“ป๋อ” เผยลูกชาย “น้องภู” ผ่าตัดปลอดภัยหลังพบลูกอัณฑะโตผิดปกติข้างหนึ่ง บอกลูกชายเคยได้รับการผ่าตัดบริเวณดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง ชื่นชมภรรยาในความเป็นแม่ที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติและพาไปพบแพทย์ หลังจากนี้สวดมนต์หวังว่าคงไม่มีครั้งที่ 3
ลงภาพลูกชายคนโต “ภู ภูดิศ สกิดใจ” ต้องเข้ารับการผ่าตัดจากอาการลูกอัณฑะโตผิดปกติข้างนึง เพราะมีถุงค่อนข้างใหญ่ในอัณฑะ ล่าสุดเจอพ่อ “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” จึงได้มาอัปเดตอาการป่วยของลูกว่าตอนนี้ปลอดภัยหายห่วงแล้ว
“เขาผ่าเกี่ยวกับตรงนั้น แต่ที่จริงมีน้องๆ เด็กๆ หลายคนเป็นนะ ที่มีลักษณะจากถุงอัณฑะบวมนิดนึง เกิดจากการเคลื่อนของน้ำจากร่างกาย พูดง่ายๆ ว่าจริงๆ มันต้องปิดสนิทจากร่างกายไปถึงถุงอัณฑะ แต่ของน้องภูเขามีเปิดนิดนึง คุณหมอก็ต้องผ่าเข้าไปเพื่อที่จะเย็บปิด จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะพูด แต่คุณเอ๋เขาลงไอจี อาจจะลงให้กำลังใจตัวเอง ให้กำลังใจน้องด้วย แต่ตอนนี้เรียบร้อยครับ”
“มีเด็กไม่น้อยที่เป็นแบบนี้ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ผ่า แต่คือผ่านิดเดียว คือถ้าอธิบายเด็กแรกเกิดลูกอัณฑะเขาจะอยู่ในท้อง แล้วมันจะเคลื่อนลงมาอยู่ในถุงอัณฑะ ใน 1 ปีทางที่มันเคลื่อนลงไปจะปิดตัวลง แต่ของภูดิศปิดไม่สนิท มันเลยมีน้ำจากช่องท้องไหลลงเวลาอากาศร้อน แต่เวลาอากาศเย็นถุงอัณฑะมีกล้ามเนื้อ มันก็บีบน้ำกลับไปกลับมา เราเลยสังเกตได้ยากพอสมควร แต่ไปตรวจได้”
ชื่นชมภรรยา “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ” ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกชาย
“ต้องบอกว่าผมชื่นชมความเป็นแม่ของเอ๋ เพราะจริงๆ ผมไม่ได้สังเกตเลย ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันบวมด้วยซ้ำ ยังนึกว่ามันปกติ จนคุณเอ๋เขารู้สึกว่ามันบวม และไปให้คุณหมอดู เช็กว่ามันมีการเคลื่อนตัว คือพอเวลาอากาศเย็นก็ปกติ น้ำก็เคลื่อนกลับมาที่ร่างกาย แต่เวลาหน้าร้อน น้ำก็เคลื่อนลงไป ทำให้มีอาการบวมขึ้นมา พอเราไปถามแล้วก็ทราบว่ามีเด็กหลายคนที่เป็นลักษณะนี้ ฉะนั้นก็จะไม่ได้สร้างอะไร ไม่ได้ทำให้ร่างกายเป็นโรคหรือบาดเจ็บอะไร แต่จะรำคาญ น้องจะอึดอัด ต้องชื่นชมเอ๋ที่เขาสังเกตลูกได้สุดยอดมาก เขามองขาดแต่ผมมองไม่เห็น แล้วตอนที่ผ่าน้องก็มีอาการไส้เลื่อนนิดๆ แล้วด้วย ก็เลยพอดีคุณหมอจัดการเย็บเสร็จสรรพ อีกวันก็กระโดดโลดเต้นได้เพราะเป็นแผลนิดเดียว”
เผยลูกชายเคยผ่านประสบการณ์ผ่าตัดมาแล้วครั้งนึงบริเวณดังกล่าว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 คิดว่าคงจะไม่มีครั้งต่อไปแล้ว
“ภูเขาเคยผ่าแบบนี้มาครั้งนึงแล้ว เราเลยรู้สึกว่าทำไมภูต้องมาปรับแต่งตรงนั้นอยู่ตลอดเวลา นี่ก็ 2 ครั้งแล้ว คิดว่าพอแล้ว ปลอดภัย ก็ดีเพราะผมคิดว่ามันเป็นส่วนที่อ่อนโยน พอทำแล้วพ่อแม่ก็สบายใจ ต่อไปก็ไม่ต้องมีอะไรที่เป็นปัญหา บางทีเราไม่รู้เพราะเด็กๆ ไม่ค่อยบอก มันเป็นพื้นที่ของเขา เราบอกเขาตลอดว่าลูกถ้ารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติในตัวเองให้บอกนะแต่เขาจะไม่ค่อยบอก เด็กเขาจะมีความลับของเขาแล้วนะ บางทีเจ็บ เขายังบอกไม่เจ็บเลย หรือคันตรงไหนก็ไม่บอก เขาจะเริ่มมีความอาย พ่อแม่จะต้องเริ่มสังเกตเองด้วย”
“เรื่องนี้สำหรับเราจบแล้วครับ ตอนนี้ก็สวดมนต์กันดีกว่า คือเราไม่รู้หรอก มันก็อาจจะมีปัญหาเหล่านี้ตามมาเรื่อยๆ เราก็รักษากันไป แต่สิ่งสำคัญผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน พอรู้ว่าลูกจะต้องดมยาสลบหรือเข้าห้องผ่าตัด พ่อแม่จะมีอาการกลัว วิตก ผมก็พยายามจะปลอบใจเอ๋ว่าสบาย แต่จริงๆ เราก็กลัวอยู่นะ แต่เราต้องแข็งแรงกว่า และเขาก็สบายจริงๆ”