ถูกหลอกกันถ้วนหน้า "เติ้ล-เมีย-ดีเจดาด้า-ดีเจแนน-อาร์ม พิพัฒน์" ร้องกองปราบ ถูกหลอกขายตั๋วเครื่องบินราคาถูก เผยลูกผู้จัดโดนหนัก 5 แสน แต่บางรายสูญเป็นล้าน "เติ้ล" โอดเป็นกรรม รู้ซึ้งของถูกไม่มีในโลก ไม่หวังได้เงิน 8 หมื่นคืน แต่ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ประกาศจะไม่ประนอมหนี้ ดีเจดาด้าเผยมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้าน ผู้เสียหายโผล่เพียบกว่า 200 รายแล้ว วอนตร.ช่วยสืบเป็นเครือข่ายหลอกลวงหรือเปล่า
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เป้ วิศวะ กิจตันขจร, ดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล เดินทางขึ้นโรงพัก แจ้งความเอาผิด "นายยุทธนา ธรรมพรต" อดีตผู้ช่วยดีเจ คลื่น คูล 93 ฟาเรนไฮต์ หลอกขายตั๋วเครื่องบินราคาถูก ล่าสุดวันนี้ (19 เมษายน) เวลา 14.00 น. นักแสดงหนุ่ม "เติ้ล ตะวัน จารุจินดา" และ "กระแต เสาวคนธ์ จารุจินดา" ภรรยา ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อลงบันทักประจำวันเอาผิดนายยุทธนาด้วยเช่นเดียวกัน ฐานฉ้อโกงหลอกขายตั๋วเครื่องบิน เป็นจำนวนเงินกว่า 8 หมื่นบาท ขณะที่ ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผล,ดีเจแนน กัญดา ศรีธรรมนูปถัมภ์ และอาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ นำทีมดีเจและผู้เสียหายกว่า 40 ราย เดินทางมาร้องกองปราบ วอนตร.ช่วยเหลือ หวั่นอีกฝ่ายอยู่ในเครือข่ายหลอกลวง หลังหลอกขายตั๋วเครื่องบิน มีผู้เสียหายหลายราย มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท หลังเกิดเรื่องราว อีกฝ่ายยังมีพฤติกรรมหลอกลวง อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
อย่างไรก็ตาม เติ้ล และภรรยา เปิดใจกับสื่อมวลชนว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดกับตนนั้น 8 หมื่นบาท ตอนนี้ไม่หวังว่าจะได้คืน แต่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากให้อีกฝ่ายออกมาชดใช้กรรม
เติ้ล : "เริ่มแรกเลยคือคุณอุ๊ (พัชนี จารุจินดา) ลูกสาวคุณกอบสุข จารุจินดา แนะนำต่อเรามาอีกทีนึงครับ พอดีช่วงนี้เป็นช่วงที่เราอยากจะพาลูกสาวไปเที่ยวเมืองนอกเป็นทริปแรก ไปทั้งครอบครัวเลยครับ บ้านเราไปกันหมด แม่ผมด้วย แล้วเราซื้อตั๋วคนสุดท้าย คุณอุ๊เลยแนะนำว่าซื้ออันนี้มั้ย ถูกดี มีคนเคยบินได้ เราก็บอกว่ามันถูกมากเลยนะ มีคนเคยบินได้จริงเหรอ เราก็เลยตัดสินใจซื้อ"
กระแต : "ตอนนั้นก็ถามอุ๊ว่าเราต้องติดต่อคนๆ นี้ยังไง ราคาเท่าไหร่ เราจะต้องจ่ายเมื่อไหร่ อุ๊ก็บอกว่าเขาจะถามให้ พอเขาถามก็บอกว่าวันนี้โปรโมชั่นวันสุดท้ายแล้วนะ เขาก็เลยส่งให้เราคุยกับคนๆ นั้นเอง เขาก็โทร.มาหา เราก็แจ้งว่าเราจะไปเดือนพฤษภาคม วันที่เท่านี้ๆ เราจะจอง 4 ที่นั่ง ราคาเท่าไหร่ โปรโมชั่นยังไง เขาก็แจ้งราคามา แล้วบอกว่าให้โอนวันนี้เลย เราก็เลยโอนไป แต่ก่อนโอนเราก็เอะใจนะว่าเชื่อดีไม่เชื่อดี แต่เห็นว่าอุ๊ซื้อไปแล้ว จองกับคนนี้ไปแล้ว เราก็เลยจอง พอจองเสร็จเราก็รีบพิมพ์ชื่อเราภาษาอังกฤษส่งไป คือเราจอง 4 ที่ แต่แตพิมพ์ชื่อแตกับพี่เติ้ลส่งไปก่อน และเขาก็ไม่ถามกลับมาว่าอีก 2 ที่ชื่ออะไร ไม่ขอหน้าพาสปอร์ต เราก็เริ่มเอะใจว่าทำไมไม่ขอเลย แต่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวออกตั๋วให้ จะทำใบรับเงินให้วันพรุ่งนี้ เราก็โอเคไม่ได้ใส่ใจอะไร เป็นตั๋วจากกรุงเทพฯ ไปโตเกียวค่ะ"
เติ้ล : "เฉพาะบ้านเรา 8 หมื่นครับ แต่ของคุณอุ๊ประมาณ 5 แสนนิดๆ ครับ เริ่มมาเอะใจเพราะพี่อ้อยเลยครับ จริงๆ แล้วความเสียหายของเรายังไม่เกิด เพราะของเราเดินทางประมาณวันที่ 13 พฤษภาคม แต่เราคิดว่าพอมีเหตุการณ์แบบนี้ เราก็คงจะเป็นหนึ่งในคนที่ถูกฉ้อโกง วันนี้ทางเราก็เลยจะมาแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน"
ยอดผู้เสียหายทะลุ 200 รายแล้ว
กระแต : "คือเราโอนไปวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งเขาบอกว่าก่อนเดินทาง 3-4 วันเขาจะออกตั๋วให้ ซึ่งมันก็ยังไม่ถึง เราก็เลยรอ จนวันที่ 5 เมษายน ก็คือผ่านไปเกือบๆ หนึ่งอาทิตย์พอดี อุ๊ก็ไลน์มาว่าแตเหมือนเราจะโดนแล้วล่ะ เราก็งงว่าโดนอะไร ยังคิดว่าไม่หรอกมั้ง เพราะเราเพิ่งโอนไปสดๆ และยังไม่ถึงเวลาที่เราจะทวงว่าออกตั๋วได้หรือยัง เราอยากมีบุคซีทเพราะเรามีลูกเล็กไป เราต้องไปจองนู่นนี่เพิ่ม หลังจากนั้นก็เริ่มมีการแอดไลน์กันมาสร้างกรุ๊ปผู้เสียหายทั้งหมด ตอนแรก 50 คน มา 100 คน ตอนนี้ไป 200 กว่าแล้ว"
เติ้ล : "จริงๆ ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้นะ เรารู้สึกว่านี่เป็นการหลอกกันจริงๆ จังๆ แล้ว เงินก็สำคัญนะ แต่เรารู้สึกว่ามาทำแบบนี้มันไม่ได้แล้ว เราก็เลยต้องออกมา เพราะเกิดเขาไปทำกับคนอื่นอีก"
กระแต : "จริงๆ เราแจ้งความตั้งแต่ที่เรารู้เรื่องวันที่ 5 เมษายน พอวันที่ 6 เราไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลย เราก็ไปนั่งคุยกับตำรวจว่าเราโดนแบบนี้ เราต้องทำยังไง แต่จนถึงตอนนี้มันไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เราเลยรู้สึกว่าเกิดเขายังลอยนวลอยู่ แล้วเขาไปหลอกชาวบ้านต่อเพราะโดนพวกเรากดดันว่าให้คืนเงิน เขาก็อาจจะไปเอาจากคนอื่นมาอีกเพื่อที่จะมาคืนเรา"
รู้ซึ้ง ของถูกไม่มีจริง ทำใจอาจไม่ได้เงินคืน
เติ้ล : "จริงๆ แล้วก็ไม่เคยคิดว่าเราจะโดนหลอกแบบนี้ แต่เราก็คิดว่ามันเกิดขึ้นได้ เราจะได้รู้ว่าของถูกมันไม่มีอยู่ในโลกจริง (หัวเราะ) เราก็ได้รับผลกรรมของเราพอสมควรแล้ว เราก็อยากให้ทางเขาเองได้รับผลกรรมตามมาเหมือนกัน เราคิดว่าเราคงไม่ได้เงินคืนหรอก แต่เราอยากให้คนที่ทำได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไปเหมือนกันในการกระทำของเขาครับ"
กระแต : "เขาคุยเป็นบุคคลในไลน์ เหมือนเขาเลือกคุย แตเลยบอกเขาไปว่าคุณยุทธอย่าหายไปเฉยๆ นะ ใจไม่ค่อยดี จะเอายังไงก็ว่ามา เขาก็ตอบมาแค่ว่าได้ครับ"
ยันไม่ประนีประนอม จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เติ้ล : "ถามว่าได้คุยมั้ย ได้คุยครับ แต่เราไม่ได้รับข้อตกลงใดๆ จากเขาทั้งสิ้นครับ เพราะข้อตกลงที่เขาทำมาเหมือนจะประนีประนอมเรื่องการชำระหนี้ แต่เราคิดว่านี่เป็นการฉ้อโกง เราคิดว่ามันเป็นคดีอาญา ในส่วนตัวผมคิดว่าเงิน 8 หมื่นผมคงไม่ได้คืนแน่ๆ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่ตกลงใดๆ กับเขาทั้งสิ้น ผมไม่มีการประนีประนอมเรื่องของหนี้ด้วย ผมตั้งใจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดครับ"
กระแต : "เราเคยคุยกัน 2 ครั้ง นั่งเจอต่อหน้าเลยค่ะ"
แฉคู่กรณีหน้ามึนเขียนจม.ขอประนอมหนี้เองอีก
เติ้ล : "ถามว่าเข้าใจเขามั้ย ผมก็เข้าใจเขานะ ไม่รู้คุณผิดพลาดอะไรยังไง เขาพูดด้วยนะว่าเขาจะไปเปิดบริษัทของเขาเพื่อจะเอาเงินมาลงทุน และจะเอาเงินมาคืนเรา ผมก็บอกว่าเราไม่โอเคนะที่คุณจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นเพื่อเอาเงินมาหมุนมาโปะเรา เราไม่โอเค ผมก็เลยคุยกับคุณอุ๊ว่าเราน่าจะมาที่กองปราบฯ เพื่อที่จะนั่งคุยกัน ล่าสุดเขาก็ส่งจดหมายมาว่าคุยกันวันที่ 11 เพื่อจะประนีประนอมหนี้ ซึ่งเราไม่ได้คุยกับเขาเรื่องนั้นเลย เขาไปเขียนเองเออเอง ฉะนั้นผมบอกตรงนี้เลยว่าไม่มีการตกลงเรื่องประนอมหนี้สำหรับผมนะ"
ดีเจดาด้า,ดีเจแนน,อาร์ม พิพัฒน์ แฉอีกฝ่ายยังหลอกขายตั๋วต่อ อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน สงสารบางคนสูญเงินหลักล้าน
ดีเจดาด้า : "วันนี้เป็นการรวมตัวกันของเหล่าผู้เสียหาย ก็คือเหล่าดีเจและกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดที่วันนี้พอจะเดินทางมาที่กองปราบฯ ได้ วันนี้เราก็ต้องมาเรียกร้องสักนิดนึงว่าหลักฐานที่เรามีอยู่เราจะดำเนินการยังไงกับคุณยุทธนาที่เอาเงินพวกเราไป แล้วเขาจะมีวิธีการในการชำระหนี้ยังไงบ้าง"
ดีเจแนน : "จริงๆ จะบอกว่าเรื่องนี้เราก็ไม่ได้อยากให้เป็นข่าว เนื่องจากว่าเขาก็ทำงานอยู่ที่เดียวกับเรา แต่ว่าตอนนี้เรื่องมันไปไกลมากแล้ว สิ่งที่เขาพูดหรือที่บอกกับตำรวจหรือบอกกับผู้เสียหายมันไม่ได้ถูกดำเนินการในการแก้ไขปัญหาเลยแม้แต่เรื่องเดียว และเขายังคงหลอกขายตั๋วต่อไป โดยเฉพาะเขาเอาชื่อเราไปแอบอ้างว่าเขาทำงานที่นี่ เขาสนิทกับเรา จนกระทั่งเมื่อวานเขาก็ยังเอาชื่อเราไปหลอกกับคนอื่นว่าเราพูดแบบนี้จะช่วยดูแลให้ คือเรารู้สึกว่าตอนนี้ไม่ไหวแล้ว เลยมาร้องกองปราบว่าเราจะจัดการกับเรื่องนี้ได้ยังไงบ้าง เพราะถ้าเราไม่พูด เขาจะยังหลอกขายตั๋วเพื่อจะเอาไปทำอะไรก็ไม่รู้แต่เขาจะยังคงหลอกต่อไป"
ดีเจดาด้า : "เรื่องว่าเขาจะสำนึกผิดหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ แต่ว่าวันที่พวกเรารู้แล้วว่าพวกเราโดนหลอกว่าเงินที่จ่ายไปมันไม่สามารถออกตั๋วเครื่องบินได้ มีบางกลุ่มบางคนแกล้งทำเป็นไปซื้อตั๋วเขา เขาก็ยังขายตั๋วต่อในขณะที่ตอนนั้นเขาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว เราก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะกลับมาเมืองไทยหรือเปล่า ช่วงนั้นเขาก็ยังหลอกขายตั๋วว่ายังมีตั๋วเหลือในช่วงเดือนตุลาคมอยู่เลย ซึ่งตรงนี้ส่อให้เห็นว่าเขาหลอกลวงประชาชน ในขณะที่พวกเราและบางกลุ่มรู้ตัวแล้ว เขาก็ยังหลอกขายตั๋วต่อ มันเป็นสิ่งที่เราทนไม่ได้ และอยากจะออกมาเรียกร้องไม่ให้เขาทำแบบนี้อีก"
อาร์ม : "เบื้องต้นต้องบอกว่าจะตัดสินว่าเขาหลอกหรือไม่หลอกเราไม่ขอตัดสินแล้วกัน เพียงแต่ว่าพวกเราและคนที่เหลือในกลุ่มทั้งหมด มีประมาณ 200 กว่าราย ซึ่งในส่วนนั้นก็อาจจะมีคนซื้อตั๋วแทนเพื่อนเอาไว้บ้าง หลอกไม่หลอกไม่สำคัญ แต่เบื้องต้นเขาบอกกับเราว่าเขาสามารถซื้อตั๋วจากสายการบินไทย ซึ่งหลังจากนั้นก็มีหลายคนเช็กกลับไป"
"ซึ่งต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้วราคาตั๋วมันไม่ใช่ราคาถูกพิเศษอะไร แต่มันคือราคาตั๋วที่ถูกลงมา 10-15% ตรงนี้หลายคนก็อาจจะมองว่าเป็นคนรู้จัก เหมือนอย่างที่เราเองก็เคยทำงานใกล้กับเขา เหมือนเคยเป็นเพื่อนกัน เราก็เลยช่วยซื้อเพื่อเป็นการเริ่มอนาคตอาชีพของเพื่อน และที่ผ่านมาบางคนก็อาจจะมีโอกาสเคยซื้อและเคยบินไปได้ เช่นผมก็เคย พี่แนนก็เคย"
ดีเจดาด้า : "ของด้านี่เป็นครั้งแรกที่ซื้อกับเขา แต่มีเพื่อนมาคอนเฟิร์มว่าซื้อกับเขาแล้วได้บินจริง และคนที่คอนเฟิร์มก็เป็นคนที่เคยบินมาหลายครั้งแล้ว และบอกว่าถ้าจะซื้อตั๋วซื้อกับยุทธสิได้ราคาถูกจริง ทำให้เรามั่นใจและคิดว่าน่าเชื่อถือเพราะเขาทำงานอยู่สถานีวิทยุ เลยรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ใกล้ตัวเราและตามตัวง่าย มันไม่ใช่ว่าเราอ่านในเว็บไซต์แล้วเจอ แต่เป็นเพื่อนแนะนำกันปากต่อปากอีกทีว่าคนนี้เชื่อถือได้"
อาร์ม : "วันนี้ก็เลยมารวมตัวและขอความร่วมมือขอความช่วยเหลือจากตำรวจ เพราะเราคงไม่มีความสามารถไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของเขาได้ เพราะมูลค่าที่เสียหายตอนนี้น่าจะร่วม 30 ล้านบาทแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะนับเป็นคดีฉ้อโกงประชาชนได้หรือเปล่า ก็ต้องรอคุณตำรวจช่วยเหลือพวกเรา เพราะตอนนี้แต่ละคนก็โดนกันหลักหมื่น หลักแสน บางคนโดนหลักล้านก็มี"
ดีเจดาด้า : "พี่เป้ วิศวะก็เสียเงินไปหลักหลายแสน เพื่อที่จะพาครอบครัวไปเที่ยวที่อังกฤษและเป็นตั๋วแบบบิสิเนสคลาสด้วย ฉะนั้นยอดโอนมันจะสูงมาก พี่เป้แรกๆ ยังไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกลัวที่บ้านตกใจ แต่สุดท้ายก็ต้องเดินทางไปแจ้งความ เราก็ต้องรักษาสิทธิของเราค่ะ"
อีกฝ่ายอ้างทำบุ๊คกิ้งพลาด เลยเสียเงินก้อนใหญ่ ทำให้หมุนเงินไม่ทัน
ดีเจแนน : "เขาบอกว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะเขาทำบุ๊คกิ้งพลาด เพราะเป็นบุ๊คกิ้งของกรุ๊ปใหญ่ นั่นคือก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องวันที่ 5 เมษายน พอทำบุ๊คกิ้งพลาดเลยทำให้เขาเสียเงินก้อนใหญ่ ก็เลยไม่มีเงินที่จะไปหมุนต่อไปซื้อตั๋วให้กับคนปัจจุบันที่จะบิน พูดง่ายๆ ว่าเขาหมุนเงินไม่ทัน แต่เขาไม่ได้พูดประโยคนั้นนะ"
อาร์ม : "อันนี้เดี๋ยวรอเขาออกมาอธิบายแล้วกัน เพราะหลังจากที่ได้ออกมารวมกลุ่มของผู้เสียหาย คู่กรณีเขาก็ยังไม่ได้แสดงตัวออกมาว่าจะมีการใช้คืนหรือจะยังไง เป็นเพียงแค่แจ้งว่าเขายังมีชีวิตอยู่"
วอนตร.ใช้กฎหมายบังคับ เรียกตัวมาเคลียร์ เพื่อตกลงจะชดใช้ในรูปแบบไหน
ดีเจดาด้า : "คือตอนนี้เราอยากให้คุณยุทธนาออกมาคุยกับเราดีกว่าค่ะ เพราะว่าที่ผ่านมาบางส่วนของผู้เสียหายคือมีการนัดคุยกัน แต่นัดกันแล้วก็เลื่อนไปเลื่อนมา บอกจะไปในสถานที่ที่ไม่ตรงกัน เราก็เลยอยากจะเรียกร้องให้คุณตำรวจให้กฎหมายบังคับและเรียกตัวเขามาคุยกันดีกว่าว่าตกลงแล้วเขาจะชดใช้เราในรูปแบบไหน"
"ถ้าเกิดเขาไม่ชดใช้ ก็ต้องให้กฎหมายจัดการ เพราะเรื่องราวเหล่านี้มันไม่ใช่แค่ 1-2 คน มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต มูลค่าเสียหายทั้งหมดเกือบ 30 ล้่าน ด้าว่ามันไม่ใช่ธรรมดาที่จะหลอกเงินทั่วไป มันสามารถที่จะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนได้ ในตามที่เราเห็นข่าวก็มีคนที่หลอกขายตั๋วเครื่องบินแบบนี้ ด้าว่าเขาจะอยู่ในเครือข่ายนี้หรือเปล่า อันนี้คือสิ่งที่เราอยากจะถามเขาและอยากจะให้ทางคุณตำรวจเป็นคนสืบ และสอบสวนดูว่าสรุปแล้วอยู่ในเครือข่ายของการหลอกลวงแบบนี้หรือเปล่าค่ะ"
อาร์ม : "วันนี้ก็เลยอยากจะฝากเตือนถีงทุกๆ คนว่าจริงๆ การซื้อตั๋วถูก ถึงแม้จะไม่ได้ถูกกว่ามากและถึงแม้จะเป็นคนใกล้ตัวก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบกับสายการบินโดยตรงจะดีกว่า"
ดีเจดาด้า : "ใช่ค่ะ เพราะว่าวิธีการของเขาในเรื่องของการบุ๊คกิ้ง ถ้าเกิดเราเช็กแล้วว่าเขาส่งบุ๊คกิ้งนัมเบอร์มาให้แล้ว แต่จริงๆ แล้วเขาสามารถไปแคนเซิลได้ เพราะหลักการเวลาบุ๊คกิ้งผ่านเอเจนต์แล้ว แต่ถ้าภายใน 3-7 วันเราไม่ไปจ่ายตังค์ เขาก็จะแคนเซิลบุ๊คกิ้งนั้น บางทีเราอาจจะเข้าใจผิดว่าบุ๊คกิ้งนั้นเป็นของเรา แต่พอไปถึงสนามบินสุดท้ายแล้วไม่มีตั๋วให้เราก็จะเดือดร้อน ยังไงก็ฝากเตือนทุกๆ คนด้วยแล้วกันค่ะ"
ยังหวังได้เงินคืน ไม่ทั้งหมด แต่อีกฝ่ายก็ต้องชดใช้คืน
ดีเจดาด้า : "เรามีความหวังนะคะ (หัวเราะ) เราเป็นส่วนน้อยไปเลยนะคะ เพราะบางคนมูลค่าเป็นล้านที่เขาเสียหาย มากกว่าพวกเราเยอะมาก บางคนยอดเกือบๆ 2-3 ล้าน เราก็อยากจะเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้เสียหายคนอื่นๆ ด้วย เพราะคดีนี้มันไม่ใช่คดีธรรมดาแล้วล่ะ แต่เป็นคดีที่เกือบ 300 คนโดน ที่น่าตกใจคือคดีรูปแบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อย เอาง่ายๆ ว่าตอนนี้เราก็มีความหวังว่าอยากจะได้เงินคืน อาจจะ 100% หรือไม่ทั้งหมด แต่มันก็ยังดีที่เขาแสดงการชดใช้หรือเปล่า แต่ตอนนี้เราอยากจะให้กฎหมายดำเนินการเขา เพราะตอนนี้มันไม่ใช่เพื่อนยืมเงินกันแล้ว แต่ผู้เสียหายแพร่หลายไป 300 คนมันไม่ธรรมดาแล้ว"
ดีเจแนน : "ที่เรามากองปราบฯ วันนี้ก็เพราะเขายังไม่หยุด ซึ่งมันก็ยังมีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดเราไม่มาร้องให้เจ้าหน้าที่ที่นี่ มันก็จะเกิดการทำแบบนี้อย่างไม่สิ้นสุดต่อไปค่ะ"