หล่อเก่งครบสูตร "แม่นุส" ขอบคุณยก "น้องปุณณ์" สามีแห่งชาติ ยื่นคำขาดเรียนหมอที่เมืองไทย แม้สอบติดหมอที่อังกฤษ 2 มหา'ลัย เผยจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเรื่องผู้หญิง ต้องนั่งสมาธิให้จิตใจสงบ
เป็นหน้าเป็นตาเลยทีเดียว สำหรับ "น้องปุณณ์" ลูกชายสุดหล่อ "แม่นุสบา ปุณณกันต์" ซึ่งสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และสอบติดแพทย์ที่อังกฤษถึง 2 มหาวิทยาลัย ขณะที่อเมริกาก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด "แม่นุสบา" เผยระหว่างมาร่วมงานมิวสิคัลระดับโลก "THE LION KING" ที่สยามสมาคม บอกลูกชายปฏิเสธมหาวิทยาลัยเมืองนอกไปแล้ว เลือกเรียนหมอที่เมืองไทย เพราะพ่อแม่อยากให้อยู่เมืองไทย รักษาคนไทย
"ผ่านช่วงที่เขาส่งใบสมัครไปจากคะแนนสอบ ส่งไปหลายที่ทั้งไทย อังกฤษ อเมริกา มีที่ตอบกลับมา ที่อังกฤษ 2 มหาวิทยาลัย ส่วนอเมริกามีทยอยมาเรื่อยๆ คือเขาตั้งใจอยากเรียนหมอ แต่สุดท้ายเรามานั่งคุยกันกับตัวเขาและอาจารย์ กับคุณปู่เขาด้วย แนะนำว่าอาชีพแพทย์ต้องเริ่มที่เมืองไทยจะง่ายและดีกว่า ค่อยไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ นุชก็เห็นด้วย"
"ถ้าเขาไปเรียนต่างประเทศ อาจจะได้เริ่มทำงานที่โน่นเลย ไม่ได้มารักษาคนไทย ไม่ได้มารักษาแม่กับพ่อ แม่จะส่งไปทำเพื่อ (หัวเราะ) คิดว่ายังไงต้องกลับมาทำงานเมืองไทยสิ เราโตเมืองไทย อยู่กับคนไทย ก็เลยตัดสินใจว่าเริ่มต้นที่นี่ก่อน ได้รับการตอบรับไปแล้ว ที่แพทย์รามาฯ ภาคอินเตอร์ แล้วค่อยไปต่อที่ต่างประเทศ อย่างน้อยได้กลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเมืองไทย"
เผยลูกชายไม่เสียดาย ยื่นเพื่อเช็กมาตรฐานของตัวเอง คะแนนดีพอที่จะแข่งขันกับคนทั่วโลกได้มั้ย
"ถามเขาเหมือนกันนะ ก็รู้ว่ายื่นไปแล้วแล้วต้องมาเรียนเมืองไทย เขาบอกยื่นไปชิลๆ ถามว่าใจเขาอยากไปจริงๆ มั้ย ก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาตอบมาแบบนี้ แต่เขาก็คงรู้ว่ามันน่าจะเริ่มต้นที่เมืองไทยอยู่แล้ว อย่างน้อยที่เขายื่นไปหลายๆ ที่จะได้รู้เกณฑ์ของตัวเองด้วย ดูว่ามาตรฐานของตัวเองเป็นยังไงในมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันกันสูง ไม่เฉพาะในเมืองไทยต้องไปแข่งกับคนทั่วโลก ถ้าผ่านเข้าไปได้ ทำให้เขารู้สึกว่าเขาทำคะแนนได้ดีในระดับหนึ่งพอไปแข่งกับคนทั่วโลก"
"แต่สุดท้ายเริ่มที่ไทยก่อน เพราะการประกอบอาชีพควรกลับมาทำที่ประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเรา อยู่ใกล้พ่อแม่ด้วยได้รักษาคนไทย แน่นอนว่าเราต้องนำเอาความเจริญวิทยาการต่างๆของต่างประเทศเข้ามาใช้"
ทำใจลูกเรียนหนัก อาจไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน
"เปิดเทอมสิงหาคมก็เริ่มเรียน ตอนนี้เขากำลังชิล ลั้นลาพักผ่อน หลังจากสิงหาคม นุชคงไม่ค่อยได้เจอเขา คงเรียนหนักมาก คุณปูเป็นคุณหมอบอกกับเราว่าคงไม่ค่อยได้เจอลูกแล้วล่ะ เราก็ทำใจไว้พอถึงเวลาจริงๆ ใช้เวลาช่วงนี้ให้เต็มที่ ชวนไปเที่ยว กินข้าว ดูหนังฟังเพลง ใช้ชีวิตให้เต็มที่ อีกหน่อยเขาจะต้องเจอแต่อาจารย์ใหญ่ อยู่ในห้องแล็บ คงไม่มีเวลาได้ออกมาลั้ลลาสนุกสนาน"
"ก็สงสารเหมือนกัน เราก็กลัวเขาจะเครียด พยายามบอกเขาว่าหมอยุคใหม่อย่าไปเครียดวิตกจริตนะ ถ้าเราเตรียมตัวมาดี บริหารจัดการเวลาดี หลายๆ คนเขาก็มีความสุขกับการเรียนและทำงานได้ เราก็ถามเขาแล้วหลายรอบว่าไหวมั้ย ตอนแรกที่เขาเลือกแบบนี้ เราก็ถามเขา เอาแน่นะ ไหวนะ รู้หรือเปล่าว่าชีวิตต้องเป็นยังไง ต้องทุ่มเทมากไปตลอดชีวิตจนตายเลย คุณจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย ดึกดื่นก็ต้องพร้อมตลอดเวลา เขาก็คิดและบอกว่าชอบจริงๆ เขาสนใจ เขาอยากจะไปทางนั้น คุณพ่อเขาก็บอกว่าถ้าเรียนได้ก็ไฟเขียวเลย"
มีโอกาสเข้าวงการ แต่ต้องเป็นงานไม่ยืดเยื้อ
"ก็มีชวน ถามกันมา นุชก็บอกว่าน้องเขามาแนวเล่นกีฬา ไม่ใช่เด็กเนิร์ดเรียนอย่างเดียว เขามีไลฟ์สไตล์เหมือนกัน ชอบถ่ายรูป ส่วนงานในวงการถ้าพอจะแบ่งเวลาได้ หรือไปงานที่มันไม่ยืดเยื้อยาวนานมาก เช่น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา หนังหรือละครสั้นๆ ที่ไม่ได้กินเวลานานมาก ก็สามารถเจียดเวลาได้ในปีแรก เพราะปีแรกอาจจะยังไม่ได้หนักหนามาก ก็ต้องแล้วแต่เขา เรายังไม่รู้ว่าเขาเรียนหนักขนาดไหน"
"ถามว่าเขาชอบมั้ย เขาก็ดูเพลิดเพลินดีนะ ชีวิตเขาเรียนหนักมาตลอด น้องไม่ได้เริ่มต้นเรียนแค่ปีนี้นะ กว่าจะเข้าแบบนี้ กว่าจะได้คะแนนแบบนี้ เขาต้องทำมาเป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว ตี 2 เขายังเปิดไฟนั่งอ่านหนังสือ จนเราต้องไปเคาะประตูบอกว่านอนได้แล้ว ต้องตื่นเช้าไปเรียน มีช่วงหนึ่งสิวขึ้นเต็มเพราะเครียดเรื่องเรียนด้วย กีฬาก็ต้องเล่นเพราะเขาเป็นนักกีฬา หลายสิ่งหลายอย่าง เขาผ่านช่วงนั้นไปได้ โล่งมาก"
ขอบคุณยกเป็นสามีแห่งชาติ สังคมคอยสกรีนเป็นหูเป็นตาให้ ช่วยซัปพอร์ต
"ก็ขอฝากแม่ไว้ด้วยคนค่ะ (หัวเราะ) นุชว่าเขาคงจะแยกแยะได้ว่าอะไรทำก่อนทำหลัง อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ แต่ก็ยังดีที่มีพ่อแม่พี่น้องลูกหลานคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ฟ้องมาบอกหลังไมค์ (หัวเราะ) ว่าเห็นที่ไหนทำอะไร ก็เหมือนกับว่าเขามีสังคมช่วยสกรีนช่วยดูแล ช่วยซัปพอร์ตให้มาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขารู้สึกมีความระวังตัว โดยที่เราไม่ต้องบอกว่าอย่านั่งแคะขี้มูก บางอย่างเขาก็ระวังตัวของเขาได้เอง มันก็ทำให้เราสบายใจ"
โอดสงสัยจะจับไม่ได้ ไม่เจอพิรุธเรื่องผู้หญิง ต้องปล่อยวาง นั่งสมาธิให้ใจสงบ
"ก็ไม่เห็นเขาพูดอะไรนะ อุตส่าห์ไปสะกดรอยตาม แต่ก็ยังไม่ค่อยเจออะไรที่พิรุธเท่าไหร่ สงสัยเขาเหนือกว่าเรา เราจับไม่ทัน (หัวเราะ) ถามว่าเขาติดโทรศัพท์มั้ย จะบอกว่าพาร์ตเวิร์ดเยอะมาก หลายชั้นมากเลย ไม่สามารถที่จะแอบดูได้ ก็มีแซวเขาบ้าง บางทีเขานั่งหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ เขาจะมีมุมที่ฝาคอมพ์จะปิด แล้วเขานั่งหันหน้ามาทางเรา เขาจะได้รู้ว่าข้าศึกจะบุกเมื่อไหร่ เราก็ต้องใช้วิธีทำเป็นไปเดินหยิบของใกล้ๆ บ้างแล้วชะโงกดู เราก็แหย่กัน แซวกันปกติ เขาจะขำเรามากกว่า มาอีกแล้ว มาเนียนแล้ว เราก็หวงบ้าง ปล่อยวางบ้าง ต้องนั่งสมาธิ จิตใจจะได้สบาย หวงพ่อแล้ว ก็ต้องมาหวงลูกอีก"