้าไปช่วยเหลือ "นิก ฟิวรี" ตามล่าสิ่งมีชีวิตปริศนาโดยหนังจะเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 2 กรกฎาคมนี้