“ไม่ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ต้น..... ”
ฟังเผินๆ อาจจะนึกว่าแค่เรื่องดาราทะเลาะกัน แต่ในความเป็นจริง สาเหตุที่นางเอกหุ่นแซ่บอย่าง “ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก” หลุดประโยคดังกล่าวออกมา ก็อันเนื่องมาจากปมขัดแย้งทางธุรกิจอาหารเสริมยี่ห้อ Praya by LB ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกนำเสนอในลักษณะที่ชวนให้เข้าใจว่าเธอเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ร่วมกับ “มะตูม - เตชินทร์” และ “ดีเจ. ต้นหอม”
กระทั่งตกเป็นประเด็นร้อนในสื่อบันเทิงตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีการประกาศออกสื่ออย่างชัดเจน ว่าเธอไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยสิ้นเชิง ทั้งยังออกตัวว่าที่ผ่านมา เธอไม่ได้เป็นเจ้าของ หรือแม้กระทั่งหุ้นส่วน เพียงแค่ถูกดึงเข้ามามีส่วนร่วมเพราะหวังอาศัยชื่อเสียงมาดึงดูดคนและเพิ่มยอดขาย
โดยคีย์เวิร์ดสำคัญ ที่กลายเป็นชนวนที่ทำให้เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ ก็คือประโยคที่ปูให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการถอนตัวออกมา ว่า
..... “คนที่น่าสงสารจริง ๆ ที่สุดคือตัวแทน” .....
ประโยคดังกล่าว ถูกนำมาถอดรหัส เพื่อไขข้อเท็จจริงว่า
ทำไม ?? ต้องสงสารตัวแทน
เบื้องต้นต้องอธิบายก่อนว่า โครงสร้างของธุรกิจนี้ เป็นในลักษณะของธุรกิจขายตรง คือมีการสร้างเครือข่ายของตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าอีกทอดหนึ่ง โดยบรรดาตัวแทนก็จะได้ผลประโยชน์จากส่วนต่างของราคาต้นทุนที่รับมาจากบริษัท กับราคาที่นำมาขายปลีก ไม่ว่าจะเป็นการขายทางหน้าร้านในพื้นที่เช่าตามแหล่งชุมชน หรือขายทางออนไลน์ก็ตาม
เป็นไปได้มั้ยว่า !!? เหตุที่ปูสงสารตัวแทน อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ของตัวแทนที่ได้รับไม่ตรงไปตามเงื่อนไข หรือข้อตกลง
หรือถ้าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ ก็อาจจะเป็นในแง่มุมของสรรพคุณสินค้านั้น ไม่เป็นอย่างที่โฆษณา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์
และแน่นอนที่สุด ก็คือกระเทือนมาถึงความน่าเชื่อถือของตัวปูในฐานะ “คนออกหน้า” (แต่ไม่ได้ออกเงิน) อย่างหลีกเลี่ยงไมได้
เหมือนดังที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเมจิก สกิน ที่ตรวจสอบพบว่ามีการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง ทำให้เหล่าดารา นักแสดงหลายคนที่เคยรับงาน “รีวิว” สินค้าดังกล่าวโดนหางเลขไปตามๆ กัน ในโทษฐานที่มีส่วนร่วมในการหลอกลวงผู้บริโภค
ถ้าเป็นส่วนเหตุผลนี้ ก็ไม่แปลกที่ปู จะต้องรีบกันตัวเองออกมา ก่อนที่จะตกเป็นจำเลยสังคมด้วยข้อหาดังกล่าว เพราะถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เดียวกันนี้ ก็เคยถูกโจมตีเรื่องการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง ว่าสามารถรักษามะเร็ง บำรุงตับ ลดความดัน บำรุงหัวใจ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ซี่งเจ้าตัวก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้รู้เห็นกับการโฆษณาครั้งนั้น
“จริงๆ สิ่งที่ปูเห็นตอนได้เข้ากรุ๊ปมาร์เก็ตติ้ง คือหลังจากที่อันนี้ออกมาแล้ว เพราะเราได้มีการพูดคุยกัน ถามหุ้นส่วนคนอื่นก็ได้ ปูบอกแล้วตั้งแต่ต้นว่าปูต้องได้รู้ทุกรายละเอียด ซึ่งมันไม่ได้เป็นธุรกิจที่ปูก่อตั้งมาเอง แต่เป็นธุรกิจที่ปูมาร่วม ในวันที่ปูลองทานแล้วมา 2 เดือน ซึ่งขอชี้แจงว่าตัวสินค้าเอง มี อย. ปลอดภัย และปูทานมาได้ 2 เดือนแล้วและปูไม่มีปฎิกิริยาอะไร
แต่ขอย้ำเรื่องการโฆษณา ปูไม่เห็นด้วย และเหตุผลถ้าปูรู้ ปูซีเรียสกับเรื่องนี้ ถ้าทุกคนอ่านข่าวนี้ไม่ได้เป็นการเฟค คนก็รู้ปูออกกำลังกายหนัก และคนก็รู้ว่าทำไมคนออกกำลังกายหนัก หุ่นดี มาขายอาหารเสริม ไม่เคยอ้วน คือก็เหมือนกัน คนที่เป็นเจ้าของยิม ก็ไม่จำเป็นต้องผอม เพราะจริงๆ มันคือธุรกิจ เรามองเป็นการเสริมสร้างรายได้ของเรา แล้วความเป็นดารา วันนี้เราอาจจะมีงาน แต่วันข้างหน้าเราควรจะเก็บเงินไว้ ทุกอย่างเป็นกระแส เราก็รู้สึกว่าเราต้องหาธุรกิจทำ
จริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องภาพลักษณ์ไม่ดี มันต้องดูที่การกระทำสิคะ นี่ไม่ใช่ปูกระทำ แต่ปูเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท แต่เราก็ต้องอธิบายก่อนว่ามันต่างจากหุ้นส่วนยังไง มันคือเราได้เปอร์เซ็นต์จากการขายเพื่อใช้ชื่อเรา หน้าเรา เพื่อผลักดันสินค้า และมันก็เป็นโครงสร้างทางธุรกิจที่ดารานิยม เพราะมันมีคอมมิทเม้นต์ต่อการโปรโมทสินค้า ซึ่งจริงๆ ถามว่าผิดไหมมันไม่ผิด เพราะสินค้าไม่ได้มีปัญหา และในเชิงภาพลักษณ์ก็ไม่ได้เสีย”
แต่การทอดเวลานับจากมีข่าวในครั้งนั้น จนล่วงผ่านไปเกือบหนึ่งปี ถึงเพิ่งมีจะประกาศยุติความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงหนีไม่พ้นที่จะถูกมองมา ปูเองก็คงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปไม่น้อยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองเข้าไปสืบค้นข้อมูลเลขที่อย.ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็พบว่าผู้ได้รับอนุญาตคือ บริษัท เซลล์ เนเจอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 55/41 โครงการบิ้กเกอร์แลนด์ ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากของบริษัทนี้ ก็คือ “นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์” หรือ "กอล์ฟ" หรือ "กอฟฟี่" ที่มีปูมหลังในชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะสามารถสร้างชีวิตจากเด็กเกเร เด็กล้างจาน กลายมาเป็นนักธุรกิจขายตรงที่ทำรายได้นับ 10 ล้าน ก่อนผันตัวมาเป็นเจ้าของกิจการอาหารเสริมลดน้ำหนักที่สามารถทำเงินกว่า 300 ล้านบาทภายใน 6 เดือน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเค เก้าหนึ่งกรุ๊ป จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายยี่ห้อโดยเฉพาะ Eighteen18 ซึ่งมีนางเอก “แต้ว - ณฐพร เตมีย์รักษ์” เป็น “คนออกหน้า”
เรื่องนี้จะจบอย่างไรไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ทั้งฝั่งของปู กับฝั่งของมะตูม-ต้นหอม ก็ผลัดกันยึดเพื้นที่โซเชียลห้ำหั่นกันแบบไม่มีใครยอมใครจริงๆ
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 492 27 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2562