“เจมส์ เรืองศักดิ์” น้ำตาคลอเจอหน้า “น้องเมดา” ครั้งแรก บอกเป็นสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มในชีวิต เป็นสิ่งมหัศจรรย์ ลั่นตั้งชื่อจริง “อันโดรเมดา” มาจากชื่อนางในวรรณคดีเรื่องวิวาห์พระสมุทร พร้อมเปิดอู่ผลิตทายาทต่อทันที ลั่นเป็นสาวเมื่อไหร่ จะตามไปซุ่มดูทุกที่
สมกับที่ตั้งตารอคอยมานานเสียที สำหรับคุณพ่อป้ายแดงอย่าง “เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” ที่ควงภรรยาคนสวย “ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว "ดญ.อันโดรเมดา ลอยชูศักดิ์” หรือ “น้องเมดา” ที่เพิ่งออกมาลืมตาดูโลกเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 มี.ค. เวลา 09.04 น. ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โดยมีน้ำหนักแรกคลอด 3,601 กรัม ช่วงตัวยาว 52 เซนติเมตร ซึ่งทางคุณหมอ “พญ.กมลภัทร” ก็เผยว่า น้องเมดาเป็นเด็กที่ตัวใหญ่ และสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี เสียงร้องดี สีผิวปกติ การเคลื่อนไหวของการหายใจปกติดีทุกอย่าง และทางเจมส์ก็ได้เผยถึงความรู้สึกในครั้งนี้ว่า แฮปปี้สุดๆ และลูกถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของพ่อแม่จริงๆ
เจมส์ : “ผมคิดว่าน้องเมดามีปากเหมือนกับคุณพ่อ และตาเหมือนคุณแม่ (ยิ้ม) และโชคดีที่ครูก้อยเขามีน้ำนมตั้งแต่วันแรกที่คลอดลูกเลย และเมดาก็ดูดนมเก่งมาก ส่วนตัวผมเองก็เพิ่งจะได้มีโอกาสเริ่มต้นประสบการณ์ของการเป็นพ่อเมื่อคืนนี้ ตอนนี้เข้าใจแล้วครับว่าที่เขาบอกให้นอนตุนไว้คืออะไร (หัวเราะ) คือเราต้องให้นมเขาทุก 2-3 ชั่วโมง”
“ซึ่งตอนคลอดก็ได้เข้าไปด้วยครับ ใส่ชุดปลอดเชื้อของทางโรงพยาบาลเข้าไป เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตมันเหมือนกับเรากำลังดูสารคดีเลย ซึ่งก่อนที่ผมจะเข้าไปในห้องคลอดกับครูก้อย ซ้อ(ภรรยาของเฮียฮ้อ) ท่านได้ให้คำสอนผมเอาไว้ว่าเมื่อถึงวันที่เจมส์มีลูก เจมส์จะเข้าใจว่าลูกคือสิ่งที่มหัศจรรย์ของพ่อกับแม่ ซึ่งผมยอมรับนะว่าตอนนั้นที่ผมฟังผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายสักเท่าไหร่ แต่สำหรับเมื่อวานนี้ตอนที่ผมได้เห็นหน้าเมดาครั้งแรก เขาทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่านี่คือเรื่องที่มหัศจรรย์มากๆ มันเหมือนเลือดเนื้อเชื้อไขของเรากำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าในอีกร่างหนึ่ง น้ำตาคลอเลยครับ ซึ้งนะ เป็นอีกโมเมนต์หนึ่งที่ทำให้ผมต้องเสียน้ำตาก็คือ วินาทีที่คุณแม่เขาได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันมากครับ”
ครูก้อ : “ก้อยไม่สามารถพูดคำอื่นได้เลย นอกจากคำว่า เมดา เมดา ถามว่าเหมือนกับที่เราคาดหวังเอาไว้มั้ย คือก้อยดูแลเขามาอย่างดีที่สุดตั้งแต่วันที่เขามาอยู่ในท้อง ก้อยจินตนาการถึงหน้าเขาตลอดเวลาที่เราคุยกับเขา และพอวันนี้เราได้เห็นหน้าเขาครั้งแรกมันก็รู้สึกได้เลยว่าคนนี้แหละคือคนที่เราจินตนาการถึง ก้อยจึงไม่มีคำพูดอื่นใดๆ นอกจากเรียกแค่ชื่อเขาอย่างเดียว"
เผยที่มาของชื่อ “อันโดรเมดา” มาจากวรรณคดีเรื่อง วิวาห์มหาสมุทร ที่ตนชอบมาก
เจมส์ : “ผมได้ชื่อนี้มาจากวรรณคดีไทยเรื่องวิวาห์พระสมุทร เป็นพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ซึ่งอันโดรเมดา เป็นนางเอกของวรรณคดีเรื่องนี้ และผมเองก็รู้สึกแปลกมากนางในวรรณคดีไทยมีชื่อนี้ ส่วนชื่อเล่นก็คือน้องเมดา แต่ในอีกความหมายหนึ่งก็คือชื่อของกาแล็กซีแอนโดรเมดา เราก็เลยรู้สึกว่าชื่อนี้แหละเหมาะดี แถมเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็ยังเขียนง่ายด้วย ไทยก็ได้ฝรั่งก็ได้”
“หนึ่งคืนที่ผ่านมาสำหรับผม ผมรู้สึกว่าวิญญาณของการเป็นคุณพ่อมาเต็มแล้วครับ อุ้มเองได้ ห่อตัวเองได้ เปลี่ยนผ้าอ้อมเองได้ เพราะเราได้วางแผนกันเอาไว้แล้วว่าเราจะเลี้ยงลูกเอง โดยมีผมรับหน้าที่เป็นคนดูแล ส่วนคุณก้อยก็มีหน้าที่ให้นม"
งดรับงานยาวๆ ให้เวลาลูกสาว 100 เปอร์เซ็นต์ใน 3 เดือนแรก พร้อมปั๊มต่อ 3-4 คน
เจมส์ : "ส่วนเรื่องของการทำงาน ผมคิดว่าในช่วง 3 เดือนแรกผมจะให้เวลากับเมดา 100 เปอร์เซ็นต์ จะไม่รับงานยาวๆ โดยเฉพาะงานละครยาวคงต้องขอพักก่อนครับ ส่วนของสำหรับน้องตอนนี้เตรียมไว้เกินพร้อมมากๆ ครับ สามารถมีลูกได้อีก 3-4 คนเลย (หัวเราะ) คือเราโชคดีมากที่มีพี่ๆ น้องๆ ที่เขาติดตามครูก้อยและเขาหยิบยื่นอุปกรณ์ของใช้มาให้พวกเราตลอด ตอนนี้เต็มบ้านไปหมดแล้วครับ อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเด็กตอนนี้เต็มบ้านเราแล้วครับ เหลืออย่างเดียวคือร่างกายเอาให้ไหวแล้วกัน (หัวเราะ)”
เผยปู่ย่าตายายเห่อหลานกันทุกคน และวางแผนมีลูกคนต่อไปในทันถ้าร่างกายพร้อม
ครูก้อย : "เมื่อวานคุณปู่คุณตาคุณย่าคุณยายก็รับขวัญกันเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ก็เล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ไม่ได้มากมายอะไร”
เจมส์ : “เรียกว่าเห่อระดับที่ว่ามากๆ ครับ พอสำหรับบ้านครูก้อย เมดาถือเป็นหลานสาวคนแรกของครอบครัว ก็เลยจะเห่อเป็นพิเศษ แถมคุณยายมาจากใต้ก็ยังเดินทางมาช่วยเลี้ยงด้วย มาช่วยทำอาหารเลี้ยงหลานในช่วงที่ครูก้อยต้องดูแลลูก"
"ถามว่าจะมีคนต่อไปเลยม้ัย จริงๆ ปีนี้ครูก้อยเขาก็อายุ 35 ย่าง 36 แล้ว ดังนั้นเราจึงมีความตั้งใจว่า ถ้าหากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะมีลูกคนต่อไปทันที ดำเนินการขั้นตอนต่อไปให้เร็วที่สุด เพื่อให้เมดามีน้องทันทีครับ ถ้าเลือกได้ก็อยากจะมีให้ครบครับ เพราะเรามีหญิงแล้วเราก็อยากจะมีชาย แต่ยังไงก็ได้หมดครับได้หญิงอีกคนก็โอเค แต่แค่ 2 คนก็พอ ในฐานะที่ผมเป็นพ่อ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้ก้าวไปสู่อีกขั้นของการมีชีวิต เป้าหมายชีวิตที่เคยวางไว้มันเปลี่ยนไปเลยในทันที ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมันคือการสร้างอนาคตให้กับเขา”
ครูก้อย : “จริงๆ เราเองก็อยากจะมีลูกกันทันทีนับตั้งแต่วันที่เราแต่งงาน และพอมันมีวันนี้เกิดขึ้น มันจึงเหมือนกับว่าเขาคือสิ่งที่เรารอคอย เขาคือคนที่เข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิตครอบครัวของเรา มีความสุขมากค่ะ"
บอกต่อไปคงหวงลูกสาวมาก คงต้องตามไปดูลูกทุกที่
เจมส์ : “ถามว่าต้องเริ่มไว้หนวดเลยมั้ย มันเป็นความกังวลมากกว่าครับว่าถ้าหากเขาโตเป็นสาวเราจะละสายตาได้หรือไม่ (หัวเราะ)"
ครูก้อย : "คุณเจมส์เขาบอกว่าเขาจะแอบตามลูกสาวไปทุกที่ ตามไปซุ่มดู"
เจมส์ : "จะไปแอบดูทุกที่ครับ ไม่ให้เขารู้ (หัวเราะ)"
