หัวใจยังซิง “แก้ม วิชญาณี” อายุ 30 ยังไม่เคยมีแฟนไม่โหยหา ขอตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน ถ้าถึงเวลามีก็มีเอง อยากได้ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ
เป็นอีกหนึ่งสาวที่แทบจะไม่มีข่าวกับหนุ่มๆเลยก็ว่าได้ สำหรับนักร้องสาวเสียงทรงพลัง “แก้ม เดอะสตาร์” วิชญาณี เปียกลิ่น ทั้งๆที่นับวันแก้มก็ยิ่งโตยิ่งสวย แต่เรื่องหนุ่มๆ ดันสวนทางความงาม
“ไม่มีค่ะไม่มีใครเข้ามา เพราะว่าหนึ่งคืองานเราอยู่ในวงการไม่ได้เจอใครสองคือเราทำแต่งานจริงๆ สมมติถ้าเราจะเจอใครสักคนมันจะใช่ไหมถ้าส่งหลังไมค์มามันไม่ใช่นะ ไม่มีใครอินบ็อกซ์มาแล้วถ้ามาทางนั้นมันก็ไม่ใช่ด้วย”
ปัดตั้งมาตรฐานสูงเกินคว้ารับมีคนผ่านเข้ามาบ้าง แต่ความไม่ชัดเจนทำให้ไม่กล้าเสี่ยง
“ตั้งอะไรไม่เคยตั้งเลยนะ คนในวงการก็ไม่น่าจะเหมาะมั้ง มันไม่ได้มีใครเข้ามาชอบเราแบบนั้นค่ะส่วนใหญ่ก็เพื่อนๆ กันหมดเลย ถามว่าเขาเข้ามาแล้วเราไม่รู้หรือเปล่า ก็โอ๊ย ... ยุคนี้แล้วเมื่อก่อนอาจจะไม่รู้แต่ตอนนี้โตแล้วนะ แต่ถ้ามันไม่ชัดเจนเราก็ไม่กล้าเสี่ยงแล้วเราก็ไม่ได้อายุน้อยๆ เหมือนตอนเด็กๆ ที่แบบยังมีเวลาตอนนี้ไม่มีเวลามากมายแล้ว แต่สุดท้ายถ้าไม่มีฉันก็อยู่ได้”
ถึงจะสวยขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมีแฟนเพราะคนที่จะเข้ามาควรเข้ามาเพราะชอบที่เป็นตัวของตัวเองไม่ใช่หน้าตา
“มันไม่เกี่ยวทุกคนคิดแค่ว่าเพราะว่าสวยถึงจะต้องมีแฟน ผิดค่ะ ถ้าคนที่จะมาชอบเรามันต้องชอบจากที่เป็นเราไม่แต่งหน้าก็ต้องอยู่ด้วยกันได้ ต้องชอบตัวตนของเราจริงๆเรารู้สึกว่ามันยังไม่จำเป็นตอนนี้เรามีความสุขกับงาน”
“แม่ก็ถามค่ะแต่แม่รู้ว่าลูกเป็นยังไง แม่ไม่ได้กังวลอะไรเลยเพราะว่าแม่เขารู้ว่าแก้มเป็นยังไง เขาก็จะแอบคุยกับน้องบ้าง ว่าพี่มันไม่มีเลยเหรอลูกเราเป็นคนชัดเจนมากนะ ไม่เอาคือไม่เอาเลย ยิ่งเรื่องความรักมันห่างไกลจากเราเราไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่ เรายังไม่เคยมีแฟนเลย แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีความรู้สึกว่าชอบใครนะฉันยังเป็นชะนีอยู่เป็นผู้หญิงปกตินี่แหละ แต่ด้วยความที่เราทำแต่งาน แล้วโฟกัสของเราคือการร้องเพลงใครเข้ามาเราเลยรู้สึกว่าเป็นเพื่อน”
คนที่จะใช่ต้องค่อยๆคุยศึกษากัน ถ้ามาขอจีบเลยก็ไปพักก่อน
“ค่อยๆต้องค่อยๆ คุยกัน อยู่ๆ จะเข้ามาขอจีบคือพักก่อนต้องใช้เวลาหน่อยมันจะรู้สึกได้เองว่าเขาทำให้เราสบายใจ ตอนนี้ไม่มีแบบนี้เข้ามาเท่าไหร่นะคะคือมีเข้ามาแต่มันไม่ได้มาแบบชัดๆ เรามองว่ามันไม่ชัดเจนกับเรา ต้องชัดเจนคือสม่ำเสมอมั่นใจได้ว่าอันนี้เรียกว่าจีบนะแค่นั้นเอง ที่ผ่านมาจะใช้คำว่าหยอกๆ ก็ได้แต่ตัวเราเองเราก็ปิดกั้นเราพูดตรงๆ”
ไม่รู้จะมีรักเมื่อไหร่ถ้ามันจะใช่ก็คือใช่ คิดภาพไว้สองแบบทั้งโสดและแต่งงาน เพราะยังอยากใส่ชุดเจ้าสาว
“บอกไม่ได้ว่าตอนไหนบอกได้แค่ว่า ถ้าใช่คือใช่ค่ะ (ไม่คิดจะเกาะคานใช่ไหม?) ไม่แน่ค่ะไม่เป็นไร ถ้าเป็นคานทองเกาะได้(หัวเราะ) มีภาพนะว่าไม่ต้องแต่งงานก็ได้แต่เราก็ยังอยากใส่ชุดเจ้าสาวอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”